สำหรับสายผู้สร้างคอนเทนต์ วิดีโอ ถือเป็นอีกสื่อหนึ่งประเภทที่กำลังได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ทั้งบน Youtube หรือ Facebook และสำหรับคอเกมเมอร์อย่างเรา ๆ การทำวิดีโอไฮไลท์ฉากสวย ๆ หรือซีนการเล่นเท่ ๆ ก็ต้องอาศัยการตัดต่ออยู่ไม่น้อย วันนี้เราเลยรวบรวมโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่เหมาะกับ PC และ Laptop มาให้ดูกัน และลองไปหามาใช้กันว่าจะถูกใจใครหลายคนมากน้อยแค่ไหน
1.Vegas Pro หรือชื่อเก่า Sony Vegas Pro
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่ทุกคนน่าจะเคยได้ยินหรือรู้จักกันดี ถือเป็นโปรแกรมที่เหมาะสำหรับทุกระดับเลเวล เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่ทุกฟีเจอร์ครอบคลุมระดับ ตั้งแต่มือใหม่ไปยันมืออาชีพ สามารถวางวิดีโอและเสียงซ้อนกันได้สูงสุด 5 ไฟล์ ใครที่อยากลองตัดต่อวิดีโอจะลองเริ่มต้นด้วยโปรแกรมนี้ก็ได้ แถมหาซื้อแบบถูกลิขสิทธิ์ได้ง่าย ๆ จาก Steam ด้วย ช่วงลดราคา ถือว่าลดสูงพอสมควร พอให้เราจับจ่ายเวอร์ชั่นเต็มได้เลย
2.Pinnacle Studio
ด้วย Preset ที่หลากหลายที่ใช้ในการแก้ไขวิดีโอ ทำให้มือใหม่สามารถทำงานได้อย่างง่ายดาย ราวกับมืออาชีพ เพียงแค่ลากไฟล์วิดีโอที่ต้องการจะแก้ไขลงไป และ Pinnacle ยังเป็นอีกโปรแกรมที่เหมาะสำหรับมือใหม่มาก เพราะมีอินเตอร์เฟสและการใช้งานไม่ยุ่งยากซับซ้อน รวมไปถึง Preset ตัวช่วยที่หลากหลายตามที่เราได้บอกไว้ในตอนแรกนั่นเอง
3.Cyberlink PowerDirector
อีกหนึ่งโปรแกรมที่มีอายุยืนนานไม่แพ้ Vegas Pro ตัวโปรแกรมมีคุณสมบัติมากมายที่ใช้ในการตัดต่อวิดีโอแถมยังมี Template ที่หลากหลายมาให้เราได้ใช้งาน ทั้งการตัดต่อและประมวลผลวิดีโอ และสามารถแปลงไฟล์วิดีโอไปเป็นประเภทอื่น ๆ ได้ด้วย
4.Lightworks
โปรแกรมที่มักจะใช้ในการตัดต่อวิดีโอในวงการฮอลลีวูดเสียเป็นส่วนใหญ่ และที่น่าสนใจคือตัวโปรแกรมเวอร์ชั่นฟรีนั้นก็มีฟีเจอร์เกือบครบ เพียงแต่มันจะพอร์ทวิดีโอได้แค่ 720 เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ค่าสมาชิกรายเดือนนั้นก็ไม่ได้แพงจนเกินไป เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่อยากจะหาโปรแกรมตัดต่อวิดีโอใช้
5.Apple Final Cut Pro X (เฉพาะบน Mac)
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่สาวก Apple ทุกคนต้องเคยใช้ แถมไม่ต้องเสียเงินซื้ออะไรเลย เพราะค่าโปรแกรมมันไปอยู่ที่เครื่อง Mac Book ของคุณหมดแล้ว เป็นโปรแกรมยอดฮิตของเหล่านักตัดต่อวิดีโอมืออาชีพ ด้วยฟีเจอร์อันยอดเยี่ยมของมัน น่าเสียดายเพียงแค่มันมีให้บริการบน Mac เท่านั้น สายตัดต่อวิดีโอส่วนมากถึงเลือกที่จะลงทุนซื้อ Mac Book ไปเลย เพื่อใช้โปรแกรมนี้
6.DaVinci Resolve
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่มาเหนือกว่าโปรแกรมอื่นตรงเรื่องของความสามารถในการไล่ระดับสีแบบเชิงลึกและสมจริง สามารถตัดไฟล์วิดีโอ และเสียงที่มีคุณภาพ 2 หรือ 3 มิติได้ นอกจากนั้นยังมาพร้อมอินเทอร์เฟสที่ใช้งานง่ายกว่าหลายโปรแกรม บางคนถึงขั้นใช้แทนกับ Premiere Pro ได้เลย สามารถลองหามาใช้กันดูได้ คุณภาพคับแก้วสุด ๆ สำหรับ DaVinci Resolve
7.Wondershare Filmora
เป็นโปรแกรมที่แบ่งเป็นสองระดับคือแบบ Beginner และ Professional ซึ่งเราสามารถเปิดโหมดใช้งานง่ายได้ ความง่ายก็ของโปรแกรมนี้ก็จะเหมือนกับโปรแกรมตัดต่อวิดีโอทั่วไป และฟีเจอร์สำหรับตัดต่อและตกแต่งวิดีโอที่ใช้งานได้ง่าย และสามารถลิงค์กับโซเชียลมีเดียอย่าง Youtube และ Facebook โดยตรง แต่ใครอยากบันทึกไฟล์ลงเครื่องก็ต้องเสียเงินเป็นสมาชิกเสียก่อน
8.Corel Video Studio
ใกล้เคียงความเป็นมืออาชีพไปอีกสำหรับ Corel Video Studio ที่มาพร้อมพรีเซ็ทและการตั้งค่าล่วงหน้าหลายอย่าง และเทมเพลตมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ และยังสามารถสร้างเอฟเฟกท์วิดีโอพื้นหลังแบบโปร่งใสได้ด้วยการคลิกไม่กี่ครั้ง รับรองว่าใช้งานแล้วจะติดใจ สำหรับ Corel Video Studio
9.Hitfilm Express
โปรแกรมการใช้งานระดับสูงอีกตัวสำหรับ Hitfilm Express ที่มีฟีเจอร์ครอบคลุมตั้งแต่การแก้ไขขั้นพื้นฐานทั้งเสียงและภาพ ไปจนถึงระดับสูงและตัดต่อเอฟเฟกท์ VFX ที่จะท้าทายฝีมือและความสามารถของผู้ใช้งาน อาจไม่เหมาะกับเหล่าหน้าใหม่สักเท่าไร แต่ด้วยฟีเจอร์ที่ครบเครื่อง และทำงานได้หลากหลาย Hitfilm Express เป็นอีกโปรแกรมที่เจ๋งมาก ๆ และเช่นเคย ถ้าจะใช้งานฟีเจอร์ให้ครบ ก็ต้องจ่ายเงินค่าสมาชิกด้วยนั่นเอง
10.Adobe Premiere Pro
ขาดไม่ได้อยู่แล้ว สำหรับโปรแกรมยอดนิยมตลอดกาลของสายตัดต่อวิดีโอ แม้ว่าจะมีตัวอื่นทำได้ดีแค่ไหน แม้ว่าตอนเปิดมา มันจะดูยากไปซะหน่อย แต่ถ้าคุณใช้เวลาเรียนรู้กับมัน ก็จะเข้าใจมันได้อย่างง่าย ไม่ต่างอะไรกับโปรแกรมอย่าง Photoshop และยังมีลูกเล่นในการผสมผสานเอฟเฟกท์หลากหลายรูปแบบเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เป็นโปรแกรมที่ ใครมีความคิดสร้างสรรค์ก็จะผลิตงานใหม่ ๆ ออกมาได้อย่างมากมาย และเป็นโปรแกรมสำหรับชาวตัดต่อวิดีโอที่แท้จริง