ศัตรูร้ายที่กลายเป็นพวกเราแบบงง ๆ

ในศาสตร์ของการเล่าเรื่องโดยส่วนใหญ่ องค์ประกอบหรือตัวละครสำคัญอย่างหนี่งที่จะขาดไปเสียไม่ได้ก็คือ “ตัวร้าย” ที่คอยขับเคลื่อนเนื้อหาหรือเข้ามาท้าทายฝีมือตัวเอกทำให้เกิดเรื่องราวอันเข้มข้นและความตื่นเต้น

บ่อยครั้ง ตัวร้ายในนั้นมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าตัวเอก ไม่ว่าจะเป็นในนิยาย ภาพยนตร์ หรือแม้แต่วิดีโอเกมจนถึงขนาดมีคนพูดว่า “ตัวร้ายที่โดดเด่นมีเสน่ห์นั้นมีความสำคัญยิ่งกว่าตัวเอกซะอีก” ถ้าจะยกตัวอย่างแบบชัด ๆ ก็คงต้องเป็น The Joker จากเรื่อง The Dark Knight ซึ่งแสดงโดย Heath Ledger ที่กลายเป็นตำนานจากการสวมบทบาทได้อย่างถึงแก่น หรือถ้าเป็นวิดีโอเกมก็คงเป็น Far Cry 3 ซึ่งเป็นที่รู้จักเพราะการนำเสนอวายร้ายที่แสดงออกถึง “ความจิต” ได้อย่างถึงแก่นจนเป็นเอกลักษณ์

แต่ก็มีหลายครั้งเช่นกันที่เรื่องราวเกิดการหักมุม ตัวร้ายในเรื่องกลับกลายเป็นพรรคพวกหรือพันธมิตรของฝ่ายตัวเอกแบบคาดไม่ถึง เราลองมาดูกันว่าวายร้ายกลับขั้วที่น่าสนใจมีใครกันบ้าง

*คำเตือน: บทความต่อจากนี้มีการสปอยล์เนื้อเรื่องของเกมหลายเกม

Geth (ซีรีส์ Mass Effect)

Mass Effect ภาคแรกแนะนำให้ผู้เล่นได้รู้จักกับเผ่าปัญญาประดิษฐ์วายร้ายที่เรียกกันว่า Geth ซึ่งก่อกบฎและทำสงครามกับเผ่า Quarian ซึ่งเป็นผู้สร้างและขับไล่เหล่า Quarian ให้ต้องหนีออกจากดาวบ้านเกิดเมื่อหลายร้อยปีก่อน โดยนอกจากประวัติที่ดูชั่วร้ายแล้ว Geth ยังเป็นศัตรูหลักที่ผู้การ Shepard ซึ่งเป็นตัวเอกจะต้องต่อกรด้วยไปตลอดทั้งเกมจนพาลให้เกิดอคติและความไม่ชอบไปโดยปริยาย

แต่เมื่อมาเล่น Mass Effect 2 ซึ่งเป็นภาคต่อ ผู้เล่นกลับได้พบกับ Legion ซึ่งเป็นยูนิต Geth แบบพิเศษที่ถูกส่งมาตามหา Shepard และได้รู้ความจริงว่า Geth ที่เป็นตัวร้ายในภาคแรกนั้นเป็นแค่กลุ่มเล็ก ๆ ที่แยกตัวออกมาเพราะอยากได้เทคโนโลยีของพวก Reaper แต่กลุ่ม Geth ที่แท้จริงโดยส่วนใหญ่ไม่ได้หวังเทคโนโลยีหรืออยากก่อสงครามและได้ส่ง Legion มาเพื่อเข้าร่วมภารกิจท้าตายกับผู้การ Shepard

นอกจากนี้ Geth ยังเป็นอีกหนึ่งในกองกำลังที่ผู้การ Shepard สามารถชวนเข้าเป็นพวกเพื่อต่อสู้กับ Reaper ในระหว่างสงครามครั้งสุดท้ายใน Mass Effect 3 ได้อีกด้วย

Vortigaunt (ซีรีส์ Half-Life)

Vortigaunt เป็นหนึ่งในศัตรูมาตรฐานซึ่ง Gordon Freeman ต้องเจอไปตลอดเนื้อเรื่องของ Half-Life ภาคแรก และผู้เล่นทุกคนต่างก็เข็ดขยาดและเกลียด Vortigaunt กันด้วยหลายสาเหตุ

Vortigaunt เป็นเอเลี่ยนต่างมิติที่มีร่างโปร่งสีน้ำตาลและดวงตากลมโตสีแดง ใช้ไฟฟ้าเป็นอาวุธยิงระยะไกลและสามารถเทเลพอร์ตโผล่ออกมาแบบไม่ให้ตั้งตัวได้ แม้ว่า Vortigaunt เพียงตัวเดียวจะไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่เมื่อเทเลพอร์ตโผล่มาพร้อมกันหลายตัวก็ทำให้ยากแก่การต่อกร บ่อยครั้งที่โดยล้อมรอบทิศและถูกรุมยิงตายจนต้องหัวเสีย

แต่ใน Half-Life 2 ให้หลังจากภาคแรกไปถึง 20 ปี ในเมือง City 17 ซึ่งถูกปกครองโดย Combine กองกำลังลึกลับจากต่างมิติ Gordon Freeman ก็ได้พบกับ Vortigaunt ที่เป็นพันธมิตรกับขบวนการใต้ดินที่ต่อต้านการยึดครองและได้รู้ความจริงว่าดาวของ Vortigaunt เคยถูก Combine บุกรุกจนต้องหนีไปอยู่มิติที่เรียกว่า Xen และเมื่อเกิดรอยแยกของมิติมาที่โลก ผู้ปกครอง Xen ก็เห็นโอกาสที่จะหนีการรุกรานที่กำลังจะมาถึงและส่ง Vortigaunt มาบุกโลก

นอกจาก Vortigaunt จะกลายเป็นพันธมิตรที่พึ่งพาได้แล้วก็ยังสนใจและให้เกียรติ Gordon Freeman เป็นอย่างมากเพราะรู้ซึ้งถึงความสามารถของนักฟิสิกส์จอมบู๊คนนี้เป็นอย่างดี (ใช่สิ 555) และเมื่อถึงคราวขับคันก็โดดเข้ามาช่วย Gordon ไม่ให้ถูกพาตัวไปมิติอื่น แถมช่วยรักษาชีวิตของคู่หูคนสำคัญอย่าง Ayx Vance ไว้อีกต่างหาก เรียกได้ว่าเป็นมิตรแท้ของฝ่ายตัวเอกเลยทีเดียว

Sangheili (ซีรีส์ Halo)

Sangheili เป็นเอเลี่ยนซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของฝ่าย Covenant ในจักรวาล Halo โดยลักษณ์เด่นของ Sangheili คือมีรูปร่างสูงโปร่งใกล้เคียงมนุษย์ สามารถล่องหนเพื่อพรางตัวได้และใช้ดาบแสงเป็นอาวุธ

Sangheili เผ่าที่มีความดุดันและมีความสามารถในการต่อสู้ที่สูงจนทหารทั่วไปไม่อาจรับมือได้ง่าย ๆ และได้รับการขนานนามจากฝ่ายมนุษย์ในชื่อ Elites (ยอดนักรบ) โดยใน Halo ภาคแรกนั้น Master Chief จะต้องเผชิญหน้ากับ Sangheili หลายต่อหลายครั้งจนเป็นที่จดจำกันว่าได้ยินเสียงแปลก ๆ แต่ไม่เห็นอะไรก็ระวังหลังไว้ได้เลย

และในช่วงแรกของ Halo 2 ก็เช่นกัน Master Chief ยังคงต้องสู้กับเหล่า Sangheili เช่นเคยจนกระทั่ง Prophet of Regret หนึ่งในผู้นำของ Covenant ถูกสังการ ผู้นำที่เหลือของ Covenant กลับโทษว่าเป็นความผิดของเหล่า Sangheili ที่เป็นผู้อารักขาจนทำให้เกิดปัญหาภายในและส่งผลให้ Sangheili ถอนตัวออกจาก Covenant

ท้ายที่สุด Arbiter ซึ่งเป็นนักรบระดับสูงของเผ่า Sangheili เกลี้ยกล่อมให้ผู้นำของตัวเองยอมหันมาจับมือกับมนุษย์เพื่อต่อต้าน Covenant และปราบเอเลี่ยนปรสิต The Flood ซึ่งเป็นภัยคุกคามใหญ่ของทั้งกาแลกซี่ แล้วฝ่าย Sangheili ก็เป็นพันธมิตรกับมนุษย์ตั้งแต่นั้นมา

Jeanne (ซีรีส์ Bayonetta)

ในเกมแอคชั่นฟัน/ยิงแหลก Bayonetta ผู้เล่นจะได้รู้จักกับแม่มดจอมบู๊สุดเซกซี่ซึ่งเป็นแม่มดแห่งความมืด (Umbra Witch) ที่ใช้ชื่อว่า Bayonetta โดยในตอนแรกนั้นเข้าใจกันว่าเป็นแม่มดแห่งความมืดคนสุดท้ายที่เหลืออยู่หลังการล่าแม่มดครั้งท้ายเมื่อหลายร้อยปีก่อน แต่เมื่อเล่นไปได้สักพักก็จะได้พบความจริงว่ายังมีแม่มดแห่งความมืดเหลืออยู่อีกคน

Jeanne หรือแม่มดแห่งความมืดในชุดสีแดงสดกลับเป็นตัวร้ายที่โผล่มาคอยขัดขวาง Bayonetta สร้างความตื่นเต้นและท้าทายให้กับผู้เล่นที่ต้องเจอกับศัตรูซึ่งมีพลังแบบเดียวกับ Bayonetta

แต่เมื่อถึงตอนสุดท้าย ผู้เล่นจะได้รู้ว่า Jeanne ถูกตัวร้ายควบคุมไว้และเมื่อหลุดจากการควบคุมแล้วก็ช่วยเหลือ Bayonetta ในทันทีเพราะทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันมาก่อน แถมยังประสานพลังร่วมกันได้อย่างเข้าขาจนพิชิตศัตรูที่ทรงพลังลงได้

GLaDOS (ซีรีส์ Portal)

ในเกม Portal ที่ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Chell หนึ่งในหนูทดลองของศูนย์วิจัย Aperture Science และได้พบกับปัญญาประดิษฐ์บ้าบวมที่มีชื่อยาวเหยียดแต่ย่อเหลือสั้น ๆ ว่า GLaDOS โดยปัญญาประดิษฐ์สุดกวนนี้ได้เตรียมห้องทดลองไว้มากมายเพื่อให้ Chell ทดสอบปืนสร้างประตูมิติ

ตลอดทั้งเกม Chell จะต้องขบคิดหาทางออกจากห้องและหลบเลี่ยงอันตายต่าง ๆ มากมาย และเมื่อจบการทดลองก็ได้พบความจริงว่าตัวเองกำลังจะถูกกำจัดทิ้งเพราะ GLaDOS มองว่าหมดประโยชน์ แต่ Chell ก็หาทางหนีรอดและทำลาย GLaDOS ลงได้ในที่สุด

ในภาคต่อ Portal 2 เราได้รู้ความจริงว่า Chell ถูกจับกลับมาขังไว้ในแคปซูลกาลเวลาและตื่นขึ้นมาพบกับปัญญาประดิษฐ์ที่ชื่อ Wheatley ทั้งสองคนเริ่มต้นหาทางออกจากศูนย์วิจัยด้วยกันและได้รู้ว่า GLaDOS ยังมีชีวิตอยู่และได้เตรียมห้องทดลองต่าง ๆ เอาไว้

Wheatley วางแผนเพื่อยึดการควบคุมจาก GLaDOS และทำสำเร็จด้วยความช่วยเหลือของ Chell แต่ Wheatley กลับเกิดอาการบ้าอำนาจและหักหลัง Chell จนในที่สุด Chell ต้องร่วมมือกับ GLaDOS (ซึ่งถูกย้ายไปต่อไว้กับแบตเตอรี่ที่ทำจากมันฝรั่ง) เพื่อหาทางนำ GLaDOS กลับเข้าไปต่อกับระบบควบคุมศูนย์วิจัย

ในตอนสุดท้าย Chell เปิดประตูมิติบนดวงจันทร์ทำให้ตัวเองกับ Wheatley หลุดออกไปในสูญญากาศในระหว่างที่ GLaDOS ต่อตัวเองกลับเข้าไปควบคุมศูนย์วิจัย จากนั้น GLaDOS ก็ดึงตัว Chell กลับเข้ามาแล้วปล่อยให้ Wheatley ลอยเคว้งไปในอวกาศ หลังเรื่องราวจบลงและ Chell ฟื้นขึ้นมาแล้ว GLaDOS ก็ตัดสินใจปล่อยให้ Chell เป็นอิสระในที่สุด