ในขณะที่ธุรกิจร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่เริ่มซบเซาลงเรื่อย ๆ และยากที่จะกอบกู้ให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ในประเทศเกาหลีใต้ ธุรกิจดังกล่าวยังคงมีความแข็งแกร่งมาตลอดหลายปี และกลายเป็นตัวแทนวัฒนธรรมสมัยใหม่ของเกาหลีใต้ จนเชื่อว่าอาจเป็นประเทศสุดท้ายบนโลกที่ยังมีร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ให้ใช้บริการ โดยบทความนี้จะเป็นการทำความรู้จักกับ PC bang สถานที่รวมตัวของเหล่าเกมเมอร์แดนกิมจิที่ยังไม่ตาย
ต้นกำเนิด PC bang
เกมเมอร์หลายคนคิดว่าร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ได้ถือกำเนิดขึ้นในช่วงปลายปี 1990 แต่ความจริงแล้ว ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ได้กำเนิดขึ้นเร็วกว่านั้น
อ้างอิงจากเว็บไซต์ KISA ระบุว่าศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยฮงอิก Ahn Sang-soo และศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยกุกมิน Gum Nu-ri เป็นผู้ให้กำเนิดอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ร้านแรกในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งพวกเขาได้ตั้งชื่อร้านว่า “Jeonja Kape” หรือแปลเป็นอังกฤษได้ความหมายว่า “Electronic Cafe” โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมปี 1998 ที่ใกล้มหาวิทยาลัยฮงอิก
PC ในร้าน Jeonja Kape ส่วนใหญ่เป็นคอมพิวเตอร์รุ่น 16-Bit และเชื่อมต่อด้วยสายโทรศัพท์ ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ใช้บริการร้าน Jeonja Kape เพื่อทำงานด้านการติดต่อสื่อสาร และต่อมา ร้านได้กลายเป็นแหล่งรวมสำหรับคนคลั่งไคล้ในเรื่องคอมพิวเตอร์
แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก PC เป็นอุปกรณ์ที่มีราคาขายค่อนข้างสูง และไม่ใช่ของที่จำเป็นต้องมีในยุคนั้น ทำให้ร้าน Jeonja Kape ได้รับความนิยมเฉพาะผู้คนในแถบนั้น และเปิดให้บริการได้เพียง 3 ปี ร้านก็ต้องปิดให้บริการไปอย่างน่าเสียดาย
PC Bang ในช่วงปี 1990
อย่างไรก็ตาม ชาวเกาหลีใต้โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว เริ่มมีมุมมองต่อเครื่อง PC ที่เปลี่ยนไป ตอนแรกหลายคนคิดว่า PC คืออุปกรณ์สำหรับใช้ทำงานเท่านั้น แต่ช่วงกลางปี 1990 ตัวแทนจำหน่าย และนักพัฒนาเกมได้วางจำหน่ายเกมลงระบบ PC มากขึ้น ทำให้ PC นอกจากจะเป็นอุปกรณ์สำหรับทำงานแล้ว มันยังสามารถใช้เล่นเกมได้อีกด้วย
ถึงอย่างนั้น แม้ PC ได้รับความสนใจมากขึ้น แต่มันก็ยังคงเป็นอุปกรณ์ราคาแพง ที่เกมเมอร์กระเป๋าตังค์เบาหลายคนไม่สามารถซื้อ PC มาครอบครองได้ พวกเขาจึงใช้ทางเลือกอื่น ด้วยการใช้บริการร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ชื่อว่า BNC หรือ Bit Communication Cafe ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “PC bang” ที่แท้จริงแห่งแรก
BNC ก่อตั้งครั้งแรกโดย Jung Min-Ho เมื่อปี 1994 ในอำเภอซอโช ซึ่งร้านดังกล่าวมีชื่อเรียกที่หลากหลาย บางคนเรียกว่าเป็น “ร้านโมเดมคาเฟ่” “ร้านเน็ตเวิร์กคาเฟ่” “ร้านอิเล็กทรอนิกส์คาเฟ่” หรือ “ร้านไซเบอร์คาเฟ่” โดยส่วนใหญ่ ผู้คนใช้บริการร้าน BNC เพื่อสื่อสารกันบนโลกออนไลน์, หางาน, ทำงานเอกสารผ่านคอมพิวเตอร์ และแน่นอน บางคนใช้บริการร้านเพื่อเล่นเกม PC โดยเฉพาะ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่เริ่มได้รับความนิยม และเป็นที่รู้จักต่อชาวเกาหลีใต้เป็นอย่างมาก
Starcraft
ต่อมาในปี 1998 เกมแนววางแผน Starcraft ของค่าย Blizzard ได้รับความนิยมแบบมาแรงจัดในประเทศเกาหลีใต้ รวมถึงเป็นปีที่เกมออนไลน์สำหรับ PC หลายเกมได้เปิดให้บริการในประเทศ ส่งผลทำให้ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ มีความต้องการจากผู้เล่นที่สูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จนปีต่อ ๆ มา ประเทศเกาหลีใต้ได้ถือกำเนิดอินเทอร์เน็ตคาเฟ่เป็นจำนวนหลายร้าน และสังคมเกาหลีใต้ เริ่มเรียกชื่อร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ว่า “PC bang” (แปลว่า PC Room) คล้ายกับการเรียกห้องร้องเพลงคาราโอเกะว่า “Noraebang” หรือห้องตีกอล์ฟขนาดเล็ก “Screen golf bang”
เนื่องจาก PC bang หาเจอได้ง่าย เหมือนหาร้านอาร์เคดเซนเตอร์ในประเทศญี่ปุ่น ธุรกิจ PC bang ในเกาหลีใต้จึงมีการแข่งขันสูงมาก ส่งผลทำให้ทุกร้านจำเป็นต้องคอยอัปเกรดด้านการบริการอยู่ตลอดเวลา ทั้งการอัปเกรดคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องให้มีประสิทธิภาพสูงสุด, เสนอเมนูอาหารที่หลากหลาย ทั้งของกินเล่น อาหารสำเร็จรูป และมื้ออาหารจริง ๆ กับหมั่นตรวจสอบให้มั่นใจว่าสัญญาณอินเทอร์เน็ตในร้านต้องมีความเร็วสูง มีความเสถียร จนไม่สามารถสร้างความรบกวนระหว่างเล่นเกมออนไลน์ได้
ปัจจุบัน PC bang กลายเป็นจุดนัดรวมของเหล่าเกมเมอร์แดนกิมจิ ที่ทั้งผู้เล่นสาย Casual, Hardcore จนถึงนักแข่ง Esports ต่างมาที่นี่ เพื่อทำกิจกรรมเล่นเกมและแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับเกมอย่างสนุกสนาน รวมถึงเป็นตัวแทนในการนำเสนอวัฒนธรรมสมัยใหม่ของประเทศเกาหลีใต้ ที่แสดงให้เห็นว่าอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ในประเทศยังมีความสตรอง
ทำไม PC bang ยังสตรองในเกาหลีใต้
เหมือนที่กล่าวไว้ด้านบน ในขณะที่ธุรกิจอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ในหลายประเทศซบเซาอย่างต่อเนื่อง แต่ประเทศเกาหลีใต้ ร้าน PC bang กลับยังคงมีความครึกครื้น และไม่มีท่าทีว่าธุรกิจดังกล่าวจะตายในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเกมเมอร์หลายคนอาจสงสัยว่าเพราะอะไร ทำไม PC bang จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของชาวเกาหลีใต้ไปได้
PC bang เป็นสถานที่ที่มากกว่าแค่การเล่นเกม
หลายคนคิดว่า PC bang เหมือนกับร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่เวอร์ชัน VIP ที่ดูหรูหรากว่าของบ้านเรา แต่ PC bang ไม่ใช่เป็นสถานที่สำหรับเล่นเกมเพียงอย่างเดียว แต่เป็นสถานที่สำหรับจัดการแข่งขัน Esports ขนาดเล็กจนถึงขนาดกลางอีกด้วย เพราะธรรมชาติของร้าน PC bang ที่ PC ทุกเครื่องมีประสิทธิภาพสูงมาก จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่การแข่งขัน Esports ในรอบคัดเลือก หรือการแข่งขันระดับท้องถิ่น มักจะจัดแข่งกันที่ร้าน PC bang ที่อาจใกล้บ้านคุณ
นอกจากนี้ หลายคนแสดงความคิดเห็นว่า PC bang เป็นสถานที่ให้สภาพแวดล้อมปราศจากความเครียด เต็มไปความสนุกสนาน หลังจากเรียนหรือทำงานเสร็จ บางคนจะเข้าใช้บริการ PC bang เพื่อเสพบรรยากาศผ่อนคลายโดยเฉพาะ
PC bang มอบข้อเสนอที่เกมเมอร์ไม่อาจปฏิเสธได้
ใน PC bang เกมเมอร์ทุกคนสามารถเข้าถึง PC ประสิทธิภาพสูงได้อย่างแท้จริง โดยทุกการเล่น 1 ชั่วโมง ร้านจะคิดราคาที่ 1,000 วอน หรือราว 30 บาท ซึ่งเป็นราคามาตรฐานที่นิยมตั้งกัน รวมถึงบางร้านได้มอบข้อเสนอพิเศษ ที่หากใช้บริการสะสมต่อเนื่องจนครบตามจำนวนชั่วโมงที่กำหนดไว้ ผู้ใช้บริการจะได้รับสิทธิ์เล่นฟรีเพิ่มเติมอีกด้วย ด้วยค่าขอใช้บริการที่ถูกมาก เกมเมอร์บางส่วนจึงยอมจ่ายเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับ PC bang เพื่อเข้าถึง PC ประสิทธิภาพสูงมากกว่าการซื้อ PC ที่มีราคาแพง
เกาหลีใต้มีสังคมแบบ Collectivist Culture
ประเทศเกาหลีใต้ มีรูปแบบวัฒนธรรม Collectivist Culture ที่เน้นอยู่รวมกันเป็นกลุ่มมากกว่าการพึ่งพาด้วยตัวเอง และต้องการเป็นที่ยอมรับจากสังคม ซึ่งวัฒนธรรมการใช้ชีวิตดังกล่าว ก็มีส่วนทำให้ PC bang กลายเป็นแหล่งรวมของสังคมคนชอบเล่นเกมไปโดยปริยาย
ในปี 2020 หน่วยงาน Korea Creative Content Agency เผยว่าสาเหตุอันดับ 1 ที่เกมเมอร์เข้าใช้บริการ PC bang ก็เพื่อนัดเจอเพื่อน โดยเกมส่วนใหญ่ที่เล่นกันในร้าน PC bang เป็นเกมประเภท Multiplayer Competitive เช่น Overwatch, Rainbow Six Siege, League of Legends โดยอันดับรองลงมาคือเกมแนว MMORPG กับ FPS
เพราะ PC bang กลายเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมเกมมิ่งของชาวเกาหลีใต้ แน่นอนว่าในมุมมองของคุณ อาจจะคิดว่ามันเป็นสวรรค์สำหรับเหล่าเกมเมอร์อย่างไม่ต้องสงสัย และต้องมีความรู้สึกอิจฉาไม่ใช่น้อย ที่ธุรกิจร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ซึ่งเริ่มเอาตัวรอดยากในยุคนี้ ยังรักษาความสตรองไว้ได้ในเกาหลีใต้ เพราะแรงสนับสนุนจากหลายฝ่ายล้วน ๆ
แหล่งอ้างอิง: Creatrip, KIRA, Iwanderlista
