10 เกมสยองขวัญเอาตัวรอดนอกกระแส สร้างประสบการณ์ขนหัวลุกไม่แพ้เกมดัง

เกมแนวสยองขวัญ-เอาตัวรอดในปัจจุบัน เราอาจไม่ค่อยผลงานเกมอื่น ๆ นอกเหนือจากเกม Resident Evil, Outlast หรือ The Evil Within แต่ช่วงปี 2000 นั้น มีเกมแนว Survival Horror หลายไตเติลได้ถือกำเนิดขึ้นมากมายจนกลายเป็นเทรนด์วงการเกมระยะหนึ่ง แล้วนักพัฒนาเกมอินดี้และทีมงานเกมรายใหญ่หลายรายเริ่มสร้างเกมแนวดังกล่าว เพื่อตอบรับกระแสตามความต้องการของเกมเมอร์

แน่นอนว่ามีทั้งเกมสยองขวัญที่ประสบความสำเร็จ และมีอีกหลายเกมที่ประสบความล้มเหลวหรือทำยอดขายน่าผิดหวัง แม้ตัวเกมจะมีไอเดียที่แปลกใหม่ก็ตาม และนี่คือ 10 เกมสยองขวัญเอาตัวรอดนอกกระแส สร้างประสบการณ์ขนหัวลุกไม่แพ้เกมดัง ซึ่งจะมีเกมอะไรบ้างก็สามารถรับชมกันได้เลย

SIREN: Blood Curse

SIREN: Blood Curse เป็นเกม PlayStation 3 Exclusive แนวสยองขวัญ-เอาตัวรอดที่มีจุดเด่นด้านการนำเสนอภาพวิชวลสไตล์ภาพยนตร์สยองขวัญคลาสสิกญี่ปุ่น และผู้เล่นจะได้รับบทเป็นตัวละครหลากหลาย ซึ่งต้องเอาตัวรอดและหนีออกจากหมู่บ้าน Hanuda ที่ถูกต้องสาปโดย “พลังงานบางอย่าง” ที่ทำให้ชาวเมืองกลายเป็นคนบ้าคลั่งคล้ายซอมบี้ ด้วยทักษะการลอบเร้นกับความสามารถพิเศษส่วนตัวให้จงได้

Cry of Fear

Cry of Fear คือเกมอินดี้ที่ดัดแปลงจากเกม Half-Life ภาคแรก พัฒนาโดยทีมงาน Team Psykskallar แต่ถึงอย่างนั้นก็จงอย่าดูถูกคุณภาพเกมนี้เป็นเด็ดขาด เพราะเกมดังกล่าวเสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อเรื่อง Singleplayer สุดดาร์ก หดหู่ ปวดตับ และการออกแบบมอนสเตอร์ บรรยากาศ กับระบบเสียงที่ชวนอึดอัดกดดัน นอกจากนี้ เกมมาพร้อมระบบ Multiplayer Co-op 4 คนที่สามารถเชิญชวนเพื่อนเข้ามาผจญความหลอนร่วมกัน และที่สำคัญ มันเป็นเกมเล่นฟรีอีกด้วย !

Obscure

แม้ Obscure ไม่ใช่เป็นเกมสยองขวัญเอาตัวรอดที่ดีที่สุด แต่หากผู้เล่นกำลังมองหาประสบการณ์การเล่นเกมหลอนแบบ Multiplayer Co-op 2 คนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนาน และตัวเกมมีบรรยากาศหลอนเต็มไปด้วยเลือด เราก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ObScure เป็นเกมที่ผู้เล่นควรลิ้มลอง แม้เกมดังกล่าวมีกระแสตอบรับที่มีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบด้วยคุณภาพบท เสียงพากย์ที่แย่ กับเนื้อเรื่องไม่ค่อยมีความสมเหตุสมผลก็ตาม

Kuon

คุณอาจไม่เชื่อว่าเกมสยองขวัญ-เอาตัวรอดอย่าง Kuon จะพัฒนาโดยทีมงาน FromSoftware หรือทีมผู้สร้าง Dark Souls แต่ก็ไม่แปลกใจมากนักที่เกมดังกล่าวไม่ค่อยมีชื่อเสียง เนื่องจาก Kuon เป็นหนึ่งในเกมของ FromSoftware ที่ประสบความล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าจนต้องระงับการขายและกลายเป็นเกมหายากไปโดยปริยาย

ต้องบอกตรง ๆ เลยว่าเกม Kuon สมควรถูกรับความสนใจจากเหล่าเกมเมอร์กว่านี้ เพราะนี่เป็นเกมสยองขวัญ-เอาตัวรอดอีกเกมหนึ่งที่สามารถออกแบบสถานที่ เสียง บรรยากาศ มอนสเตอร์ และเนื้อหา Lore ชวนน่าติดตามกับขนหัวลุกสุด ๆ แม้ระบบเกมเพลย์จะตกยุคก็ตาม

Clock Tower 3

หนึ่งในซีรีส์เกมสยองขวัญสุดคลาสสิกจากค่าย Capcom ที่คอเกมเมอร์ Survival Horror คาดหวังอยากให้นำกลับมาพัฒนาเกมภาคต่ออีกครั้ง เพราะเกมดังกล่าวมีชื่อเสียงด้านเนื้อเรื่องข้ามมิติเวลา ฉากเซตติงแบบย้อนยุค และการนำเสนอเนื้อหาสไตล์ภาพยนตร์ที่ดูล้ำหน้าเกมหลายเกมในยุค 2000 รวมถึงเกมเพลย์ที่เน้นการหลบซ่อนเป็นหลักมากกว่าการต่อสู้ซึ่งหน้า ทำให้เกมซีรีส์ดีงกล่าวยังคงเป็นที่น่าจดจำสำหรับใครหลายคน แม้ไม่ได้พัฒนาภาคต่อมานานกว่าราว 16 ปีแล้ว (ไม่นับเกม Haunting Ground ซึ่งเป็นเกม Spin-Off ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักของ Clock Tower)

Haunting Ground

Haunting Ground (หรือชื่อว่า Dememto ในประเทศญี่ปุ่น) เป็นภาค Spin-off ของเกมซีรีส์ Clock Tower ที่ตัวเกมมีจุดเด่นด้านระบบ Panic System หรืออาการตื่นตระหนกของผู้เล่นที่ทำให้วิสัยทัศน์ของหน้าจอมัว ไม่สามารถกด Pause หรือสะดุดล้มระหว่างหนีศัตรู ซึ่งทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมเอาตัวรอดจากเกมนี้จึงดูมีความสมจริงและใกล้ชิดถึงผู้เล่นได้ง่าย

รวมถึงไม่ต้องห่วงว่าผู้เล่นจะออกผจญภัยเพียงลำพังคนเดียว เพราะในเกมมี Huwie หรือสุนัขคู่ใจจะเข้าคอยช่วยเหลือฝ่ายเกมเมอร์ในการแก้ไขปริศนาต่าง ๆ รวมถึงช่วยถ่วงเวลาให้ผู้เล่นสามารถเอาตัวรอดจากศัตรูได้อีกด้วย

The Coma 2: Vicious Sisters

เกมสยองขวัญ-เอาตัวรอดที่เพิ่งออกวางจำหน่าย และกำลังเป็นกระแสในวงการ YouTuber ณ ตอนนี้ ก็คงไม่มีทางหนีพ้นเกม The Coma 2: Vicious Sisters หรือเกมหลอนที่มีการนำเสนอได้รับแรงบันดาลใจจากการ์ตูนสยองขวัญสไตล์เกาหลี โดยผู้เล่นจะรับบทเป็นนักเรียนสาว พักมินอา ได้ตื่นขึ้นในโรงเรียนเซฮวาที่ได้เปลี่ยนจากโรงเรียนปกติทั่วไปกลายเป็นโรงเรียนฝันร้ายที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์น่าขยะแขยงมากมาย โดยเธอต้องใช้ทักษะการเอาตัวรอด พร้อมแก้ไขปริศนาต่าง ๆ เพื่อที่เธอจะสามารถหนีรอดออกจากโรงเรียนเฮี้ยนให้ได้

Soma

แม้ Soma เป็นเกมสยองขวัญเอาตัวรอดที่มีกระแสเงียบเหงาในหมู่เกมเมอร์ แต่ทว่ากระแสวิจารณ์จากเหล่าเจ้าสำนักเกมหลายแห่งกลับยกย่องให้เป็นหนึ่งในเกมสยองขวัญที่ดีที่สุดด้วยการนำเสนอเนื้อเรื่องน่าติดตามมีปรัชญาลุ่มลึก การออกแบบสถานที่ที่เป็นโลกใต้น้ำ และฉากพื้นหลังเป็นโลกอนาคตที่มีบรรยากาศแบบภาพยนตร์ไซไฟ โดยตัวเกมรับประกันคุณภาพความหลอนโดยทีมพัฒนาเกม Frictional Games หรือทีมผู้สร้าง Amnesia: The Dark Descent

Eternal Darkness: Sanity’s Requiem

Eternal Darkness: Sanity’s Requiem เป็นเกมสยองขวัญเอาตัวรอดของ Nintendo GameCube ที่มีฉายาว่า “The King of the Fourth Wall Break” เพราะเกมนี้ไม่ได้มีดีเพียงแค่เนื้อเรื่องกับพัซเซิลอย่างเดียว แต่เกมสามารถนำเสนอความสยองขวัญปั่นประสาทผู้เล่นด้วยการ “ทำลายกำแพงที่สี่” อย่างสร้างสรรค์ ทั้งหลอกลบไฟล์เซฟ, เกมขึ้นหน้าจอฟ้า, หลอกตัดจบ และอื่น ๆ อีกมากมายที่ผู้เล่นไม่สามารถคาดเดาได้

Ao Oni

ปีศาจทรงหน้าเหลี่ยมตาโต มีผิวหนังสีม่วง มีร่างกายขนาดใหญ่คล้ายมนุษย์ ฟังครั้งแรกอาจดูเหมือนเป็นมอนสเตอร์ทั่วไป แต่เชื่อเถอะว่าหากลองเล่น Ao Oni แล้วความคิดดังกล่าวจะถูกลบออกทันที

Ao Oni เป็นเกมอินดี้ที่พัฒนาด้วย RPG Maker ที่มีกระแสดังเปรี้ยงเป็นช่วงเวลาอันสั้นจากการออกแบบมอนสเตอร์สีม่วง และในวิดีโอเกม มันมักปรากฏตัวอย่างรวดเร็วที่เกมเมอร์เห็นแล้วต้องสะดุ้งตื่นทุกครั้ง ทำให้เกมดังกล่าวโด่งดังมากจนถูกทำเป็นภาพยนตร์เวอร์ชันคนแสดงในเวลาต่อมา