Teabagging เป็นหนึ่งในท่า Taunt ยอดนิยมที่ใช้สำหรับการยั่วโมโหเพลเยอร์ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเรามั่นใจว่าคุณต้องเคยหัวร้อนกับการโดน Teabagging สักครั้งหนึ่งในชีวิตระหว่างเล่นเกม Multiplayer
แน่นอนว่าไม่ใช่เพลเยอร์ทุกคนจะชื่นชอบการโดนดูถูกเหยียดหยาม แม้ Teabagging ได้อยู่คู่กับวงการเกมมานาน แต่ทุกวันนี้ Taunt ดังกล่าวก็ยังคงมีเป็นประเด็นถกเถียงอย่างต่อเนื่องว่ามันจัดเป็นพฤติกรรม Toxic หรือไม่ ซึ่งวันนี้เราก็จะให้ทำความรู้จักกับท่า Taunt ปัญหาโลกแตกอย่าง Teabagging กัน
Teabagging ท่า Taunt ที่อยู่คู่สังคมเกมมานาน
คนทั่วไป อาจเข้าใจความหมายคำว่า ‘Teabag’ หมายถึงผลิตภัณฑ์ถุงชา หรือบางคน อาจเข้าใจว่า ‘Teabag’ เป็นท่า ‘Sexual Act’ ที่เคยถูกนำมาใช้ในการรายงานข่าวล่วงละเมิดทางเพศในชีวิตจริง หรือเป็นการแสดงท่าทางเพื่อให้เกิดอารมณ์ทางเพศรูปแบบหนึ่ง ที่ถูกนิยาม (อย่างไม่เป็นทางการ) โดย John Waters นักกำกับภาพยนตร์เรื่อง Pegger
หรือ ‘Teabag’ อาจหมายถึงท่าเต้นยอดนิยมของผู้ชายในอดีต แต่สำหรับวงการเกม ‘Teabagging“ เป็นท่า Taunt ยอดนิยมอย่างหนึ่งที่ไว้ใช้สำหรับการดูถูก หรือยั่วโมโหเพลเยอร์ ด้วยการกดนั่งยองรัว ๆ ที่ศพ Ragdoll หรือตัวละครที่เพลเยอร์ฝ่ายตรงข้ามกำลังควบคุม
Teabagging เป็นท่า Taunt ที่อยู่คู่วงการเกมมานานหลายปี และก็ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงว่า Teabagging จัดเป็นพฤติกรรม Toxic หรือไม่ แต่ก่อนที่ด่วนสรุป เราควรเข้าใจประวัติความเป็นมาของ Teabagging ก่อน
บทความของ Kotaku ระบุว่า Teabagging อาจเริ่มใช้ครั้งแรกใน Counter-Strike หรือ Quake 2 เกมเน้นระบบ Multiplayer ในยุคปลายปี 1990 ที่ได้รับความนิยมจากเหล่าเกมเมอร์เป็นอย่างมาก โดยอ้างอิงจากบทความหลายแห่ง ท่า Teabagging รับแรงบันดาลใจมาท่าเต้นในชื่อเดียวกัน ซึ่งในชีวิตจริงท่าเต้นดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างมากในคลับเกย์แถวเมือง Baltimore ทำให้เกมเมอร์บางคนสามารถสร้างสรรค์ ปิ๊งไอเดียจนถือกำเนิดท่าเป็น Taunt ชนิดนี้ในที่สุด
ตอนแรกการ Teabagging เป็น Taunt ที่ได้รับความนิยมเฉพาะในกลุ่มสังคมคนเล่นเกม Counter-Strike และ Quakes 2 เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากการวางจำหน่ายเกม Halo: Combat Evolved บน Xbox ในปี 2001 ก็ทำให้ท่า Teabagging กลายเป็นที่รู้จักต่อเกมเมอร์ทั่วโลก
Halo: Combat Evolved เป็นเกม Exclusive ของ Xbox ที่สร้างนวัตกรรมต่อวงการเกมในด้านการเข้าถึงระบบ Multiplayer โดยหนึ่งในฟีเจอร์เด่นของ Halo: Combat Evolved ที่หลายเกมยืมนำมาใช้จนกลายเป็นมาตรฐานของเกมแนว Multiplayer ในปัจจุบัน นั่นก็คือ Killcam
Killcam เป็นระบบมุมกล้องที่หากผู้เล่นตาย ตัวเกมจะโชว์ตัวละครเพลเยอร์ฝ่ายตรงข้ามที่สังหารคุณ ซึ่งแน่นอนว่าคนเล่นเกมหลายคน ได้นำท่า Teabagging จาก Counter-Strike หรือ Quakes 2 มาใช้ในเกม Halo: Combat Evolved ส่งผลทำให้ท่า Taunt นี้เป็นรู้จักต่อเกมเมอร์ทั่วโลก
หลังจากหลายคนรู้จัก Teabagging จากเกม Halo: Combat Evolved ท่าดังกล่าวก็ได้ถูกนำไปใช้ในเกมต่อ ๆ มา เช่น World of Warcraft, Battlefield, Call of Duty, Street Fighter และอื่น ๆ อีกหลายเกม จนปัจจุบัน Teabagging เป็นท่า Taunt ที่ทุกคนต้องเคยโดนสักครั้งหนึ่งในชีวิตจากการเล่นเกมแนว Multiplayer รวมถึงมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเกมไปแล้ว
ซึ่งมันก็ได้ผลจริง Teabagging จัดเป็นท่า Taunt ที่เกมเมอร์เห็นแล้วอาจต้องมีอาการ “ของขึ้น” ไม่มากก็น้อย เพราะมันเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่ง (ในวงการเกม) ที่แสดงให้เห็นว่าผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามได้ทำการ “ครอบงำ” ผู้เล่นอย่างเต็มรูปแบบ โดย SonicFox ผู้เล่นเกมแนวต่อสู้ระดับมือโปรฯ ยอมรับว่าเขาเคยใช้วิธี Teabagging เพื่อยั่วโมโหคู่แข่ง ให้ฝ่ายตรงข้ามสูญเสียสติสัมปชัญญะ แล้วเปิดช่องว่างให้ SonicFox สามารถเอาชนะการแข่งขันได้ง่ายขึ้น
Teabagging กับกระแสตอบรับของเพลเยอร์ที่มีมุมมองต่างกัน
แม้ Teabagging เป็น Taunt ที่คู่กับสังคมเกมมานาน และเป็นสิ่งที่เราเห็นเป็นประจำในเกมเกือบทุกวัน แต่ปัจจุบัน ท่า Taunt ดังกล่าวเริ่มมีกระแสตอบรับที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
Teabagging เป็นประเด็นดราม่าที่ยังคงมีการถกเถียงในสังคมเกมตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน โดยเพลเยอร์บางกลุ่มเชื่อว่าท่า Taunt ดังกล่าวเป็นท่าดูถูกสนุก ๆ ขำ ๆ และเป็นเทคนิคกำราบคู่แข่งโดยใช้จิตวิทยาอย่างหนึ่ง ซึ่งยังห่างไกลจากพฤติกรรมที่เรียกว่า Toxic แต่อีกหลายคน ก็มองว่า Teabagging เป็นการแสดงพฤติกรรมที่ไม่ให้เกียรติต่อคนเล่นเกม เป็นการระรานคนอื่นเพื่อความบันเทิงส่วนตัว รวมถึงเป็นการแสดงพฤติกรรมที่เข้าข่ายล่วงละเมิดทางเพศ (เพราะ Teabagging มีความหมายเป็น Sexual Act อย่างหนึ่ง) ควรมีการควบคุม เพื่อรักษาบรรยากาศเกมให้เต็มไปด้วยความสนุกสนานและสงบสุข
ทุกการแข่งขัน Esports หรือการแข่งขัน Competitive ขนาดเล็ก ไม่ว่า Overwatch League, Call of Duty League และรายการอื่น ๆ มักมีผู้ชมวิจารณ์การกระทำของเหล่าเพลเยอร์ที่ Teabagging คนอื่นว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และ “ไม่มีความเป็นมืออาชีพ” ซึ่งเพลเยอร์บางส่วนก็เชื่อว่า Teabagging เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเกม ทุกคนควรรับกับมันให้ได้ เพราะหากเล่นเกม Multiplayer ที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้เล่นหลายคน คุณต้องเจอการถูก Teabagging เกือบทุกวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แม้ Teabagging เป็นปัญหาโลกแตกที่คาดว่าไม่สามารถแก้ไขได้ในเร็ว ๆ นี้ เพราะต้องอาศัยการเข้าใจกับอธิบายความหมายให้เกมเมอร์ทุกคนฟัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก ๆ แต่ Teabagging จะคงอยู่คู่กับวงการเกมต่อไป เพราะมันเป็นท่า Taunt ยอดนิยมที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเกมไปแล้ว แต่แน่นอน ไม่ได้ความหมายว่าเพลเยอร์จะสามารถดูถูกใครคนไหนใครก็ได้ เพียงเพราะตนเองมีฝีมือการเล่นเกมที่ดีกว่า ฉะนั้นท่า Taunt ควรใช้ให้ถูกสถานที่ ถูกคน ถูกกาลเทศะจะเป็นเรื่องดีที่สุด