BY Nuttawut Apiratwarakul
25 Jul 23 10:00 pm

เล่นแล้วมาเล่าต่อ Armored Core VI: Fires of Rubicon ว่าที่เกมเทพตัวต่อไปจากค่าย FromSoftware

346 Views

Armored Core ซีรีส์หุ่นเหล็กแกนเกราะสุดท้าทายที่เคยโลดแล่นเป็นตำนานอยู่ในช่วงยุค PlayStation 1 จนถึง PlayStation 3 จากลาวงการเกมกันไปหลายปี  

หลังภาคสุดท้ายวางจำหน่ายไปในปี 2013 ก็เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วที่ซีรีส์นี้หายหน้าหายตาไปจากวงการ ขณะที่ความนิยมของ FromSoftware ผู้พัฒนาเกมตระกูลนี้ทะยานขึ้นมายืนเป็นทีมพัฒนาแถวหน้าของวงการด้วยผลงานเกมอย่าง Dark Souls , Sekiro หรือ Elden Ring  

เมื่อ FromSoftware ประกาศเปิดตัว Armored Core 6: Fires of Rubicon ภาคใหม่ของซีรีส์ ก็จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายสายตาจะจับจ้องผลงานชิ้นนี้ ทั้งแฟนใหม่ที่ติดตามผลงาน FromSoftware ในช่วงที่โด่งดังหรือแฟน Armored Core เดนตายจากภาคต้นฉบับ 

ทุกคนล้วนคาดหวังว่า Armored Core 6: Fires of Rubicon จะเป็นอีกหนึ่งสุดยอดผลงานของ FromSofrware ที่เกมเมอร์จะหลงรัก และในโอกาสที่ตัวเกมกำลังจะวางจำหน่ายจริงกันแล้วในวันที่ 26 สิงหาคม ที่จะมาถึงนี้   ล่าสุด GamingDose ก็ได้รับเชิญให้ไปสัมผัสตัวเกมแบบพรีวิวในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเรามีข้อมูลเด็ดอะไรมาแบ่งปันก็ขอเชิญพบได้ใน Armored Core 6: Fires of Rubicon ฉบับ Preview 

ก่อนจะไปทำความรู้จักกันแบบเจาะลึกเราขอเล่า “จิตวิญญาณ” ของความเป็น Armored Core จากภาคเก่า ๆ กันเสียก่อนเพื่อให้ใครที่ไม่เคยสัมผัสเกมตระกูลนี้พอได้รู้จักว่ามีระบบการเล่นโดยรวมเป็นยังไง 

โดยรวมแล้วนี่ก็คือเกมแอกชั่นขับหุ่นยนต์ ที่ผู้เล่นเข้าบังคับหุ่น “Armored Core” เข้าทำภารกิจ เก็บเงินหาซื้อชิ้นส่วนใหม่ ๆ มาปรับปรุงหุ่นของตัวเอง จุดเด่นของเกมก็คือระบบการต่อสู้ที่มีความเร็วสูง ขณะเดียวกันผู้เล่นก็จะรู้สึกสนุกไปกับการปรับหุ่นของตนเองจนกว่าจะได้สไตล์การเล่นที่ถูกใจ  

แม้ตัวเกมจะเป็นเกมแอกชั่นเหมือนกันแต่รูปแบบการบังคับและการต่อสู้ของ Armored Core ก็แตกต่างจากเกมสไตล์ “Souls” ที่แฟนเกมค่าย FromSoftware อาจจะคุ้นเคยมากกว่าในช่วงปีที่ผ่านมา  ซึ่งส่วนที่แตกต่างหลัก ๆ เลยก็คือการเคลื่อนที่ใน Armored Core เป็นแบบ 3 มิติเต็มรูปแบบ การต่อสู้ในเกมมีการหลบหลีกแบบ ขึ้น ลง ซ้าย ขวา เพราะตัวหุ่นในเกมนั้นบินได้แบบอิสระ ขณะที่การหลบในเกม Souls มักจะเป็นการกลิ้งออกข้างซ้ายขวาเท่านั้น 

อย่างไรก็ตามความสามารถในการสังเกตและเรียนรู้ท่วงท่าการโจมตีของศัตรู รวมถึงการจับจังหวะก็ยังเป็นทักษะที่มีความสำคัญในเกมนี้เช่นเดียวกับเกมอื่น ๆ ของ FromSoftware 

เปลงเพลิงแห่งรูบิคอน

เนื้อหาในเกมนี้จะเล่าถึงดวงดาวอันห่างไกลซึ่งมีชื่อว่า Rubicon 3 ที่นี่มนุษยชาติค้นพบทรัพยากรใหม่ที่มีชื่อว่า Coral ซึ่งมีศักยภาพมหาศาลและสามารถผลักดันพัฒนาเทคโนโลยีได้แบบก้าวกระโดด  แต่ตัวทรัพยากรดังกล่าวกลับนำมาซึ่งภัยพิบัติครั้งใหญ่และทำให้เปลวเพลิงปกคลุมไปทั่วทั้งดวงดาว  

เรื่องราวในเกมเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่มนุษย์พยายามกลับเข้ามายึดครอง Rubicon อีกครั้ง นำไปสู่สงครามและความขัดแย้งครั้งใหม่บนดวงดาวแห่งนี้ 

รูปแบบการเล่าเรื่องในเกมก็จะยังคงสไตล์ดั้งเดิมจาก Armored Core ภาคเก่า เรารับบทเป็นทหารรับจ้างมนุษย์ดัดแปลงรหัส “C4-621”  รับงานจากทุกบริษัททุกกลุ่มที่มีเงินจ่าย เอาเงินมาอัพเกรดหุ่นตัวเองและพยายามหาทางเอาตัวรอดไปเรื่อย ๆ  

ในแง่ของเนื้อเรื่องนั้นผู้เล่นไม่จำเป็นต้องเคยเล่นเกมภาคเก่าหรือคุ้นเคยกับจักรวาลของ Armored Core ก็สามารถกระโดดเข้ามาสนุกกับเกมภาคนี้ได้ทันที แม้ตัวเกมจะได้ชื่อว่าเป็นภาค 6 แต่การเล่าเรื่องต่าง ๆ ถือได้ว่าเป็นการ Soft Reboot ไม่ได้มีการอ้างอิงอะไรสำคัญจากเกมภาคเก่าโดยตรง แต่แฟนเกมจากภาคเก่าก็จะมีอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ได้อินอยู่เหมือนกัน

เอาจริง ๆ แล้วเนื้อหาการเล่าเรื่องดูจะไม่ใช่จุดสำคัญของ Armored Core อยู่แล้ว แต่ภาคนี้ก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจ รูปแบบการเล่าเรื่องก็น่าจะทำให้ผู้เล่นที่ชื่นชอบหุ่นยนต์สามารถเพลิดเพลินไปได้ตลอด ในช่วง Preview ที่เราได้สัมผัสเราจะได้พบกับตัวละครจากหลายกลุ่มหลายบริษัท และแม้ตัวละครของเราจะไม่มีบทพูดใด ๆ เลย แต่เราก็สนุกไปกับบทสนทนาของตัวละครทั้งหลาย โดยเฉพาะเราคนขับ Armored Core ด้วยกันที่เราต้องร่วมมือหรือได้เผชิญหน้าในสนามรบ  

จากที่เราได้สัมผัสมารูปแบบการเล่าเรื่องของ Armored Core 6 จะไม่ได้มุ่งเน้นความซับซ้อน แต่เน้นการให้บรรยากาศ สร้างอารมณ์ความรู้สึกร่วมเพื่อให้ผู้เล่น “อิน” ไปกับสถานการณ์ที่ได้พบระหว่างการเล่น

บุกทะลวงด้วยหุ่นคู่ใจ

อย่างที่เล่ากันไปข้างต้น หัวใจหลักของ Armored Core ก็คือเกมแอกชั่นความเร็วสูง Loop ของเกมการเล่นก็คือการ ลงไปทำภารกิจหาเงิน ซื้อและปรับแต่งชิ้นส่วนของหุ่นเรา หลังจากนั้นก็ลงไปทำภารกิจและต่อสู้กับศัตรูใหม่ ๆ วนไปเรื่อย ๆ 

การบังคับนั้นอาจจะดูซับซ้อนในช่วงแรกแต่พอเริ่มคุ้นชินแล้วเราจะสามารถบังคับหุ่น Armored Core ได้ดั่งใจ ซึ่งทีมงานปรับปรุงการบังคับในภาคนี้ให้มีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมมาก ๆ หากเทียบกับ Armored Core ในภาคก่อน จุดเด่นของการต่อสู้ในเกมนี้ก็คือการเคลื่อนที่ซึ่งรวดเร็วมาก ๆ ตัวหุ่นของเราจะมีการติดตั้ง Booster เอาไว้ และการใช้งาน Booster ก็คือหัวใจสำคัญของการบังคับ Armored Core เลยก็ว่าได้

เพราะต้องใช้ทั้งบิน พุ่งหลบ หาจังหวะในการเข้าโจมตี การหลบหลีกและการบังคับนั้นมีความสำคัญมาก ๆ เพราะ Armored Core เป็นเกมแอกชั่นที่ไม่มี iFrame หรือช่วงจังหวะการหลบที่ตัวเราจะไม่ได้รับความเสียหาย แฟนเกมตระกูล Souls น่าจะรู้กันดีว่าในเกมสไตล์ Souls นั้นการกลิ้งหลบจะมีจังหวะที่ตัวเราเป็นอมตะหรือไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ ช่วยระยะหนึ่ง 

แต่ใน Armored Core นั้น “หุ่น” ของเราถูกโจมตีได้ตลอดเวลา การหลบจึงไม่ใช่แค่การจับจังหวะกดหลบให้ถูก แต่เป็นการหาทางบังคับเอาหุ่นให้ออกไปจากการโจมตีให้พ้นจริง ๆ 

และด้วยการที่เกจพลัง Booster นั้นมีจำกัด (ซึ่งจะเพิ่มขึ้น หรือลดลงอยู่กับการปรับแต่งหุ่นของเรา) เราจึงต้องบริหารพลังงานของเราให้ดี โดยเฉพาะในการต่อสู้กับศัตรูที่เป็นหุ่น Armored Core เหมือนกับเรา

ตัวเกมยังให้อิสระในการเลือกใช้อาวุธและอุปกรณ์แบบเต็มที่ เราสามารถติดตั้งอาวุธได้ 4 ส่วน บนมือและหัวไหล่ จะเป็นสายปืนคู่สาดกระสุนปืนกล จะเป็นสายสมดุลดาบกับไรเฟิล จะติดตั้งโล่พลังงาน หรือเน้นอาวุธยิงและมิสไซล์ ทุกอย่างเป็นไปได้ตามใจของเรา 

น่าเสียดายที่ภาคนี้ชุดติดตั้งที่เป็นแขนอาวุธหรือ Weapon Arm จะไม่มีอยู่ แต่ทีมพัฒนาก็ระบุว่าอาวุธในเกมจะมีความหลากหลายอย่างมาก และเท่าที่ผมได้เห็นได้ลองก็เชื่อว่าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เรามีทั้งปืนกลเล็ก ปืนไรเฟิล ปืนพก ปืนลูกซอง  อาวุธพลังงาน และอีกสารพัดมากมายหลายอย่างรอให้เราไปค้นหาในเกมจริง 

การต่อสู้ในเกมนั้นดุเดือดและท้าทายมาก ๆ  ผู้เล่นจำเป็นต้องอ่านเกมให้ออก และวางแผนก่อนเข้าโจมตีศัตรูให้ดี ตัวเกมยังมีระบบที่เรียกว่า Stagger ซึ่งทำให้หุ่นที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักแบบต่อเนื่องจะเข้าสู่สถานะ Stun ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้และถูกโจมตีรุนแรงเป็นพิเศษ ทั้ง Boss และหุ่นของเราก็ก็อยู่ภายใต้เงื่อนไขของระบบนี้เช่นเดียวกัน 

การโจมตีด้วยอาวุธระยะประชิดเป็นอีกส่วนที่ได้รับการปรับปรุงแบบชัดเจนจากภาคเก่า ๆ ภาคนี้เราสามารถกดใช้งานท่า Assalut Boost ซึ่งเป็นการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว การใช้ท่าดังกล่าวจะใช้พลังงาน Booster อย่างรวดเร็วและเป็นท่าที่มีไว้เน้นการลดระยะเพื่อเข้าประชิดศัตรู ระหว่างอยู่ในช่วง Assault Boost เราสามารถใช้อาวุธยิงได้ปกติและเคลื่อนที่หลบหลีกได้เล็กน้อย ซึ่งการมีระบบนี้ทำให้การต่อสู้สลับไปมาระหว่างการดวลปืนระยะไกลและคลุกวงในระยะประชิดแบบลื่นไหลมาก ๆ 

ความรู้สึกจากการได้สัมผัสกับตัวเกมจริง ๆ นั้น Armored Core 6 ทำให้เรารู้สึกทรงพลังระหว่างการทำภารกิจต่อสู้กับศัตรูธรรมดาทั่วไป ระหว่างเข้าทำภารกิจทำลายล้างศัตรูธรรมดาในฉากเราจะรู้ได้เลยว่าหุ่น Armored Core จัดเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่หุ่นรุ่นธรรมดาทั่วไปไม่สามารถเทียบชั้นได้ เราจะได้รังแกเหล่าพาหนะภาคพื้นดินและอากาศ บุกทำลายป้อมปราการ ระเบิดปืนใหญ่ และโรงพลังงาน โดยศัตรูไม่อาจต้านทานได้ 

แต่เมื่อเป็นการต่อสู้กับศัตรูที่เป็นหุ่นพิเศษหรือ Armored Core ด้วยกันทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไป ในการต่อสู้กับ Armored Core ด้วยกัน เกมจะกลายเป็นการชิงไหวชิงพริบอ่านเกมหาจังหวะเพื่อหาทางล้มอีกฝ่าย และในการต่อสู้กับหุ่นพิเศษระดับ Boss เกมก็จะพาเราหวนคืนสู่ความรู้สึกในการต่อสู้กับ Boss ในเกมดังเกมอื่นของ FromSoftware ที่เราต้องอ่านการเคลื่อนไหวและจับจุดอ่อนของ Boss ให้เจอ 

โดยรวมแล้วระบบการเล่นหลักของ Armored Core 6 นั้นสนุกมาก ๆ ใครที่ชอบเกมที่ท้าทายหรือชอบเกมแอกชั่นที่รวดเร็วฉับไว น่าจะหลงรัก Armored Core 6 ได้ไม่ยากเลย  

ในเรื่องของการสำรวจและการทำภารกิจนั้นต้องย้ำกันก่อนว่าเกมนี้จะไม่ได้เน้นเรื่องของการสำรวจฉาก ผู้เล่นจะได้เข้าไปในแผนที่เดิมหลายครั้งเพื่อทำภารกิจที่ต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่แล้วก็คือการ “ทำลาย” เป้าหมายในฉาก โดยระหว่างทางหากเราทำลายศัตรูมากเท่าไหร่ก็จะได้เงินโบนัสมากขึ้น แต่ก็ต้องหักลบกับค่ากระสุนและค่าซ่อมแซมตัวหุ่น  และโชคดีมากที่ภาคนี้หักระบบติดลบเป็นหนี้ออกไปแล้ว ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าการลงไปเล่นแต่ละรอบจะทำให้เราจนมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม 

สร้างหุ่นรบในฝันของคุณเอง

หัวใจสำคัญอีกอย่างของเกมนี้ก็คือการปรับแต่งหุ่นยนต์ Armored Core ของเรา เราจะได้เงินจากการทำภารกิจเพื่อนำมาใช้ซื้อชิ้นส่วนใหม่ ๆ ทีมงานระบุว่าการปรับแต่งหุ่นจะมีความสำคัญมาก ๆ ในการเอาชนะศัตรูบางตัว 

ตัวหุ่น Armored Core จะประกอบไปด้วยชิ้นส่วนหลัก ๆ อย่าง หัว ลำตัว แขน ขา แกนปั่นพลังงานหลัก Booster และ ชิป  ขา เป็น ส่วนสำคัญที่ระบุว่าหุ่นของเราจะมีการเคลื่อนที่แบบไหน แกนพลังงานคือส่วนที่ควบคุมระบบพลังงานทั้งหมดเราจะติดตั้งอาวุธได้มากขนาดไหน มีการฟื้นฟูพลังงานรวดเร็วหรือเปล่า Booster ระบุว่าเราเคลื่อนที่ได้เร็วขนาดไหน มีการบังคับทิศทางระหว่าง Boost ยังไง และชิปใช้ระบุความเร็วและระยะในการล็อกเป้า 

ทุกชิ้นส่วนมีรายละเอียดมีจุดแข็งเฉพาะตัวและสะท้อนไปถึงการใช้งานจริง ๆ ระหว่างการเล่น ไม่ใช่เป็นแค่ตัวเลขค่าสถิติที่เปลี่ยนแปลงไปมาให้เราเห็นเท่านั้น  จากที่เราได้ลองเล่นมานั้น แค่การปรับ Booster หรือใส่ชิปใหม่แค่ชิ้นเดียวก็เห็นผลแบบชัดเจนเลย 

การปรับแต่งหุ่นนั้นสำคัญขนาดที่ว่าตัวเกมเปิดโอกาสให้คุณสามารถ “จูน” หุ่นกันได้ระหว่างภารกิจเลย นั่นก็คือหากเข้าไปตี Boss แล้วโดนตบตาย เกมก็เปิดให้คุณสามารถจูนหุ่นก่อนเข้าไปสู้ได้ใหม่ทันที ไม่ต้องไปเริ่มภารกิจใหม่ทั้งหมด   

พอบอกว่า Restart หน้าห้อง Boss ได้แบบนี้ผู้เล่น Souls สาย Hardcore อาจจะบอกว่าแล้วเกมมันจะท้าทายได้ยังไง เรายืนยันได้เลยว่าการต่อสู้ใน Armored Core 6 นั้นท้าทายมาก ๆ ผู้เล่นทั่ว ๆ ไปเตรียมตัวเตรียมใจ ตายแล้วตายอีกตายซ้ำตายซาก ได้เลย 

ส่วนใครที่กลัวว่าเกมจะยากจนเกินไป ทีมงานก็มีตัวช่วยเป็นระบบ Multiplayer ที่ให้ผู้เล่นสามารถช่วยกันแนะนำหุ่นที่เหมาะกับการล้มบอสและอัพโหลดไปแบ่งปันให้คนอื่น ๆ ได้ใช้งาน น่าเสียดายที่ระบบออนไลน์ทั้งหมดไม่ได้มีให้เราทดสอบระหว่างการ Preview  แต่ทีมงานก็ยืนยันว่าเราจะสามารถโหลดการปรับแต่งหุ่นของคนอื่น ๆ มาศึกษา รวมไปถึงโหลดลวดลาย  โลโก้ และการแต่งสีที่ผู้เล่นสร้างมาโชว์มาใช้งานได้ด้วยเช่นกัน

อีกไม่นานเกินรอ

จากที่เราได้สัมผัสมากับมือ Armored Core 6: Fires of Rubicon มีทุกอย่างที่แฟนเกมแอกชั่นต้องการ ทั้งระบบการต่อสู้ที่รวดเร็ว สนุกตื่นเต้นและท้าทาย รูปแบบสไตล์การเล่นที่หลากหลาย  แม้ในช่วงเวลาที่ผ่านมาซีรีส์ Armored Core อาจจะเป็นเกมเฉพาะกลุ่มที่ไม่ได้เข้าถึงผู้เล่นวงกว้างสักเท่าไหร่ แต่ Armored Core 6 ปรับปรุงหลายภาคส่วนของเกมได้อย่างน่าสนใจ การบังคับที่ง่ายขึ้น การต่อสู้ที่เร้าใจขึ้น และการเริ่มต้นเนื้อเรื่องใหม่ที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้

จากที่เราสัมผัสมาเล็กน้อยในช่วงต้นของเกม เราแทบอดใจรอกันไม่ไหวแล้วที่จะได้สัมผัสตัวเกมฉบับเต็ม  

ARMORED CORE VI FIRES OF RUBICON จะวางจำหน่ายในวันที่ 26 สิงหาคม บนระบบ PlayStation 4, PlayStation 5, Xbox One, Xbox Series S/X และ PC 

 

 

Nuttawut Apiratwarakul

โน้ต - Co-Founder / Editor-in-chief

Back to top