เมื่อเข้าสู่ปี 2020 ถือเป็นเลขสวยที่เรากำลังจะเริ่มต้นทศวรรษใหม่ แน่นอนว่าตัวเลข 10 ปี เราสามารถมองเห็นวิวัฒนาการของแต่ละอย่างได้อย่างชัดเจน และในแวดวงวิดีโอเกม ดูเหมือนว่าสามค่ายใหญ่ของโลก ทั้ง Microsoft , Sony , Nintendo ต่างก็งัดไม้เด็ดออกมาแย่งชิงพื้นที่ในตลาดกันแบบไม่มีใครยอมใคร รุ่งบ้าง ร่วงบ้างตามประสาการลงมือทำ แต่วันนี้เราจะมาดูกันว่า 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งสามค่ายใหญ่นี้พวกเขามีไม้เด็ด และมีประวัติอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
Sony : PS3 , PS4 และเตรียมเปิดทศวรรษใหม่ด้วย PS5
การมาของ PS4 เปลี่ยนแปลงอะไรไปมาก เริ่มตั้งแต่ระบบออนไลน์ในชื่อ Playstation Network (PSN) และมันทำให้ Sony เป็นผู้เผยแพร่เกมที่ดีที่สุดในโลกมาเกือบจะทุกปีนับตั้งแต่ปี 2012 (ก่อน PS4 ออก 1 ปีด้วยซ้ำ) รวมไปถึงเกมในตำนาน เกมดังในวัยเด็กของเราก็ยังอยู่บนเครื่อง PlayStation ซะส่วนมาก ทั้ง Uncharted , God of War , The Last of Us , Bloodborne พร้อมกันนั้นในด้านเทคโนโลยีพวกเขาก็ยังมี PlayStation VR เสริมด้วย
แต่ใช่ว่าจะไม่มีร่องรอยของความผิดพลาด หนึุ่งในความผิดพลาดในช่วงสิบปีที่ผ่านมาของ Sony คือการขายบริษัทลูกอย่าง Sony Online Entertainment ให้กลายเป็นบริษัทนักลงทุนอิสระในชื่อ Daybreak Game Company และมีผลงานเกมอย่าง H1Z1 และเกมอื่น ๆ อีกมาก แต่ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยรอดสักเท่าไร
ถือเป็นสิบปีที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะมากสำหรับ Sony แต่จะอย่างไรก็ตาม เพราะปัญหาเหล่านี้นี่แหละที่ทำให้ Sony แข็งแกร่งขึ้น และเป็นอย่างที่เป็นทุกวันนี้ เรียกได้ว่าถ้าเกมไหนเป็น Exclusive PlayStation แฟน ๆ ก็แทบจะปาเงินใส่แบบไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว
ในไทยเราถือว่าเป็นอีกหนึ่งฐานแฟนของ Sony PlayStation พอสมควร นอกจากจะมีศูนย์ให้บริการในประเทศไทยแล้ว หลายเกมในปีนี้ (และคาดว่าต่อจากนี้) ก็มีการแปลเป็นภาษาไทยเพื่อให้เราเล่นกันสะดวกมากขึ้น อย่างเช่น Dragon Ball Z : Kakarot , One Piece Pirate Warriors 4 และที่หลายคนจับตามองมากที่สุดในปีนี้อย่าง The Last of Us Part II
และในปีนี้ที่ PlayStation 5 กำลังจะเปิดตัว เราน่าจะได้เห็นเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะมาพร้อมกับเครื่องเกมนี้กันอีกมาก และมันจะยิ่งใหญ่สมการรอคอยหรือไม่ เพราะว่ากันตามตรง นับเป็นเวลา 7 ปีเต็มแล้วที่ PlayStation 4 ได้ออกวางจำหน่าย ดังนั้น การรอคอยนี้ แฟน ๆ ย่อมคาดหวังเป็นธรรมดาว่า PlayStation 5 จะต้องมีไม้เด็ดที่ทำให้เกมเมอร์ต้องร้องว้าวแน่นอน
Microsoft : XBOX และระบบ XBOX Game Pass รวมไปถึง Series X
แต่ในช่วงปี 2010 นั้น XBOX เป็นผู้นำในตลาดใหญ่ ๆ ทั่วโลก และได้รับความนิยมจากแฟนเกม เนื่องจาก XBOX 360 ในช่วงแรกมีเกมที่ Exclusive ที่เปี่ยมคุณภาพมาก แต่หลังจากนัน้มันกลับไม่ค่อยมีอะไรที่น่าสนใจมากเท่าที่ควร แถมยังมีความผิดพลาดอยู่บ้างเช่นกันไปทุ่มพัฒนา Kinect
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม แม้ทาง Microsoft ไม่ได้ประสบความสำเร็จในแง่ของการขายเครื่องคอนโซล แต่พวกเขาก็ยึดวิถีคิดใหม่ทำใหม่อยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงระบบใหม่ของชาวเกมอย่าง XBOX Game Pass ก็เป็นที่นิยมอยู่เหมือนกัน เพราะจ่ายเงินเพียงน้อยนิดก็ได้สัมผัสเกมคุณภาพ และระบบนี้อาจจะเป็นการปูทางไปสู่ระบบ Subscription ในวงการเกมในอนาคต
นอกจากนั้นเกมหลายเกมก็ดูจะสนับสนุนควบคู่กันไประหว่าง PC และ XBOX เพราะอยู่ใต้ชายคาเดียวกันอย่าง Microsoft แต่อย่างไรก็ตามในต่างประเทศ XBOX ก็ยังถือเป็นเครื่องคอนโซลที่มีชื่อเสียงตีคู่มากับ PlayStation ของ Sony อยู่แล้ว แม้ในแง่ของการมีเกม Exclusive จะต่างกันมากก็ตาม
ส่วนในปีนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า XBOX Series X ได้รับการจับตามองมากขนาดไหน ทั้งการออกแบบตัวเครื่อง เกมที่อาจจะไปเปิดตัวบนนั้น และสเปค ความแรงของมัน ก็ยังคงเป็นปริศนา แต่คาดว่าการเปิดตัวชนกับ PlayStation 5 นี่ มีอะไรให้เราลุ้นกันแน่นอนว่าเขามีไม้เด็ดอะไรมางัดข้อกันบ้าง
Nintendo : แข็งแกร่ง และเป็นเกมที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย
เครื่อง Nintendo มาพร้อมกับแบรนด์เกมที่แข็งแกร่งอย่าง Fire Emblem และ Zelda และที่ขาดไม่ได้เลยคือ Pokemon ที่ออกมาเป็นเกมรายปี แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ยอดขายของมันก็มีความไม่แน่นอนอยู่สูงมาก แต่ที่แน่นอนคือยังมีแฟนเกมรอสนับสนุนกันอย่างเพรียบพร้อม
สิ่งที่เป็นจุดแข็งของ Nintendo คือ การเล่นแบบ Co-op ที่มีความสนุกสนาน เหมาะกับการเอาไว้เล่นในครอบครัวหรือเล่นปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงมาก ในขณะที่เกมฟอร์มใหญ่ คุณภาพดีก็มีมาบ้างแล้ว เพียงแต่มันไม่สามารถที่จะรันออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ The Witcher 3 ไม่ใช่ว่ามันเล่นไม่ได้ หรือแย่ มันเล่นได้ แต่คุณภาพมันจะไม่เทียบเท่า PC , Console เลย แต่ละเกม แต่ละเครื่องก็จะมีขีดจำกัดและคุณภาพของมัน
นอกจากการเล่น Co-op ที่สนุกสุด ๆ แล้ว มันยังมีเกมที่เป็นกระแสอยู่ในบ้านเราตอนนี้อย่าง Fitness Boxing และ Ring Fit Adventure ที่ทำให้เราได้ออกกำลังกายไปด้วย เล่นเกมไปด้วยอย่างสนุกสนาน หากให้อธิบายแบบง่าย ๆ ก็คือ Nintendo เขามาสายครอบครัว เฟรนด์ลี่ เข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัยอยู่แล้ว
ต้องบอกว่าทั้งสามค่ายในช่วงสิบปีมานี้ มีทั้งความสำเร็จ ความล้มเหลวปะปนกันไป แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังทำหน้าที่ผลิตสื่อบันเทิง และวิดีโอเกมเจ๋ง ๆ ออกมาให้เราได้เล่นกัน มาดูกันว่าอีกสิบปีต่อจากนี้ในอนาคต สามค่ายนี้จะยังยืนหยัดอยู่ได้หรือไม่ หรือดีไม่ดี อาจจะมีหน้าใหม่ น้องใหม่เพิ่มเข้ามาในตลาดก็ได้ครับ
