หลังจากเกมเมอร์ได้ตื่นตาตื่นใจ สำหรับการเปิดตัวภาคต่อของเกม Arcade Racing ระดับตำนานอย่าง Need For Speed Heat ที่ภาคนี้ ทีมงาน Ghost Games กล่าวว่าจะนำเสนอซีรีส์ที่แตกต่างจากทุกภาค เพื่อให้สมกับการครบรอบ 25 ปี เกมตระกูล NFS
ถึงแม้ว่าทีเซอร์ Need For Speed Heat จะมีระยะเวลาเพียงสองนาที แต่วิดีโอดังกล่าวก็สามารถบอกใบ้หลายอย่างให้เกมเมอร์อย่างพวกเรา ได้คาดหวังอะไรจากเกมนี้บ้าง ทางเราจึงเริ่มวิเคราะห์ทีเซอร์ พร้อมคาดเดาว่า Need For Speed Heat จะมีไม้เด็ดอะไรที่น่าสนใจ เรามาสอดส่องกันดีกว่าครับ
Polestar 1
รถชูโรงของภาคนี้คือ Volvo Polestar 1 เป็นรถสปอร์ตคูเป้ Hybrid ที่สามารถทำความเร็ว 600 แรงม้า และมีแผนเริ่มผลิตช่วงต้นปี 2020 โดย NFS Heat อาจจะเกมแข่งรถเกมแรกที่ผู้เล่นจะได้ลองสัมผัสรถคันนี้
การแข่งขันรถแข่งรถจะแบ่งเป็นสองช่วงเวลา คือช่วงเวลากลางวันจะเป็นการแข่งรถแบบถูกกฎหมาย ที่มีการสนับสนุนโดยสปอนเซอร์ต่าง ๆ แต่ช่วงเวลากลางคืนจะเป็นการแข่งรถใต้ดิน ไม่มีกฎกติกา ไม่มีการรักษาน้ำใจนักกีฬา และผู้ชนะมีเพียงผู้เดียวเท่านั้น โดยการแข่งขันแบบถูกกฎหมายก็ได้กลับมาอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนานตั้งแต่ NFS: Shift 2 Unleashed ที่ออกวางจำหน่ายในปี 2011
ซึ่งโหมดการแข่งขันที่พบในทีเซอร์มี Street Racing, Drag Racing, Drift ยกเว้นการแข่งสนาม Off-Road ที่ยังไม่ยืนยันอย่างชัดเจน
บรรยากาศการแข่งขันรถยนต์แบบถูกกฎหมาย
อีเว้นท์การแข่งขันตอนกลางวันจะมีนิทรรศการชื่อว่า “Speedhunters Showdown” ซึ่งเป็นครั้งแรกที่กลุ่ม Speedhunters หรือแหล่งศูนย์รวมคอมมูนิตี้ของเหล่านักแต่งรถทั่วโลก เข้าเป็นพาร์ทเนอร์ให้เกม Need For Speed อย่างเต็มรูปแบบ (ไม่นับ Need For Speed No Limits ที่มาในฐานะเป็นอีเว้นท์พิเศษเท่านั้น)
ตำรวจใน NFS Heat จะดุดันกว่าเกม NFS ที่ผ่านมา
ทีเซอร์นี้มุ่งนำเสนอหน่วยตำรวจ ซึ่งเป็นฝั่งตัวร้ายหลักของเกมภาคนี้ โดยสังเกตเห็นชัดว่าฝ่ายตำรวจจะมีบทบาทเป็นอย่างมากในตอนกลางคืน ตั้งแต่การปราบปราม และจับกุมนักซิ่งนอกกฎอย่างเด็ดขาด รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ตำรวจ ก็ได้กลับมาสร้างอุปสรรคต่อการหลบหนีอีกครั้ง
โรงเก็บรถภายในเกม
ทีเซอร์บอกว่า ‘ถ้าพวกมันทำลาย เราก็สร้างใหม่ได้’ อาจบ่งบอกว่าระบบซากรถจาก NFS: Payback อาจกลับมาอีกครั้งในภาคนี้ และมีระบบความเสียหายของรถยนต์
แสงนีออนจัดจ้าด ให้อารมณ์เหมือนบรรยากาศยุค 80’s
การออกแบบแผนที่โดยรวม จะอ้างอิงสถานที่จากเขตไมอามี รัฐฟลอริดา แต่แม้เกมเป็นช่วงเวลายุคปัจจุบัน แต่ด้วยกราฟิกและแสงใช้สีนีออนที่เข้มมาก ทำให้เกมมีบรรยากาศเหมือนยุค 80’s หรือ Grand Theft Auto: Vice City และนอกจากนี้ ถนนของเกมมีทั้งแบบแห้ง และเปียกชื้น จึงเป็นไปได้ว่าเกมนี้จะมีระบบเปลี่ยนสภาพอากาศในรูปแบบไดนามิคเช่นกัน
Porsche 911 Carrera GTS 991.2 ออกเดบิวต์ครั้งแรกในเกม NFS
ระบบแต่งรถกลับมาอีกครั้ง และภาคนี้จะยกระดับการตกแต่งรถไปอีกขั้นหนึ่ง สังเกตจากรถทุกคันที่มีลวดลายเฉพาะตัว กับแปะสติกเกอร์สปอนเซอร์ รวมถึงรถ Porsche มีระบบแต่งไฮโดรลิก จึงคาดว่าสามารถแต่งรถบางประเภทสามารถแต่งแบบ Lowrider
488 GTB ถือเป็นการกลับมาอีกครั้งของแบรนด์ Ferrari ที่ปรากฎตัวล่าสุดตั้งแต่ NFS 2015
BMW M2 Competition F87 (ขวา)
ถึงแม้รถยนต์ที่เราคุ้นเคย เช่น Ford Mustang GT, Mazda RX-7, Lamborghini Countach และอื่น ๆ อีกมากมาย ได้กลับมาอีกครั้งใน NFS Heat แต่ก็มีรถยนต์น้องใหม่อย่าง BMW M2 Competition F87 กับ Ferrari 488 GTB มาให้สัมผัสในเกมนี้
หลังจาก EA ประกาศเปิดตัว Need for Speed Heat อย่างเป็นทางการไปแล้ว ทีมงาน Ghost Games ก็ได้ออกมาเผยข้อมูลเกมเบื้องต้น เพื่อเรียกน้ำย่อยให้สาวก NFS ทุกคนในกระทู้ Reddit ซึ่งมีหัวข้อไหนที่น่าสนใจบ้าง ก็สามารถรับชมได้เลยครับ
- เมืองในเกมมีชื่อว่า Palm City
- การแข่งรถผิดกฎหมายตอนกลางคืนจะมีความท้าทายกว่าการแข่งรถถูกกฎหมาย เพราะผู้เล่นต้องเสี่ยงกับการโดนตำรวจไล่ล่ามากขึ้น แต่ผลตอบแทนก็คุ้มค่าตามมา
- หน่วยตำรวจพิเศษ นำทีมโดยร้อยโท Mercer ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อปราบนักซิ่งนอกกฎหมายตอนกลางคืนโดยเฉพาะ โดยเขาจะมีบทบาทสำคัญต่อเนื้อเรื่อง Need for Speed Heat
- การแข่งขันตอนกลางวันจะเน้นเป็นเงินรางวัล ในขณะที่การแข่งรถนอกกฎหมายจะได้ค่าชื่อเสียง ซึ่งแน่นอนว่าผู้เล่นสามารถกำหนดสไตล์การเล่นเกมของตัวเองได้ตลอดเวลา
- บางอีเว้นท์การแข่งขันจะมีรางวัลเป็นของตกแต่งรถยนต์พิเศษ
ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนเวลากลางวัน กลางคืนได้ตลอดเวลา เมื่อผู้เล่นอยู่โรงเก็บรถ- ระบบ Speed Cards ของ Payback จะไม่มีอีกต่อไป
- ทีมงานจะเปิดเผยเกมเพลย์ Need For Speed Heat ครั้งแรกในงาน Gamescom Opening Night ตั้งแต่ฉากแอ็กชัน ฉากไล่ล่าตำรวจ การตกแต่งรถ ระบบโรงเก็บรถ รวมถึงระบบขับรถแบบใหม่
- NFS Heat ปล่อยจำหน่ายวันที่ 8 พฤศจิกายน 2019 และ 5 พฤศจิกายน 2019 สำหรับสมาชิก Origin Access Premier บนระบบ PC, PlayStation 4 และ Xbox One
