ภาพยนตร์แนวสัตว์ประหลาด มอนสเตอร์ หรือไคจู เป็นหนึ่งในแนวหนังคลาสสิกที่สร้างความทรงจำกับความประทับใจให้ผู้ชม ด้วยเทคนิควิชวลเอฟเฟกต์พิเศษล้ำหน้ามาก่อนกาลในอดีต และแน่นอนว่าด้วยความนิยมของหนังประเภทมอนสเตอร์ ก็ทำให้ Rampage เกมอาร์เคดรับบทเป็นไคจูถล่มเมืองได้ถือกำเนิดขึ้น แล้วกลายเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์เกมดังที่สร้างความทรงจำให้เกมเมอร์หลายคน
ต้นกำเนิดของ Rampage
Rampage เป็นเกมที่เพลเยอร์รับเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ได้กลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาดไคจู แล้วออกอาละวาดทำลายล้างทั่วเมือง โดยเกมดังกล่าวมีต้นกำเนิดจากตู้เกมอาร์เคด แล้วพัฒนาภาคต่อจนมีเกมเวอร์ชันคอนโซล กับมีจำนวนภาคทั้งหมด 4 ภาค
ย้อนกลับไปช่วงปี 1986 หลังเกิดเหตุการณ์ Video Game Crash ผ่านไป 3 ปี ซึ่งบริษัทและทีมพัฒนาเกมหลายรายได้เริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ตอนนั้น นักออกแบบเกม Brian Colin และโปรแกรมเมอร์ Jeff Nauman ซึ่งทั้งสองคนเป็นคนชื่นชอบการเล่นเกมตู้เป็นชีวิตจิตใจ ได้เริ่มมองหาไอเดียในการสร้างผลงานเกมใหม่ จนกระทั่งวันหนึ่ง Brian Colin ได้รับแรงบันดาลใจจากการรับชมภาพยนตร์มอนสเตอร์คลาสสิกเรื่อง King Kong และ 20 Million Miles To Earth จึงเกิดไอเดียกลายเป็นเกม Rampage ในที่สุด
Rampage เป็นเกมตู้อาร์เคดที่มีระบบการเล่นไม่ซับซ้อน ในเกมนี้ เพลเยอร์รับบทเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ยักษ์ที่ออกอาละวาดทำลายล้างทั่วเมือง โดยคะแนน Score ของเกม Rampage สามารถนับเพิ่มจากการทำลายตึกราวบ้านช่อง, ทำลายทรัพยากรกับยานพาหนะ และจับมนุษย์กิน ซึ่งระหว่างการเล่น เพลเยอร์ต้องเอาตัวรอดจากทหารที่ออกมาขัดขวางคุณ โดยหากมอนสเตอร์ (หรือคุณ) ได้รับความเสียหายมากจนเกินไปจนหลอดพลังเลือดหมด มอนสเตอร์จะกลับร่างกลายเป็นมนุษย์ แล้ว Game Over หรือขึ้นหน้า Continue โดยทันที
Rampage ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในเกมตู้อาร์เคดของค่าย Midway ที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งนอกจาก Rampage ได้รับเสียงชื่นชมในด้านระบบเกมเพลย์แล้ว เกมดังกล่าวมีกระแสตอบรับที่ดีมากในด้านภาพกราฟิก ความใส่ใจในรายละเอียดของฉาก และด้านการดึงประสิทธิภาพของตู้เกมที่ถึงจุดขีดสุด
ด้วยความนิยมของ Rampage ทำให้เกมดังกล่าวถูกพอร์ตลงเกมคอนโซลกับคอมพิวเตอร์หลายรุ่น เช่น SEGA Master System, Commodore 64, Atari Lynx และอื่น ๆ รวมทั้งหมดเป็น 12 ระบบ
อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับการเล่น Rampage ก็ยังคงเป็นเวอร์ชันตู้เกม เพราะช่วงนั้น ตู้เกมยังครองแชมป์เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพทรงพลัง สามารถเล่นเกมอย่างลื่นไหลโดยไม่ติดขัด แตกต่างจากคอนโซลที่หลายเกม (รวมถึง Rampage) จำเป็นต้องมีการดาวน์เกรดกราฟิก เพื่อให้เกมสามารถรันได้บนเกมคอนโซล ซึ่งยังมีข้อจำกัดทางด้านประสิทธิภาพ
Rampage World Tour
หลังจาก Rampage ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น Brian Colin และ Jeff Nauman ได้ตัดสินใจพัฒนาเกมภาคต่อ ในปี 1997 ทีมงาน Midway ได้ออกวางจำหน่ายเกมภาคใหม่ชื่อว่า Rampage World Tour โดยเกมดังกล่าวมีระบบการเล่นที่ไม่แตกต่างจากเกมภาคแรก แต่มีการเพิ่ม Stage ใหม่ ภาพกราฟิกที่สวยงามกว่าเดิม และมอนสเตอร์ใหม่ที่ไม่เคยมีในเกมภาคแรก
Rampage World Tour มีระบบเกมการเล่นที่สนุกสนานเหมือนเดิม แต่อย่างไรก็ตาม สื่อเกมและเพลเยอร์บางส่วน วิจารณ์ว่าเกมดังกล่าวไม่มีการปรับปรุง และไม่มีการเพิ่มลูกเล่นใหม่ที่น่าสนใจ ส่งผลทำให้ตัวเกม Repetitive น่าเบื่อ เพราะทั้งเกมต้องกดปุ่มรัว Button Mashing ทำลายตึก เพื่อเอาชนะเกมให้ได้
แม้ Rampage World Tour มีคะแนนรีวิวระดับ “Mixed” ที่มีทั้งมีคนชอบและไม่ชอบ แต่เกมดังกล่าวก็ยังสามารถทำยอดขายได้ดีพอ จน Midway อนุมัติให้สร้างเกมภาคใหม่อีกภาคหนึ่ง
Rampage 2 Universal Tour
Rampage 2 Universal Tour เป็นภาคต่อที่คาดว่าเพลเยอร์หลายคนน่าจะรู้จักมากที่สุด เพราะได้ลงระบบ PlayStation ซึ่งเป็นเกมคอนโซลบ้านที่ได้รับความนิยมในบ้านเรา
ในภาคนี้ ทีมงาน Avalanche Software (ผู้สร้างเดียวกับเกม Hogwarts Legacy) ได้ออกแบบ Stage ด่านต่าง ๆ ที่อ้างอิงมาจากสถานที่จริง ให้เพลเยอร์สามารถทำลายอาคารหรือตึกยักษ์ที่เป็น Landmark สำคัญของแต่ละประเทศ เช่น หอคอยแห่งลอนดอน, หอนาฬิกาบิกเบน, ทำเนียบขาว, ตึกไครสเลอร์, ตึกเอ็มไพร์สเตต, วิลลิสทาวเวอร์ และอาคารเวิลด์เทรดเซนเตอร์ (ปัจจุบัน ตึกดังกล่าวได้โดนทำลายจากเหตุการณ์ 9/11)
นอกจากนี้ ตัวเกมได้นำเสนอระบบ Superpower ที่มอนสเตอร์แต่ละตัว จะมีความสามารถปล่อยพลังพิเศษ ทำลายเมืองให้ราบคาบภายในพริบตา ซึ่งช่วยให้เกมเพลย์มีความหลากหลายมากขึ้น
แต่ถึงอย่างนั้นคอร์เกมเพลย์ของ Rampage 2 Universal Tour ก็พบกับปัญหาเดิม ๆ จากภาคเก่า เนื่องจากตัวเกมยังเน้นทำลายตึกเป็นจำนวนมากเพื่อทำคะแนนสูงสุด รวมถึงลูกเล่นต่าง ๆ ไม่ได้ถูกเพิ่มเข้ามา ซึ่งแม้เกมมีการขัดเกลามาดีกว่าภาคก่อน แต่เกมนี้ยังคงไม่เป็นที่ชื่นชอบสำหรับสื่อกับเกมเมอร์บางคน เนื่องจากตัวเกมไม่มีการพัฒนาอย่างเห็นได้ชัดติดต่อกันแล้ว 2 ภาค
Rampage Through Time
และแล้วก็มาถึงจุดตกต่ำของซีรีส์ เกม Rampage Through Time ซึ่งออกวางจำหน่ายบนระบบ PlayStation แบบ Exclusive ในปี 2000 มีกระสอบตอบรับที่ย่ำแย่ เพราะนอกจากเกมเพลย์ไม่มีการพัฒนาเพิ่มเติมจากภาคก่อนหน้านี้แล้ว ตัวเกมมีปัญหาหลายด้าน ที่ทำให้การเล่นไม่สนุกสนานเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรม AI ที่แย่, การควบคุมตัวละครขาดการตอบสนองที่ดี มีอาการ Input Delay หลายครั้ง และมินิเกมที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ไม่มีความแตกต่างจากโหมดหลัก ทำให้ภาค Through Time มีกระแสตอบรับเงียบเหงา พร้อมมียอดขายที่ไม่น่าประทับใจ
รื้อฟื้นความนิยมอีกครั้ง แล้วก็หายจากไปอีกรอบ
Rampage Total Destruction
หลังจากห่างหายไปนานถึง 5 ปี จนเกมเมอร์หลายคนคิดว่าซีรีส์ Rampage ไม่มีการพัฒนาเกมภาคต่อ เนื่องจากภาค Through Time มีกระแสตอบรับไม่ดี จู่ ๆ ทีมงาน Midway ก็ได้ประกาศเปิดตัวเกม Rampage ภาคใหม่ชื่อว่า Total Destruction ซึ่งพัฒนาโดยทีมงาน Pipeworks Software และเป็นเกมแรกของตระกูลที่ใช้ภาพกราฟิกโมเดล 3 มิติ
Rampage Total Destruction ได้ยกระดับระบบเกมการเล่นใหม่ ให้เพลเยอร์สามารถปีนหน้าตึกได้แล้ว รวมถึงสามารถหยิบรถขึ้นมา เพื่อทำลายตึกหรือทำลายเฮลิคอปเตอร์ นอกจากนี้ ตัวเกมได้ใส่ระบบ Collection ที่หากผู้เล่นเก็บ Token ในสถานที่ที่ค่อนข้างลับหูลับตา จะเป็นการปลดล็อกความสามารถพิเศษ ช่วยให้ตัวละครมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
แม้ Rampage Total Destruction มีคะแนนรีวิวในระดับปานกลาง ไม่ใช่เป็นเกมแย่และเกมที่ดี เกมดังกล่าวสามารถขายได้เกิน 1 ล้านชุด ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขยอดขายที่ค่อนข้างน่าประทับใจ จึงยังพอมีความหวังที่เกม Rampage จะถูกพัฒนาภาคใหม่ในอนาคต
ขณะที่แฟน ๆ บางส่วนยังรอคอยกับเกม Rampage ภาคใหม่ ในปี 2009 ทีมตัวแทนจำหน่าย Midway Games ได้ประกาศยื่นล้มละลายอย่างเป็นทางการ แม้ Warner Bros. เข้าซื้อลิขสิทธิ์เกม Rampage อย่างเป็นทางการต่อจาก Midway Games แต่นับตั้งแต่เวลานั้นเป็นต้นมา ก็ไม่มีข่าวสารเกี่ยวกับเกมตระกูล Rampage อีกเลย
Rampage คือเกมในความทรงจำ ที่หลายคนชื่นชอบในวัยเด็ก
ในปี 2018 ทาง Warner Bros. ได้กลับมารื้อฟื้นเกม Rampage อีกครั้งในรูปแบบภาพยนตร์แอ็กชันในชื่อเดียวกัน ซึ่งนำแสดงโดยอดีตนักมวยปล้ Dwayne “The Rock” Johnson แม้ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวมีกระแสตอบรับเป็นหนังบันเทิงทั่วไป แต่การเปิดตัวหนังเรื่องนี้ ก็ช่วยสร้างความคิดถึงให้เกมเมอร์หลายคนเช่นกัน
แม้ Rampage มีโอกาสถูกสร้างเป็นเกมภาคใหม่ค่อนข้างมีเปอร์เซ็นต์น้อย เพราะเกมมีกระแสตอบรับไม่ค่อยดีติดต่อกันหลายภาค รวมถึงปัจจุบัน พฤติกรรมการเล่นเกมของผู้เล่นที่เปลี่ยนไป แต่เรามั่นใจว่าหากเกม Rampage ได้รับการรื้อฟื้น เราเกมเมอร์ในยุค 90’s ก็พร้อมต้อนรับกับการกลับมาอีกครั้งของซีรีส์นี้อย่างแน่นอน