หากพูดถึงเกม Remake ที่กำลังเป็นกระแสโด่งดังในตอนนี้ ก็ไม่มีทางหนีพ้น Resident Evil 4 ตำนานเกมแอ็กชัน สยองขวัญ เอาตัวรอด ที่ถูกนำมาพัฒนาใหม่ด้วย RE Engine พร้อมมีการปรับปรุงจากเกมต้นฉบับให้ดีกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม การ Remake เกม บางครั้ง ทีมงานจำเป็นต้องตัดคอนเทนต์บางส่วนที่ไม่จำเป็น และฟีเจอร์ที่ล้าหลังจากเกมต้นฉบับออกไป แล้วเนื้อหาเด่น Resident Evil 4 ต้นฉบับที่หายไปในภาค Remake มีอะไรบ้าง เราได้รวบรวมไว้แล้วในบทความนี้
ลดจำนวน Quick Time Event
เกมเพลย์ของภาค Remake มีการปรับปรุงจากเกมภาคต้นฉบับหลายอย่าง แน่นอนว่าหนึ่งในฟีเจอร์ที่สร้างความรำคาญต่อผู้เล่นมากที่สุดอย่าง Quick Time Event ก็ได้ถูกตัดลดปริมาณออกไปในภาค Remake เพื่อให้การเล่าเนื้อเรื่องมีความต่อเนื่อง ไม่โดนรบกวนด้วยระบบ QTE อีกต่อไป ซึ่งถ้าหากถามความคิดเห็นจากผู้เล่นหลายคนว่าคอนเทนต์ หรือระบบเกมอะไรที่ควรถูกตัดออกไปจากภาค Remake เราเชื่อมั่นว่าระบบ QTE จะต้องเป็นฟีเจอร์อยากให้หายไปมากที่สุด
แล้วด้วยเหตุผลดังกล่าว ก็คือสาเหตุที่ทำให้ฉากดวลมีดกับ Krauser กลายเป็นเกมเพลย์ที่ผู้เล่นต้องควบคุมตัวละคร แทนการกด QTE รวมถึงการกดปุ่ม QTE เพื่อวิ่งหนีรูปปั้น Salazar ก็ได้หายไปอีกด้วย (รูปปั้น Salazar ยังปรากฏตัวใน Remake แต่ไม่ได้มีชีวิตเหมือนเกมภาคต้นฉบับ)
บอส U-3
U-3 เป็นหนึ่งในบอสที่น่าเกรงขามที่สุดของเกม Resident Evil 4 ต้นฉบับ เพราะผู้เล่นต้องต่อสู้เอาตัวรอดในเขาวงกตตู้คอนเทนเนอร์ที่หลงทางได้ง่าย และมันมักจะปรากฏตัว กับโจมตีใส่ผู้เล่นแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งบอสนี้ไม่ได้ปรากฏตัวในเนื้อหาหลักของเกมภาค Remake
อย่างไรก็ตาม ในเกม Resident Evil 4 Remake ได้มีการกล่าวถึงชื่อบอส “U-III” บนกระดาษโน้ต “Chronicles of Pursuit 2” จึงยังมีความเป็นไปได้ว่าบอสตัวนี้อาจปรากฏตัวในเนื้อหา DLC ที่มีแผนออกวางขายในอนาคต
ฉากหลบเลเซอร์ระดับตำนาน
ในเกมต้นฉบับ ระหว่างดำเนินเนื้อเรื่องในช่วงปลายเกม จะมีห้องกับดักเลเซอร์ที่ผู้เล่นต้องกดปุ่ม QTE ให้ถูกต้อง เพื่อหลบเลเซอร์ที่ตัดขาดทุกสิ่งทุกอย่างได้ เมื่อกดปุ่มถูกต้อง Leon จะโชว์ลีลาการกระโดดหลบเลเซอร์อย่างสง่างาม โดยเนื้อหาดังกล่าวเป็นหนึ่งในโมเมนต์ที่บ้าบอที่สุดในเกม Resident Evil 4 ภาคต้นฉบับ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าฉากดังกล่าวได้อ้างอิงมาจากภาพยนตร์ Resident Evil ฉบับคนแสดงภาคแรก ที่กำกับโดย Paul W. Anderson
แต่อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ห้องเลเซอร์จากเกมต้นฉบับไม่ได้กลับมาอีกครั้ง ในขณะที่ท่านั่งบนเก้าอี้บัลลังก์สุดเก๊ก ยังคงปรากฏตัวให้เห็นในภาค Remake
ช่วงข้ามรถราง
ในเวอร์ชันต้นฉบับ ระหว่างดำเนินเนื้อเรื่องในช่วงต้นเกม Leon กับ Ashley จะต้องยืนบนรถรางข้ามพื้นที่ไปอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อหากุญแจสำหรับปลดล็อกประตูขนาดใหญ่ โดยระหว่างยืนบนรถราง ผู้เล่นต้องใช้อาวุธปืนกำจัดพวก Ganado ให้หมด ก่อนที่พวกมันจะเข้ามาทำลายรถรางของเราจนต้องตกเหว ซึ่งคอนเทนต์นี้ได้หายไปจากเกมเวอร์ชัน Remake โดยคาดเดาว่าสาเหตุที่ Capcom ไม่นำเนื้อหานี้กลับมา เพราะอาจไม่มีความจำเป็น และทำให้จังหวะการเล่าเรื่องยืดเกินไป
ช่วงปกป้อง Ashley ขับรถดันดิน
ในเกือบท้ายเนื้อเรื่องของเกม Resident Evil 4 ต้นฉบับ จะมีช่วงเกมเพลย์ที่ Leon ต้องปกป้อง Ashley ระหว่างเธอกำลังขับรถดันดิน โดยช่วงเกมเพลย์ดังกล่าวได้หายไปจากเกมเวอร์ชัน Remake ซึ่งคาดว่าสาเหตุหลักที่ตัดคอนเทนต์นี้ออกไป เพราะไม่มีความจำเป็น และไม่มีความสมเหตุสมผลกับตัวละคร Ashley ซึ่งเป็นแค่เด็กสาวคนหนึ่งเท่านั้น
ระเบิดไฟ และปืน P.R.L. 412
Resident Evil 4 Remake ยังคงมีอาวุธปืนจากเกมต้นฉบับ ที่หลายคนหลงรักอย่าง Red9, Matilda, Striker และปืนกระบอกอื่น ๆ ให้เลือกใช้อีกมากมาย แต่อย่างไรก็ตาม เกมเมอร์อาจจะไม่ทันนึก หรือสังเกตว่าระเบิดไฟ และปืน P.R.L. 412 ที่มีในเกมต้นฉบับ ไม่มีให้ใช้ในเกมภาค Remake
ระเบิดไฟ หรือ Incendiary Grenade เป็นระเบิดทั่วไปที่เขวี้ยงใส่ศัตรูแล้วจะติดไฟคล้ายกับ Molotov ส่วน P.R.L. 412 เป็นอาวุธพิเศษที่ยิงออกมาเป็นเลเซอร์ ซึ่งปืนดังกล่าวจะปลดล็อก ก็ต่อเมื่อเล่นเกมจนจบเนื้อเรื่องในความยากระดับ Professional เท่านั้น
Seperate Ways
Seperate Ways เป็นเนื้อเรื่อง Spin-Off ที่เล่าเรื่องผ่านมุมมองของ Ada Wong ในเหตุการณ์ Resident Evil 4 ซึ่งเนื้อหาดังกล่าว มีความพิเศษตรงที่เราจะได้สำรวจความคิดของ Ada ที่ไม่แสดงให้เห็นในเนื้อเรื่องหลัก พร้อมนำเสนออุปกรณ์ใหม่ กับอาวุธใหม่ที่ใช้ได้เฉพาะตัวละคร Ada ซึ่งช่วยมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่แตกต่างจากเนื้อเรื่องหลักเล็กน้อย
ในเกมต้นฉบับ เนื้อเรื่อง Seperate Ways จะปลดล็อกได้ก็ต่อเมื่อเล่นเนื้อเรื่องหลักจนจบในระดับความยากแบบไหนก็ได้ แต่ว่าเนื้อหา Spin-Off ดังกล่าว กลับไม่มีให้เล่นในเกมภาค Remake ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า Seperate Ways อาจจะเป็นเนื้อเรื่อง DLC ที่ต้องจ่ายเงินซื้อในอนาคต
Assignment: Ada
Assignment: Ada คือมินิเกมสั้น ๆ ที่เป็นการเล่าเนื้อเรื่องแบบ Non-Canon โดยเกมเมอร์จะรับบทเป็นสายลับ Ada Wong ต้องปฏิบัติภารกิจขโมยตัวอย่างเชื้อปรสิต Plaga ตามคำสั่งของ Albert Wesker
มินิเกมนี้แตกต่างจาก Seperate Ways อย่างสิ้นเชิง เนื้อเรื่องมีความยาวสั้นที่สามารถเล่นจบได้ภายใน 1-3 ชั่วโมง และเนื่องจากในเกมไม่มีเครื่องพิมพ์ดีดให้เซฟ และไม่มีพ่อค้าให้ซื้ออาวุธ ทำให้โหมดเกมนี้มีความยากท้าทายในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
ในเกมต้นฉบับ Assignment: Ada จะปลดล็อกได้ก็ต่อเมื่อเล่นเนื้อเรื่องหลักจนจบในระดับความยากแบบไหนก็ได้ แต่โหมดเกมนี้ได้หายไปในเกมเวอร์ชัน Remake ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะกลับมาในรูปแบบ DLC ที่ต้องจ่ายเงินซื้อ