BY BOM
22 Apr 19 5:44 pm

เราทุกคนล้วนมีที่มา! รวมเกมที่ทำให้ทีมงาน GamingDose กลายเป็นเกมเมอร์จนถึงทุกวันนี้

6 Views

ตอนที่ผมนั่งเรียนอยู่ในมหาลัยนั้น อาจารย์ท่านหนึ่งได้ถามว่าเราพูดถึงประวัติส่วนตัวเรามักจะบอกว่าเราเรียนอะไรจบที่ไหน แต่มีน้อยคนนักที่จะถามว่าเรามาเป็นแบบนี้เพราะอะไร ประกอบกับในตอนนี้ Community ของเว็บไซต์ GamingDose เริ่มมีคำถามว่าเราเป็นเกมเมอร์เพราะอะไร เมื่อสองอย่างนี้มาร่วมกันจึงนำไปสู่คำถามของบทความที่ว่าเกมที่ทำให้ทีมงานกลายเป็นเกมเมอร์จนถึงทุกวันนี้คือเกมอะไร

Jokeboy – Co-Founder / Editor in Chief

Diablo

Diablo ถือเป็นเกมแรกที่นำพาผมเข้าสู่วงการ Hardcore Gaming และสร้างความประทับใจเกี่ยวกับ “วิดีโอเกม” ให้กับผมอย่างแท้จริง

ด้วยบรรยากาศสุดโหด (หากเทียบกับเกมสมัยนั้น) ระบบการเล่นที่แสนสนุกมีทั้งการตามหา Item การเลือก Class การร่วมมือกันเล่น (หรือต่อสู้) กับผู้เล่นคนอื่นผ่านระบบ Modem 56k การเล่น Diablo ถือได้ว่าเป็นการเปิดโลกกว้างของวงการเกมให้กับผมในวัยเยาว์

หลังจาก Diablo มาผมเองก็กลายเป็นเกมเมอร์สาย PC แบบเต็มตัว ติดตามข่าวสารวงการเกม ไล่ล่าหาข้อมูลเกี่ยวกับเกมบนอินเทอร์เน็ต จนเวลาผ่านไปกลายเป็น GamingDose ในทุกวันนี้

Gene (Sett) – Founder / Project Manager

Splinter Cell

เกม Splinter Cell น่าจะเป็นเกมแผ่นแท้เกมแรกในชีวิตและก็เป็นเกมแรกในชีวิตเหมือนกันที่รู้สึกจริงจังกับการเล่นเกมมากขนาดนั้น ถ้าจำไม่ผิดน่าจะช่วงผมเรียนอยู่ชั้นประถม 5 ประถม 6 ไปแล้ว

Splinter Cell เป็นเกมที่มีเนื้อหาหนักแน่นสำหรับเด็กประถมในวัยนั้นรวมไปถึงรูปแบบการเล่นที่ค่อนข้างยากในระดับหนึ่งและไม่ค่อยเหมือนใครในขณะนั้น ช่วงเวลาที่เกมเดินหน้ายิงสาดกระสุนหมุนตัวหลบเกลื่อนตลาดแต่ Ubisoft ก็ได้ส่งเกมสายลับชั้นยอดมาให้ได้ผมสัมผัส

แน่นอนว่าในยุคนั้นที่บ้านผมก็ยังไม่มีอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงวิดีโอสอนผ่านด่านก็ยังไม่เยอะมากเท่ากับในทุกวันนี้ ทำให้การจะผ่านแต่ละด่านของเกมไปได้ต้องอาศัยเวลาและการสังเกตที่มากกว่าเกมอื่น ๆ ที่เคยได้สัมผัสและก็ทำให้ผมหลงรักวิดีโอเกมมาจนถึงทุกวันนี้

ปล. Ubisoft จ๋า ปล่อยภาคใหม่ออกมาสักทีเถอะ ไหว้ล่ะ ขอ Splinter Cell ภาคใหม่ด้วยจย้าาาาาาาาาา

Markrider – Content Writer

Ran Online

อาจจะดูแปลก ๆ ไปหน่อยที่เริ่มต้นการเล่นเกมด้วยเกมออนไลน์ แต่มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ เนื่องจากตอนเด็ก ๆ พี่ชายของผู้เขียนกำลังอยู่ในช่วงติด Ro งอมแงม แต่ด้วยทางบ้านที่ไม่ค่อยสนับสนุน (เรียกว่าเกลียดเลยก็ได้) ให้เด็กในบ้านไปร้านเกม ทำให้พี่ชายต้องพาผู้เขียนไปด้วยพร้อมกับอ้างว่า “ไปซ้อมกีฬา” เพื่อที่จะได้เล่นเกมสมใจอยาก

ในระหว่างนั้นการเล่น Ro ต้องเติมเวลาเข้าไปเพื่อเล่น ซ้ำยังต้องซื้อชั่วโมงร้านเน็ตอีก ครั้นจะปล่อยให้น้องไปยืนเก้ ๆ กัง ๆ ในร้านอินเทอร์เน็ตก็ไม่ใช่เรื่อง พี่ชายของผู้เขียนเลยเปิดคอมอีกเครื่องแล้วให้ผู้เขียนในวัย 6 ขวบนั่งเล่นเกมไป โดยเกมฟรีในตอนนั้นมันมีอยู่เกมเดียวก็คือ Ran Online

ตอนนั้นจำไม่ได้มากกว่าเกมเป็นยังไง จำได้แค่ว่าเราเข้าใจคำว่าเกมครั้งแรกจากเกมนี้ แม้ในช่วงหลังเราจะเบนเข็มไปเล่น Console เป็นส่วนมากเพราะที่บ้านซื้อ PlayStation 1 มาให้ แต่สุดท้ายยังไงผ่านไปมากขนาดไหน ณ ปัจจุบันเราก็ยังเข้ามาเล่นเกมนี้อยู่เนือง ๆ เพื่อเป็นการหวนรำลึกทุกครั้งว่าเกมนี้คือเกมที่เรารู้จักเป็นเกมแรก

StolenHeart – Content Writer

The King of Fighters Series

KOF XIVผมเป็นคนที่คลุกคลีอยู่กับวิดีโอเกมมาตั้งแต่เด็ก ๆ ชอบดูชอบเล่นตามประสา อาจจะไม่ได้ถึงกับคลั่งไคล้เกมอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็ชอบเล่นเกมเสมอมา

จนได้มารู้จักกับ The King of Fighters ซึ่งในตอนนั้นที่ยังเด็กอยู่มาก และเพิ่มจะเริ่มติดตามผลงานของค่าย SNK ที่มีเกมต่อสู้มากมาย และ The King of Fighters ก็เหมือนกับเติมเต็มความฝัน ที่เอาตัวละครจากเกมดังมารวมอยู่ในเกมเดียวกันได้ แถมยังมีตัวละครเท่ ๆ มากมายให้เล่น โดยเฉพาะในวัยเด็กนั้นผมชอบตัวละคร Iori Yagami มาก ๆ

ที่สำคัญคือเกมนี้ทำให้ผมกลายเป็นคนที่ชื่นชอบในเกมแนวต่อสู้ไปเลย ด้วยความสนุกที่ได้รับ เพื่อนที่ได้เจอ ถึงแม้ก่อนหน้านี้อาจจะเรียกว่าตัวเองคือเกมเมอร์ได้ แต่การเปลี่ยนมาเป็นเกมเมอร์เต็มตัวที่ชอบเกมต่อสู้นั้นก็ต้องเป็นเพราะ The King of Fighters แน่นอนครับ

KKMTC – Content Writer

Gran Turismo 2

Gran Turismo 2

ถึงแม้จะไม่ใช่เกมที่สัมผัสครั้งแรกในชีวิต แต่ Gran Turismo 2 เป็นเกมแข่งรถที่เปลี่ยนแปลงชีวิตและวิธีการเล่นเกมของผมไปตลอดกาล

จากตอนแรก ผมมักมองคุณพ่อหรือพี่ชายเล่นเกมอยู่ข้าง ๆ กับรู้สึกไม่กล้าเล่นเกม เพราะกลัวการ “พ่ายแพ้” มาก แต่หลังจากโดนคุณพ่อยัดเยียดผมให้ลองเกม Gran Turismo 2 ซึ่งเป็นเกมแข่งรถที่เล่นค่อนข้างยาก เนื่องจากระบบฟิสิกส์การขับรถเป็นประเภทสมจริง (ในยุคนั้น)

แต่เมื่อผมลองสัมผัส Gran Turismo 2 มันกลับปลูกสัญชาตญาณเกมเมอร์ของตัวเองโดยไม่รู้ตัว ผมรู้สึกเริ่มอยากเอาชนะ A.I. กับพัฒนาฝีมือตัวเองให้เล่นเกมเก่งยิ่งขึ้น เพียงต้องการสะสมรถยนต์หายากเท่านั้น

Gran Turismo 2 ถือเป็นเกมแข่งรถในดวงใจตลอดกาล เพราะเป็นเกมแรกที่ผมจริงจังเกมมิ่ง และเริ่มกล้าเล่นเกมแข่งรถกับเกมประเภทอื่นตามมา เช่น แนวยิง, ดนตรี, แอคชั่นอีกด้วย

BOM – Content Writer

Warcraft III: The Frozen Throne : DotA Allstars 

เอาจริง ๆ ผมสัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่าเกมตั้งแต่อายุหลักเดียวในฐานะของผู้ชมไปจนถึงระดับเป็นผู้เล่นเอง แต่เกมที่ทำให้ชีวิตของผมเป็นเกมเมอร์จนถึงทุกวันนี้คือเกม Warcraft III: The Frozen Throne ที่มาพร้อมกับกราฟิกที่สวยงาม เนื้อเรื่องที่เข้มข้นแม้ในตอนนั้นภาษาอังกฤษของผมยังติดลบต้องไปอ่านบทสรุปตามหนังสือบทสรุปแทน

สิ่งที่ทำให้ผมติดเกมนี้หนัก ๆ จริง ๆ ก็คือแผนที่ DotA Allstars  ที่เป็นจุดเริ่มต้นหลาย ๆ อย่าง มันทำให้ผมอยากเข้าร้านเกมเพื่อเล่นเกมนี้อย่างจริงจังร่วมกับเพื่อน ๆ เป็นเกมแรกที่สอนบทเรียนสำคัญ ๆ ในชีวิตให้กับผม ไม่ว่าจะเป็นการคบเพื่อน ความรับผิดชอบ การฝึกฝน รวมทั้งการควบคุมอารมณ์อีกด้วย นอกจากนี้มันยังทำให้ผมรู้จักสังคมของเกมได้อย่างลึกซึ้งทั้งด้าน Community และ Content ที่เราหาได้จากเกม

ปัจจุบันนี้แม้ว่าจะมีเกมที่เป็นผู้สืบทอดของเกมนี้แล้วอย่าง Dota 2 (ซึ่งก็เล่นหนักพอ ๆ กัน) แต่ในเรื่องของความคลาสิคและเสน่ห์ของตัวละครยังไง Dota Allstars ก็ดีกว่า

XTER-VENDETTA – Video Editor

Battlefield 2

จริง ๆ ถ้าจะให้เลือกเกมไหนซะทีเดียวก็พูดยากพอสมควร เพราะแต่ละยุคที่ผมผ่านมาก็จะมีเกมที่ปลุกความสนใจผมอย่างสูง เช่นสมัยเด็กมาก ๆ ผมก็ทึ่งไปกับ Doom ต่อมาในยุค PlayStation 1 ผมก็สนุกปนสยองกับ Resident Evil พอมี PC ที่ดีขึ้นหน่อย ผมก็สนุกกับ GTA 3, Vice City, Max Payne และหลังจากนั้น 2 ปี ผมก็ระทึกไปกับ Doom 3 และ Half-Life 2 แต่ละยุค แต่ละปีมันก็มีความ Peak ในแบบของมัน แต่สำหรับเกมที่ทำให้ผมเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อวิดีโอเกมไปเลย ก็คงจะไม่พ้น Battlefield 2

ในช่วงปี 2005 สมัยที่ผมยังเป็นเด็ก ม.3 หัวเกรียน หน้าแป้น ผมก็พึ่งจะเข้าใจว่าวิดีโอเกมบน PC มันต้องใช้การลงทุนสูง ต้องซื้อคอมราคาร่วม 20,000 บาท เพื่อเล่นเกมราคา 500 บาท แต่นั่นเป็นแค่อีกด้านหนึ่งที่ผมได้สัมผัส หลังจากที่ผมได้ลอง Battlefield 2 มันก็ทำให้ผมได้เข้าใจโลกของเกมมากขึ้นไปอีก นั่นคือนอกจากคอมต้องแรงแล้ว เรายังต้องการ High-speed internet เพื่อการเล่นเกมออนไลน์ ในสมัยนั้น

โปรโมชั่น True High-speed 256 KB ก็ถือว่าแรงแล้ว แต่ในเรื่องของสเปกเครื่องมันก็ไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะ Battlefield 2 น่าจะเป็นเกมที่กินแรงเครื่องหนักที่สุดของปี 2005 เลยก็ได้ ขนาดที่ว่าเครื่องผมเอาลง Low ทุกอย่างก็ยังไม่ลื่น มันเริ่มทำให้ผมงอแงกับพ่อแม่เพื่อขอคอมพิวเตอร์แรง ๆ แม้ผลการเรียนจะไม่ได้เรื่องเลย นอกจากวิชาภาษาอังกฤษ (ฮา)

และนอกจากมันจะทำให้ผมได้เข้าสู่ความ High-end ของการเล่นเกม มันยังเปิดโลกทัศน์ของผมเข้าสู่สังคมออนไลน์ในไทย จริงอยู่ว่านี่ไม่ใช่เกมออนไลน์เกมแรกที่ผมเล่น แต่ในเกมที่ผ่านมาผมไม่เคยเข้าหา Community หรือทำความรู้จักกับใครในโลกออนไลน์ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เข้าไปเห็นคนอื่น ๆ ที่เล่นเกมเดียวกับเรา หลายคนโตกว่าผมมาก เป็นเด็กมหาลัยหรือวัยทำงานก็เยอะแยะ (แถมพี่สาวบางคนก็สวยมากด้วย ว้าววว)

ทำให้ผมได้เข้าใจว่าเราไม่ได้เล่นเกมเฉย ๆ แล้ว แต่มันเป็นสังคม เมื่อเป็นสังคมก็ต้องมีการเคารพต่อกัน… แต่หารู้ไม่ กว่าจะคิดได้ผมก็เกรียนแตกไปหลายทีอยู่

และนอกจากการอยู่กันในสังคม รูปแบบการเล่นมันก็ไม่เหมือนที่ผมเคยเล่นอยู่คนเดียว มันทำให้ผมได้รู้ว่าเก่งกับ AI ในเกมมันไม่เหมือนกับการเก่งกับคนจริง ๆ เพราะผู้เล่นที่เป็นคนก็ไม่ต่างกับคนที่อยู่ในโลกความเป็นจริง มีตั้งแต่เก่งระดับเทพเจ้าส่งมาเกิด หรือโง่ดักดานยิ่งกว่าบอท Easy เราจะเล่นแบบปรับ Default ทุกอย่างไม่ได้ มันต้องมีการปรับแต่ง ต้องถนัดที่สุด คล่องที่สุด เห็นชัดที่สุด เพื่อเอาชนะผู้เล่นอื่นที่เขาก็อาจจะทำเหมือนกัน ซึ่งในอีกมุมมันก็ทำให้ผมต้องเผชิญความหลากหลายในสังคม และก็ต้องยอมรับให้ได้ถ้าเพื่อนร่วมทีมไม่ได้หวังเอาชนะมากเท่ากับเรา… แม้ว่าเบื้องหลังผมจะปาเมาส์ ทุบโต๊ะ ถีบเก้าอี้ จนพังไปกี่อย่างก็จำไม่ได้

ต่อมาผมก็ต้องเผชิญกับมนุษย์เกรียนจิตไม่ปกติที่สนุกสนานกับการได้เห็นคนอื่นเดือดดาล ได้เย้ยหยันคนอื่นโดยใช้โลกออนไลน์เป็นเกราะกำบัง เพราะถ้าอยู่ต่อหน้าคงหน้าแหกไปนานแล้ว ซึ่งเราต้องอยู่กับมันให้ได้ แถมแย่ที่สุดก็คือพวกมนุษย์โกง ที่พร้อมจะ hack เกม เอาเปรียบคนอื่นอย่างไม่สนใจไยดี และมันก็ยังเป็นปัญหามาจนถึงยุคนี้แถมมีแต่จะหนักขึ้นเรื่อย ๆ

Battlefield 2 เป็นเกมที่ทำให้ผมได้เห็นโลกของเกมแบบเต็ม ๆ ทั้งด้านดี และไม่ดี มันพาให้ผมก้าวมาสู่สังคมที่ใหญ่ขึ้น ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างที่มากกว่าการเล่นอยู่คนเดียว ซึ่งถ้าเกิดผมไม่หยิบกล่องแท้ Battlefield 2 กลับบ้านวันนั้น ก็อาจจะไม่มี XTER-VENDETTA ในวันนี้เลยก็ได้

ซ้ง – Content Creator

Mega Man x4

ยังจำเสียงฟันดาบ ฮุ หะ หู้ว ของซีโร่ได้ขึ้นใจ ตอนแรกไม่อยากเล่น X เพราะไม่เท่ แต่สุดท้ายก็เล่นนะ เพราะมันเล่นง่ายกว่าซีโร่เยอะเลย (ฮ่าๆ) หลังจากนั้นก็ไล่เล่นมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นเด็กติดเกมถึงทุกวันนี้ ไม่รู้จะเล่าอะไรต่อดีอะ 55555

GunnMano – Social Media Manager

Metal Gear Solid

metal gear solid

จำได้ว่าคุณพ่อซื้อมาให้เล่น มาพร้อมบทสรุปเกมแบบกระดาษ A4 เย็บเล่ม เปิดอ่านก่อนเล่น แล้วก็เล่นไปได้ไม่ไกลเพราะตอนนั้นรู้สึกว่าเกมมันยากมาก ศัตรูฉลาดเว่อร์ ยิ่งตอนทหารเจอเรา สะดุ้งและกลัวกับเสียงเอฟเฟคท์นี้มาก (ตอนโตก็ยังหลอนกับเสียงนี้)

ซึ่งก็รู้สึกได้เลยว่าเกมมันเจ๋งมาก ล้ำสุด ๆ แบบที่มันส่งผลกระทบต่อเราได้ขนาดนี้ จนทำให้เราชื่นชอบในการค้นหาเกมอื่น ๆ มาเล่นอีก

Nes – Video Editor

Battlefield 1942

เป็นเกมแรกที่จริงจังเกมมิ่งมาก ๆ ยอมเสียเงิน ชม. ละ 30 – 40 บาท ซึ่งช่วงนั้นถือว่าเป็นเกมที่สเปคสูงกว่า Half-Life หรือ Counter-Strike มาก

จึงไม่เป็นที่นิยมในร้านเกมหลาย ๆ แห่งซักเท่าไหร่ แต่ด้วยการที่มันมีบอทมาด้วยก็ช่วยให้สามารถเล่นคนเดียวได้ในระดับหนึ่ง
แต่สุดท้ายก็ต้องเลิกเล่นและไปเล่นเกมตามกระแสเพื่อน ๆ ที่สมัยนั้นเล่นแต่ ปะเต้อปะแต้ (คนแก่แถวบ้านผมเรียกแบบนี้) และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความอยากเอาชนะ หาข้อมูลเพิ่มเติม อยากเล่นเก่งขึ้น เพื่อที่จะเป็นที่ 1 ในหมู่เพื่อน ๆ และจนติดไปเกมอื่น ๆ ต่อ ๆ ไปในอนาคต

TheStarrySky – MOBA Writer

Red Alert 2

Red Alert 2

มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกในตอนแรก ที่เด็กบ้านนอกคนหนึ่งได้จับคอมพิวเตอร์เป็นครั้งแรก จำได้เลยว่าเป็นคอมพิวเตอร์ของอา ที่ไปทำงานในเมือง เเล้วมีเงินเก็บพอที่จะซื้อคอมไว้ที่บ้านได้ การได้เล่น Ra 2 มันในตอนนั้นมันเป็นความรู้สึกที่ดีจริง ๆ เป็นหนึ่งในการเล่นเกมที่ดีที่สุดในชีวิต เพราะเกมอื่นๆ ที่ผมเล่น ก็ได้เล่นหลังเกมนี้ทั้งนั้น Ra 2 ไม่ใช่เเค่เล่นสนุก มันยังทำให้เราสนใจเรื่องประวัติศาสตร์สงคราม การสู้รบ รวมถึงเป็นประตูสู่เกมอื่นๆ ด้วย เพราะงั้นถ้าถามว่าเกมไหนที่ทำให้เริ่มอยากเป็นเกมเมอร์ ก็ต้อง Red Alert 2 นี้ล่ะ

ไหนๆ ก็ได้เขียนแล้ว งั้นขออีกเกม เป็นเกมออนไลน์ นั้นคือเกม “12 หางออนไลน์”

ถ้า Ra 2 คือเกมที่ทำให้เริ่มสนใจเกมอื่นๆ เป็นเกมเเรก 12 หางก็คือเกมที่ทำให้ผลเริ่มเข้าสู่โลกออนไลน์จริง ๆ เป็นเกมเเรกเหมือนกัน

12 หางเป็นเกมไทย เพราะงั้นในสมัยนั้นจึงไม่มี Wiki/ไม่มีไกด์ ไม่มีคู่มือการเล่นอะไรเลย การเล่น 12 หาง จึงบังคับให้ผมได้เข้าสู่โลกโซเชี่ยล ที่ต้องแลกเปลี่ยนพูดคุยกับคนอื่น ๆ ทำให้ผมรู้จักกับสังคมออนไลน์เป็นครั้งแรก รู้จักเว็บบอร์ด รู้จักการตั้งกระทู้ ก็จากเกมนี้ล่ะ เเล้วตอนนั้น 12 หาง เป็นเกมที่สังคมดีมาก ๆ มีเเต่ความช่วยเหลือ เเบ่งปันกัน ไม่ได้มีเเต่เกรียน มีเเต่ Toxic เหมือนกับสังคมเกมในตอนนี้ เเม้ว่าจะมีเด็กอายุน้อย ๆ เล่นจำนวนมากก็ตาม

12 หางจึงทำให้ผมรักการเล่นเกมจริงๆ เสียดายที่เกมปิดไปเเล้ว หวังว่าการพยายามกลับมาใหม่ของ 12 ที่กำลังมีข่าวในตอนนี้จะสำเร็จ ผมอยากให้คนอื่น ๆ ได้สัมผัสเกมดี ๆ อย่าง 12 หางอีกรอบเหมือนผมจริง ๆ

Nakin -Graphic Designer

Ragnarok Onlineragnarok กับ Mu น่าจะเป็นเกมที่ผมเล่นได้นานที่สุดในชีวิตละครับ ถ้าย้อนไปอีกก็เป็น Mario ยุคเกมตลับ เกมพวกอย่าง Half-Life ที่คนนิยมกัน (พวกเกมยิงกัน) ไม่ค่อยชอบเล่น เล่นแล้วเวียนหัว

สรุป

Metal Gear Solid V: The Phantom Pain

เกมเมอร์อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับหลาย ๆ คน แต่หากเราลองย้อนกลับไปเป็นเกมเมอร์วันแรกก็เป็นความทรงจำที่ดีไม่น้อย ดังที่ทีมงาน GamingDose หลายคนกว่าจะมาเป็นเกมเมอร์ต่างก็มีจุดเริ่มต้นทั้งสิ้น แล้วคุณละเป็นเกมเมอร์ตั้งแต่เมื่อไหร่ เล่นเกมครั้งแรกเป็นเกมอะไรลองนึกย้อนดู บางทีคุณจะมีความสุขในการเล่นเกมมากกว่าเดิมก็เป็นได้

Nuttawat Lokkumlue

บ๋อม - Content Writer

Back to top