เกมบุคลาธิษฐานของญี่ปุ่นจะเน้นการออกแบบตัวละครที่อ้างอิงจากอุปกรณ์ต่าง ๆ แล้วขายตัวละครสไตล์อนิเมะ ขายไวฟุกับแฟนเซอร์วิสเป็นหลักไม่ว่าจะเป็น Azur Lane หรือ Kantai Collection แต่สำหรับเกม Girls’ Frontline หนึ่งในเกมบุคลาธิษฐานที่มีความพิเศษมากกว่าเกมอื่น ๆ นั้นก็คือ “เนื้อเรื่อง”
นี่คือการ “เปิดเกม – Girls’ Frontline เกมมือถือที่มีเรื่องราวยอดเยี่ยมแบบไม่คาดคิด” โดยบทความนี้จะเป็นการเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับเกมนี้ (รวมถึงเป็นสายอ่าน) ที่มีเนื้อเรื่องคุณภาพเยี่ยม ซึ่งผู้เขียนรู้สึกเซอร์ไพรส์เป็นอย่างมากจนต้องนำมาบอกต่อ
อะไรคือเกม Girls’ Frontline?
少女前线 (Shaonü Qianxian) หรือภาษาอังกฤษ Girls’ Frontline เกมมือถือพัฒนาโดย MICA Team เป็นเกมวางแผนบุคลาธิษฐานเล่นฟรีที่นำอาวุธปืนมาดัดแปลงเป็นสาวโมเอะให้มีรูปร่างมีเสียงเหมือนกับมนุษย์คนหนึ่ง โดยเกมได้เปิดบริการในปี 2016 ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ แล้วต่อด้วยเซิร์ฟเวอร์ไต้หวัน, ฮ่องกง, เกาหลีใต้ ในปี 2017 และอังกฤษกับญี่ปุ่น ในปี 2018
แน่นอนว่าเกมนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Kantai Collection เกมที่ปลูกสร้างกระแสเกมบุคลาธิษฐานจากเรือรบสมัย WWII จนบูมไปทั่วเอเชีย ซึ่งผู้เขียนต้องยอมรับว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อเกมนี้ เพราะว่าเป็นเกมจากประเทศจีนแดงและมีแรงบันดาลใจจาก KanColle จึงได้สบประมาทไว้ว่า “เกมนี้คงไม่ดีเท่ากับเกมต้นกำเนิดหรอก” (และรู้สึกตาสว่างในตอนหลังว่า KanColle มันไม่ใช่เกมที่ดี เพราะเน้น RNG มาโดยตลอด)
จนกระทั่งไม่นานมานี้ ผู้เขียนได้ลองสัมผัสเกม Girls’ Frontline โดยไม่จริงจัง เพราะผู้เขียนเชื่อว่าไม่น่าจะมีแรงจูงใจพอที่จะเล่นเกมเน้นการ Grinding เป็นหลัก แต่สิ่งที่พิเศษมากกว่าเกมอื่นนั้นก็คือโหมด “เนื้อเรื่อง” ที่จะแบ่งเป็น Chapter โดยทยอยอัปเดตเรื่อย ๆ แล้ว ว้าว! ไม่คาดคิดว่าเนื้อเรื่อง Girls’ Frontline จะน่าสนใจและรู้สึกอินมากขนาดนี้
เริ่มเข้าเรื่อง Story แบบย่อและรู้สึกอย่างไร?
เกมเมอร์คาดหวังเนื้อเรื่องแบบไหนกับเกมนี้ เช่น แนวชีวิตประจำวัน, สาวน่ารักทำอะไรที่น่ารัก (Cute Girl doing Cute Things), แฟนเซอร์วิส ecchi ซึ่งที่กล่าวมา ผิดทั้งหมด
เนื้อเรื่องของ Girls’ Frontline หน้าร้านคือคือความแบ๊ว แต่เบื้องหลังคือประเภทแนว ทหาร Sci-fi หลังโลกหายนะจากสงครามโลกครั้งที่สาม ครบรสทั้งฉากแอ๊คชั่น-ดราม่าเนื้อหาดาร์ค, รุนแรงระดับเรท Mature 17+ และสิ้นหวังในระดับเทียบเท่ากับเกมระดับ AA เกมหนึ่ง
สำหรับคนที่ไม่อ่านเยอะ เจ็บตา ภาพข้างล่างจะเป็นการสื่อเรื่องราวโดยรวมของ Girls’ Frontline
ในแต่ละ Chapter ทุกคนจะมีบทบาทนำเสนอที่แตกต่างกันไป แต่หน่วยทหารที่จดจำมากที่สุดก็คือ Anti-Rain และ Squad 404
ถึงแม้ว่าผู้เล่นจะได้รับบทเป็นผู้บัญชาการ แต่ในส่วนเนื้อเรื่องจริง ๆ เกมเน้นถึงมุมมองของตัวละคร M4A1 กับหน่วยทีมนามว่า Anti-Rain โดยมีสมาชิกอื่น ๆ คือ M16A1 (Big Boss?), M4 SOPMOD II, AR-15 และ RO635 ซึ่งเป็นหน่วยทหารเพื่อใช้ทดสอบ T-Doll โดยเฉพาะ (Tactical Doll เป็นชื่อเรียกของแอนดรอยด์สาวน้อย) นั้นก็หมายความว่าเป็นทีมที่มีประสบการณ์กับแข็งแกร่งมาก แต่ก็ผ่านความโหดร้ายของสงครามมามากมายโดยไม่สามารถขัดขืนคำสั่งได้ (เจ็บขาขาด แขนขาดก็ต้องรบ)
เนื้อเรื่องในส่วนของหน่วย Anti-Rain “ความหวัง” แทบจะไม่มีในพจนานุกรม คุณจะได้พบกับความ F*cked Up ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นเกมไปถึงตอนล่าสุด Chapter 10 (เซิร์ฟเวอร์อังกฤษยังคงอยู่แค่ Chapter 7) ที่จะนำเสนอในเรื่องความเจ็บปวดจากสงคราม ความสูญเสีย และความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่มีวิวัฒนาการที่ค่อยสร้างขึ้นจนทำให้ผู้เล่นรู้สึกเอาใจช่วยตัวละครจริง ๆ ซึ่งมันแทบหาไม่ได้เลยในเกมประเภทนี้ในรูปแบบมือถือ
แต่ตรงกันข้ามสำหรับหน่วย Squad 404 – หน่วยทหารที่ไม่มีตัวตน ไม่มีสังกัด ปฏิบัติการพิเศษอย่างลับ ๆ (น่าจะใกล้เคียงกับ Black Ops มากที่สุด) โดยสมาชิกในทีมจะมี Ump45, Ump9, HK416 และ G11 โดยจะมีบทบาทสำคัญในอีเว้นท์ในเกมอย่าง Operation Cube, Operation Deep Dive และ Operation Singularity
โดยส่วนตัวแล้ว เนื้อเรื่องหน่วย Squad 404 จะเปรียบเสมือนกำลังดูหนังแอ็คชั่นดราม่าที่มีความระทึกและเข้มข้น แต่ก็ยังมีความเท่แบบทหาร คอเมดี้แบบการ์ตูนญี่ปุ่น ซึ่งยังพอมีเนื้อที่ให้ผ่อนคลายอยู่บ้าง แตกต่างจากหน่วยทหาร Anti-Rain ที่จะตึงเครียดทุกตอนและแทบจะไม่มีที่ให้หายใจเลย
แม้เนื้อเรื่องของเกม Girls’ Frontline ยังดำเนินต่อไปยังไม่จบ ผู้เขียนเองได้ศึกษาเรื่องราว Lore ต่าง ๆ ซึ่งบอกเลยว่ามันเยอะ, ลึกลับซับซ้อนและดาร์คยิ่งกว่าเนื้อเรื่องหลักด้วยความยาวเยอะถึง 10 หน้ากระดาษ
ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์แอนดรอยด์สังหารพนักงานทั้งหมดในบริษัท Sangvis Ferri ที่เรียกว่า Butterfly Incident ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้กลายเป็นศัตรูในเกม Girls’ Frontline, ทหารนาซีเยอรมันแอบวิจัยอาวุธจากเอเลี่ยนในสมัย WWII หรือ สงครามโลกครั้งที่สามเกิดขึ้นโดยมีสาเหตุคือเรื่องของผลประโยชน์ธุรกิจระหว่างบริษัท IOP และ Sangvis Ferri ซึ่งทั้งคู่เป็นคู่แข่งที่ผลิตภัณฑ์ตุ๊กตาสงคราม ทำให้ยอดผลิต T-Doll มีความต้องการสูงมาก และอื่น ๆ อีกมากมายที่ยังเล่ายังไงก็ไม่หมด
ซึ่งผู้เขียนก็แอบรู้สึกเสียดายแม้ว่าเนื้อเรื่องดี มีดราม่ากระแทกใจผู้เล่น และภาพอาร์ทสามารถสื่ออารมณ์ของเนื้อเรื่องได้แข็งแกร่งมาก แต่เพราะด้วยงบมีเพียงจำกัดตามสไตล์เกมมือถือ ทำให้เกมไม่สามารถจัดเต็มได้อย่างเท่าที่ควร ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องไม่มีเสียงพากย์ ตัวละครบางตัวยังไม่ได้เสียง และการนำเสนอยังเป็นสไตล์มือถือทำให้การเล่าเรื่องรู้สึกเสียอรรถรสบางครั้ง
แต่โดยรวมแล้ว Girls’ Frontline สำหรับผู้เขียนยกให้เป็นเกมมือถือที่น่าเล่นที่สุดในบรรดาเกมวางแผนบุคลาธิษฐานทั้งหมด เพราะว่าเกมการเล่นยังคงตามสูตรเกมสไตล์ KanColle ก็จริง แต่มีอะไรให้ทำมากกว่าเกมต้นแบบ การออกแบบตัวละครเองก็ทั้งสวยและเท่ไม่ว่าจะเป็นฝั่ง T-Doll และ Sangvis Ferri แถมตัวละครไม่ขายแฟนเซอร์วิสมากเกินไปจนรู้สึกเอียน
และที่สุดสำคัญคือ เนื้อเรื่อง ของเกมมีเอกลักษณ์ มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกอินเป็นอย่างมาก แล้วในส่วนนี้สามารถต่อยอดเป็นเกมยักษ์หรือสื่อบันเทิงคุณภาพดีได้ไม่ยากเลย ซึ่งหวังว่าเกมนี้จะเติบโตยิ่งขึ้นในอนาคตพร้อมหวังลึก ๆ ว่าจะมีโปรเจ็กต์อื่นที่จะทำให้เกมนี้ได้กระจายนิยมไปทั่วโลกครับ