เผยโฉมแรกแบบเต็ม ๆ กันแล้วสำหรับ Dead Space ฉบับ Remake ยอดเกมสยองขวัญจากปี 2008 ที่เตรียมกลับมาในโฉมใหม่
จากภาคต้นฉบับสู่ภาคใหม่ในปี 2023 ตัวเกมมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างวันนี้ GamingDose พาไปชี้เป้าดูกันแบบชัด ๆ เจาะให้เห็นกันทุกส่วนจากตัว Trailer ไปชมกันเลย
จุดเริ่มต้นของฝันร้าย หลังจากยาน USG Kellion ที่ ไอแซค คลาร์ก โดยสารมาสู่ Ishimura ต้องลงจอดฉุกเฉินเพราะอุบัติเหตุเฉี่ยวชนก้อนหินในอวกาศ พวกเขาไถลพุ่งเข้ามาสู่ลานจอดยานของยานขุดเจาะดวงดาว Ishimura แม้ในเวอร์ชั่นรีเมคจะสวยงามกว่าด้วยกราฟิกและรายละเอียดที่พัฒนาขึ้น แต่บรรยากาศและการส่งข้อความถึงผู้เล่นก็ยังคงเหมือนเดิม ราวกับมันกำลังบอกว่า “ยินดีต้อนรับ.. พร้อมจะเข้าไปหรือยัง?”
เมื่อ ไอแซค และทีมงานเดินเข้ามาถึงจุดพักก่อนขึ้นเครื่อง พวกเขาไม่พบใครซักคนทั้งที่ปกติจะต้องมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่เสมอ ในเวอร์ชั่นรีเมคได้มีการปรับแต่งให้แสงเงาสวยงามขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตรงจุดนี้ นับเป็นโมเม้นท์สั้น ๆ แค่ครั้งเดียวในเกม ที่ทุกอย่างยังคงปกติก่อนที่ฝันร้ายจะเริ่มขึ้นอย่างกระทันหัน
เนโครมอร์ฟ คือศัตรูที่เกมเมอร์ยุคปี 2008 ไม่เคยเจอมาก่อน การเล็งหัวที่เราทำมานักต่อนักในเกมซอมบี้ ใช้ไม่ได้กับพวกมัน การชำแหละแขนขาคือวิธีต่อกรที่ดีที่สุด ซึ่งในเวอร์ชั่นรีเมคเราจะได้เห็นระบบความเสียหายที่น่าสยดสยอง ความเสียหายบนตัวศัตรูจะไม่แสดงด้วยการขาดเพียงอย่างเดียว แต่เราจะได้เห็น เนื้อ, เส้นเอ็น หลุดกระจายออกมา ก่อนที่กระดูกจะหักและทำให้แขนขาข้างนั้นปลิวขาด พูดง่าย ๆ ศัตรูทุกตัวในเวอร์ชั่นรีเมค จะสามารถถูก’ปอก’ออกเป็นชิ้น ๆ.. ซึ่งนั่นอาจจะรวมถึงตัว ไอแซค เองด้วย
Dead Space เป็นเกมที่ได้แรงบันดาลใจจาก Resident Evil 4 มุมกล้องและการเล็งยิงจึงถูกนำมาใช้ในแบบเดียวกัน การเล็งยิงจะแสดงเป็นเลเซอร์ที่ส่องออกจากปืนไปกระทบเป้าหมาย หาใช่เป้า Crosshair ที่อยู่กลางจอ ดังนั้นถ้าเลเซอร์ถูกบดบังด้วยอะไรก็ตาม จุดเล็งก็จะเพี้ยนไปตามวัตถุที่เข้ามาบังในภาคต่อที่ตาม
มาทั้ง Dead Space 2 และ 3 ได้ทำการแก้ไขเปลี่ยนให้จุดเล็งกลายเป็นเป้า Crosshair ที่ไม่มีทางเพี้ยนไปจากกลางจอ เพื่อให้การเล็งยิงสามารถทำได้สะดวกขึ้นแต่ก็เสียเอกลักษณ์ของภาคแรกไป ในเวอร์ชั่นรีเมคจะเป็นการพบกันครึ่งทางทั้ง 2 แบบ เลเซอร์ที่ส่องออกไปจะไม่ยาวเป็นเส้นไปถึงเป้าหมาย แต่จะมีการกระทบและเพี้ยนไปจากกลางจออย่างที่ภาคแรกเคยเป็น
แม้ว่า ไอแซค จะคลาดกับคนอื่น ๆ แต่เขาก็ยังสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ ด้วยการซ่อมรถรางที่ใช้เดินทางไปตามสถานีภายในยาน Ishimura และเขาต้องการอะไหล่ที่เก็บอยู่ในโรงซ่อมบำรุงอันน่าขนลุก ซึ่งในเวอร์ชั่นรีเมคมันก็ถูกเพิ่มความน่ากลัวขึ้นอีกด้วยเอฟเฟคแสงที่ส่องผ่านโครงเหล็กและหมอกควันที่มีการกระทบกับแสงอย่างสมจริง
ไอแซค ต้องเดินผ่านคลินิกประจำยานเพื่อเข้าไปที่ห้องดับจิต แต่เหล่าผู้รอดชีวิตบนยาน Ishimura ได้ทำการปิดทางเข้าเอาไว้ไม่ให้อะไรบางอย่างออกมา ไอแซค ไม่มีทางเลือก เขาจำเป็นต้องเข้าไปเอาของสำคัญจากในนั้น เขาจึงทำลายเครื่องกีดขวางด้วยระเบิดที่ประกอบกันจากเครื่องปั๊มหัวใจและระเบิดไฟ ซึ่งในเวอร์ชั่นรีเมคเราจะได้เห็นเปลวไฟที่เป็นผลงานของ ไอแซค ด้วย
เมื่อปืนใหญ่ต่อต้านอุกกาบาตไม่ทำงาน ไอแซค จะต้องหลบหลีกก้อนหินมฤตยูเพื่อเข้าไปควบคุมปืนใหญ่ ยื้อเวลาให้เพื่อนของเขาซ่อมระบบทำงานอัตโนมัติ ในเวอร์ชั่นต้นฉบับการเคลื่อนที่ในสภาพไร้แรงโน้มถ่วงจะเป็นการกระโดดพุ่งไปตามจุดและใช้รองเท้าแม่เหล็กเดินไปบนพื้นผิวของยาน
แต่ในเวอร์ชั่นรีเมค ชุดของ ไอแซค จะมีไอพ่น 4 ทิศทางที่ใช้เคลื่อนที่ในอวกาศโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นระบบเดียวกันกับ Dead Space 2 และ 3 จึงเป็นไปได้ว่าในฉากนี้ จากที่เราต้องหาที่กำบังหลบอุกกาบาตแบบในเกมต้นฉบับ คราวนี้เราอาจจะต้องบินหลบอุกกาบาตด้วยตัวเอง
เพื่อไม่ให้แผ่นดินหนักล้านล้านตันดึงยานร่วงลงสู่ผิวดาว ไอแซค ต้องซ่อมเครื่องปั่นแรงโน้มถ่วงให้ทำงาน แต่เมื่อเขาทำสำเร็จ เขาก็ต้องหาทางออกจากห้องเครื่องยนต์ที่สุดแสนจะน่าหวาดเสียว
เครื่องปั่นที่หมุนวนไปรอบห้องจะบดทุกอย่างให้เป็นชิ้น ทำให้ ไอแซค ต้องรีบผ่านมันไปก่อนที่มันจะทับเขาตาย ในเวอร์ชั่นต้นฉบับ เราจะต้องอาศัยการวิ่งที่ถูกจังหวะ แต่ในเวอร์ชั่นรีเมค ดูจากเครื่องปั่นที่มี 2 ชั้น และการบินไปในสภาพไร้แรงโน้มถ่วง ทางออกของเวอร์ชั่นใหม่อาจจะเป็นการดิ่งลงไปข้างล่าง หลบหลีกแขนเครื่องยนต์ยักษ์พร้อมกับทางออกไปในตัว
ชุดวิศวกรพร้อมหมวกที่มีเหล็กนิรภัย 3 ชิ้น ถือเป็นสัญลักษณ์ของเกมภาคแรกเลยก็ว่าได้ แต่ว่าชุดนี้ไม่ใช่ชุดดั้งเดิมที่ ไอแซค คลาร์ก ใส่ตั้งแต่เริ่มเกม นี่คือชุดวิศวกรระดับ 3 ที่เราจะได้จากการอัพเกรดในด่านที่ 4 การปรับเปลี่ยนในเวอร์ชั่นรีเมคถือเป็นการเคารพดีไซน์เดิมอย่างมาก สิ่งที่เพิ่มเข้ามามีเพียงกระเป๋าใส่ของ, ไอพ่นที่หัวไหล่ และช่องว่างระหว่างเหล็กกับชุดหมี
นอกเหนือจากนี้ก็ยังเป็นดีไซน์ชุดในรูปแบบเดิม การออกแบบในเวอร์ชั่นนี้ ผู้สร้างได้ให้ไอเดียว่านี่เป็นชุดที่สร้างด้วยวัสดุทุนต่ำ ให้พนักงานพอจะปฎิบัติภารกิจในอวกาศได้ ไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวพนักงานเท่าไหร่
เหล่าผู้คนบนยาน Ishimura ได้กลายเป็นพวกวิปลาสจากผลของหิน Marker ที่บังคับให้พวกเขาฆ่าฟันคนรอบตัวและทำร้ายตัวเองจนถึงแก่ความตาย ไอแซค เดินมาพบชายผู้หนึ่งที่กำลังเอาหัวโขกกำแพงที่ไม่รู้เลยว่าเขาทำอย่างนั้นมานานเท่าไหร่แล้ว นี่คือหนึ่งในเหตุการณ์สยองที่เราจะได้พบตลอดเกม
โมเดลตัวประกอบที่เราเจอจะไม่ได้เป็นโมเดลของศพที่อยู่ตามพื้นอีกต่อไป แต่จะเป็นโมเดลของคนเป็น ๆ (ที่กำลังจะเป็นคนตาย ๆ ในไม่ช้า) ระบบเสียงแบบใหม่ในเวอร์ชั่นรีเมคจะมีการตอบสนองกับวัตถุในฉากอย่างสมจริง เสียงที่ดังอยู่ในทางเดินก็จะสะท้อนมาตามทางเดินอย่างถูกต้อง เสียงที่ดังอยู่ในห้องปิดก็จะเป็นเสียงอู้อี้อย่างที่ควรจะเป็น ยิ่งเพิ่มความน่ากลัวให้กับบรรยากาศของเกมนี้
อีกหนึ่งฉากระทึกของ Dead Space คือการที่ ไอแซค ถูกจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวจากงวงเนโครมอร์ฟที่คอยจ้องจะลากผู้เคราะห์ร้ายไปสู่ชะตากรรมสุดสยอง
ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นกับ ไอแซค เขาจะต้องยิงจุดอ่อนมันให้ขาด ซึ่งแน่นอนว่าในเวอร์ชั่นรีเมคจะมีจังหวะนี้เหมือนเดิม และจะมีบ่อยครั้งขึ้นเพื่อให้คนที่เคยเล่นภาคต้นฉบับยังคงระทึกใจเหมือนตอนที่เคยเล่นครั้งแรก
Leaper คือผู้เคราะห์ร้ายที่เหลือเพียงครึ่งตัว สันหลังของพวกเขาถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นหางยาวมีปลายแหลมคล้ายแมงป่อง มันจะกระโดดไปมารอบฉากพร้อมความสามารถในการไต่กำแพง ในภาคแรก Leaper ถือเป็นศัตรูที่ค่อนข้างจะล้มเหลวในด้านเกมการเล่น เพราะพวกมันโจมตีช้ามาก แถมจะติดบั๊คอยู่บ่อย ๆ ทำให้พวกมันหยุดอยู่กับที่นานเกินไป แต่พวกมันได้รับการแก้ไขอย่างหมดจดใน Dead Space 2 จนกลายเป็นหนึ่งในศัตรูที่แสนอันตราย
มันเคลื่อนไหวเร็วขึ้น โจมตีเร็วขึ้น การกระโดดผ่านผู้เล่นก็ถือเป็นความเสียหายได้แล้วก่อนที่มันจะซ้ำเราอีกทีเมื่อถึงพื้น ทำให้เราต้องตัดแขนของมันอย่างเร่งด่วนเพื่อหยุดการกระโดด ก็เป็นไปได้ว่าในภาครีเมคมันจะยังคงความเกรี้ยวกราดแบบใน Dead Space 2
Brute คือเนโครมอร์ฟพันธุ์ใหญ่ ผิวหนังด้านหน้าของมันแข็งแรงเสียจนอาวุธปืนทำความเสียหายไม่ได้ จุดอ่อนของ Brute จะเป็นผิวหนังด้านหลังที่ไม่แข็งแรงและซอกแขนที่อยู่ใต้เกราะ ในเวอร์ชั่นรีเมคดูเหมือนว่าจุดอ่อนซอกแขนจะย้ายขึ้นไปอยู่บนหลังพร้อมกับมีขนาดที่เล็กลง ดัวนั้นการโชว์เทพยืนใส่เดี่ยวจากข้างหน้าอาจจะทำได้ยากกว่า
โรงเรือนประจำยาน Ishimura คือจุดผลิตอาหารและออกซิเจนของลูกเรือ การแพร่ระบาดของเนโครมอร์ฟได้เปลี่ยนให้โรงผลิตออกซิเจนกลายเป็นโรงพลิตแก๊สพิษ ไอแซค ต้องทำลายต้นตอของปัญหาก่อนที่ทุกคนจะไม่เหลืออากาศให้หายใจ และต้นตอที่ว่าก็คือ Leviathan เนโครมอร์ฟขนาดยักษ์ที่ฝังตัวเองอยู่ในห้องเก็บอาหารของโรงเรือน การต่อสู้ในเวอร์ชั่นต้นฉบับจะเป็นการกระโดดพุ่งตัวเพื่อหลบการโจมตีจากงวง
แต่ในเวอร์ชั่นรีเมค ด้วยความที่เราสามารถบินไปมาในสภาพไร้แรงโน้มถ่วง และงวงของ Leviathan ก็สามารถตามฉกเราได้กลางอากาศ มันจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดกว่าเดิมแค่ไหนคงต้องรอหาคำตอบกันเอง
Flamethrower หนึ่งในอาวุธที่ไร้ประโยชน์อย่างยิ่งในเกมภาคแรก แม้ว่าในภาค 2 มันจะได้รับการอัพเกรดจนเป็นอาวุธชั้นเยี่ยม แต่ในการเล่นภาคแรกมันจะดีกว่าถ้าเราเอาเงินและ Power node ไปลงทุนให้กับสิ่งอื่น ในเวอร์ชั่นรีเมค นอกจากเอฟเฟคไฟที่สวยงามขึ้น ปืนไฟจะได้รับการปรับแต่งให้น่าใช้กว่าเดิมหรือไม่ก็ต้องรอดูกัน
หากใครได้ลองกระบอกนี้จะรู้เลยว่านี่คือ Railgun ของ Dead Space มันคือ Contact beam ปืนพลังงานสูงที่คนงานเหมืองใช้ขุดอุโมงค์ได้โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องจักร อำนาจทำลายล้างของมันคือการชาร์จพลังจนถึงขีดสุดแล้วยิงออกไปกระแทกทุกอย่างจนเละ
นี่คืออาวุธที่เราไม่จำเป็นต้องเล็งแขนขาก็ได้และถือเป็นหนึ่งในสุดยอดอาวุธของเกมภาคแรก ในเวอร์ชั่นรีเมคเราก็ได้เห็นเอฟเฟคพลังทำลายของมันแล้ว ที่มันส่งแรงอัดไปรอบทิศทางหาใช่แค่เป้าหมายที่ถูกยิง พาให้ข้าวของที่อยู่รอบตัวเนโครมอร์ฟแตกกระจายระเบิดเป็นชิ้นไปด้วยกัน แถมเรายังได้เห็นการโชว์เอฟเฟคของภาคใหม่ ที่ประกายไฟทุกเสก็ดสามารถทำให้เกิดแสงเงาได้
Pulse rifle คืออาวุธปืนเพียงหนึ่งเดียวของเกมภาคแรก อาวุธชื้นอื่นจะมีพื้นเพมาจากเครื่องมือช่าง แต่ Pulse rifle คือปืนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพกพากันบนยาน Ishimura มันคืออาวุธที่ใช้งานได้ทุกสถานการณ์ อาจจะไม่ดีที่สุดแต่รับมือได้ทุกอย่าง โหมดการยิงรองในเกมภาคแรกอาจจะไม่ค่อยมีประโยชน์ แต่โหมดการยิงรองในเกมภาค 2 ได้เปลี่ยนให้มันเป็นเครื่องยิงระเบิดที่มีประโยชน์มาก
ซึ่งเป็นไปได้ว่าในเวอร์ชั่นรีเมค จะเป็นรูปแบบเดียวกันที่เราได้เห็นใน Dead Space 2 ความต่างของเวอร์ชั่นรีเมคก็คืออัตราการยิงที่ช้าลงเล็กน้อยและเอฟเฟคกระสุนพุ่งใส่เป้าหมายอย่างที่เราไม่เคยเห็นในภาคไหนมาก่อน
อีกหนึ่งความต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่างภาคต้นฉบับและภาครีเมค นั่นคือ ไอแซค สามารถพูดได้แล้ว Gunner Wright นักแสดงผู้ให้เสียงและต้นแบบหน้าตาของ ไอแซค คลาร์ก ทั้งภาค 2 และ 3 กลับมารับบทอีกครั้ง จากในภาคต้นฉบับที่ ไอแซค เป็นมนุษย์ใบ้ไร้การตอบสนองแม้จะมีคนถูกฆ่าอยู่ตรงหน้า คราวนี้เราจะได้เห็น ไอแซค ในเวอร์ชั่นที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งในภาครีเมคเขายิ่งเพิ่มความสมจริงมากขึ้นด้วยการทำให้บทพูดของ ไอแซค มีผลกับสถานะของตัวละคร อย่างเช่น หากเรากำลังวิ่ง เสียงและบทพูดของ ไอแซค ก็จะกลายเป็นเสียงที่ผสมการเหนื่อยหอบ ต่างกับตอนที่ ไอแซค เดินปกติ
หรือเวลาที่ ไอแซค บาดเจ็บพลังชีวิตเหลือน้อย ทั้งประโยคและเสียงของ ไอแซค ก็จะกลายไปเป็นอีกรูปแบบ ไม่เพียงเท่านั้น ระดับความเหนื่อย ความเครียด ออกซิเจน และอาการบาดเจ็บ ก็จะมีผลกับจังหวะการหายใจของ ไอแซค ด้วย
Dead Space Remake จะมีทางเลือกในการทำภารกิจเสริมที่จะเติมเต็มเนื้อหาเกี่ยวกับตัวละครอื่น อย่างเช่น เราจะได้เห็นเรื่องราวการเอาตัวรอดของ นิโคล แบรนแนนท์ แฟนสาวของ ไอแซค คลาร์ก ก่อนที่ตัวเขาจะเดินทางมาถึง Ishimura หรือเรื่องราวของตัวละครอื่น ๆ ที่เดินทางมาพร้อมกับ ไอแซค
ไม่เหมือนกับในเกมต้นฉบับที่ตัวละครอื่น จะเป็นแค่ป้ายบอกทางให้เราไปทำอะไรตามเนื้อเรื่อง และก็คล้ายกับระบบภารกิจเสริมของ Dead Space 3 การทำมิชชั่นเหล่านี้จะมีรางวัลเป็นอาวุธหรือไอเทมอัพเกรดที่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น