BY Aisoon Srikum
5 May 20 5:32 pm

15 ข้อต้องรู้เกี่ยวกับ Assassin’s Creed : Valhalla

122 Views

เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับเกมแฟรนไชส์มือสังหาร (ที่ตอนนี้เกินคำว่ามือสังหารมาไกลแล้ว) อย่าง Assassin’s Creed : Valhalla ที่ในภาคนี้จะให้เราสวมบทเป็นไวกิ้งและดำเนินเรื่องราวในยุคมืดของอังกฤษ และนี่คือ 15 ข้อที่คุณควรจะรู้ “ในตอนนี้” เกี่ยวกับ Assassin’s Creed : Valhalla ก่อนจะตัดสินใจซื้อ หรือใช้เป็นข้อพิจารณาในการซื้อก็ได้ 15 ข้อนี้ จะมีอะไรกันบ้าง มารับชมไปพร้อม ๆ กันครับ

1.ตัวละครเอกประจำภาค

ในภาคนี้ เราจะได้รับบทเป็นนักรบแนวหน้าของเหล่าไวกิ้งที่ชื่อ Eivor แต่ภาคนี้จะต่างจากภาค Odysseys ตรงที่ แม้เราจะเลือกเพศได้ แต่จะไม่ใช่คนละคนกันแบบ Alexios กับ Kassandra แล้ว คราวนี้ไม่ว่าคุณจะเลือกเล่นเป็นชายหรือหญิง แต่ก็คือ Eivor เหมือนกัน และเราจะสามารถปรับแต่งตัวละครได้ เช่นทรงผม รอยสักและอื่น ๆ ส่วนเจ้านกคู่ใจหรือระบบ Eagle Vision ในภาคนี้ก็จะกลับมาเช่นกัน แต่เป็นนกอีกาแทน

2.เนื้อเรื่องในยุคปัจจุบัน

อย่างที่เรารู้กันดีว่า Assassin’s Creed จะมีเนื้อเรื่องสองฝั่ง คือฝั่งยุคนั้น ๆ ซึ่งเป็นเกมเพลย์หลักที่เราจะได้เล่นกัน กับอีกฝั่งคือยุคปัจจุบัน ในภาคนี้ Layla Hassan จะกลับมาสานต่อเรื่องราวในยุคปัจจุบันนี้อีกครั้ง แม้ว่าทั้งภาค Origins และ Odysseys จะได้รับคำชมเป็นจำนวนมาก แต่พาร์ทเนื้อเรื่องยุคปัจจุบันนี่แหละที่หลายคนบ่นว่าไม่ได้เรื่องเอาซะเลย เราจึงหวังว่าในภาคนี้ เนื้อเรื่องในฝั่งปัจจุบันจะถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นหน่อย

3.ระบบ Settlement หรือการตั้งถิ่นฐาน

ในภาคนี้จะมีระบบการสร้างอาณานิคมด้วย เมื่อ Eivor มาเยือนดินแดนอังกฤษ เขาหรือเธอจะตั้งถิ่นฐานและทำให้มันเป็นที่อยู่อาศัยตลอดทั้งเกมของคุณ ถิ่นฐานของคุณจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการทำอย่างอื่นเช่นรับภารกิจ เนื้อเรื่อง และอื่น ๆ อีกด้วย

นอกจากนี้คุณยังสามารถอัปเกรดถิ่นฐานของคุณ รับสมัครผู้คน นักรบ มาทำให้ถิ่นฐานคุณเจริญเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้ด้วย น่าจะเป็นระบบที่ทำให้เราเสียเวลากับมันมากแน่ ๆ

4.ระบบตัวเลือกและผลกระทบต่อเนื้อเรื่องของเกม

ในภาคที่ผ่านมา ระหว่างทำภารกิจ เรามีทางเลือกที่ให้เราเลือกกระทำ และมันจะส่งผลกับเนื้อเรื่องและโลกของเกมด้วย ในภาค Valhalla จะยังคงระบบนี้เอาไว้ แต่ในภาคนี้มันจะไม่ส่งผลกระทบแค่เนื้อเรื่องเกมแล้ว แต่มันจะส่งผลกระทบกับถิ่นฐานที่เราตั้งไว้ด้วย ตัวอย่างเช่น คุณจะได้พันธมิตร หรือศัตรูก็ขึ้นอยู่กับการเลือกกระทำของเราด้วย แต่จะลงลึกและละเอียดมากแค่ไหนเราต้องรอดูกันตอนเกมเปิด

5.แผนที่ภายในเกม

ขึ้นชื่อว่า Ubisoft เกม Open World ของพวกเขา ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง และเราคาดหวังกับ Valhalla ได้แน่นอน ว่ามันจะต้องออกมายอดเยี่ยม ในตอนนี้ยังไม่มีการพูดถึงข้อมูลในส่วนของแผนที่ภายในเกมออกมา แต่ในการให้สัมภาษณ์กับ Game Informer ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของเกมกล่าวไว้ว่า มันจะค่อนข้างใหญ่และครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของนอร์เวย์และอังกฤษ

ในโซนแผนที่ของอังกฤษจะมี 4 อาณาจักรใหญ่ ๆ คือ Wessex , Northumbria , East Angila และ Mercia ซึ่งภายในอาณาจักรใหญ่ ๆ เหล่านี้ จะมีแผนที่ เมืองยิบย่อยอีกมากมายให้เราสำรวจ

6.ไม่มีระบบเลเวลอีกต่อไป

ภาคนี้จะตัดระบบเลเวลออกไป แต่จะถูกกำหนดโดยทักษะที่คุณปลดล็อคแทน ผู้สร้างเกมบอกว่า มันจะไม่เกี่ยวกับระดับเลเวล แต่มันจะทำให้คุณรู้สึกถึงพลังแทน ก็ไม่รู้ว่ามันจะมีความหมายว่ายังไง แต่หลายคนก็หวั่น ๆ ว่ามันจะไปใช้ระบบ Gear Score แบบ Breakpoint เพราะแบบนั้นก็วายป่วงไม่แพ้กันเลย เราต้องมารอดูกันว่า การรู้สึกถึงพลังเนี่ย มันเป็นยังไงกันแน่

7.ไม่ต้องใช้เวลา Grinding มากเท่าภาคก่อน ๆ

สองภาคก่อนหน้า หากผู้เล่นอยากเก่ง ก็ต้องขยันฟาร์ม ขยันหาของ ซึ่งมันกินเวลาชีวิตใช่ย่อยเลยทีเดียว มาในภาคนี้ ผู้สร้างเขาเลยบอกว่า จะทำให้มันใช้เวลาน้อยลง กินเวลาชีวิตคุณน้อยลง และยังกล่าวอีกว่าพวกเขาอยากให้ผู้เล่น เล่นเนื้อหาที่ต้องการได้  มันคือวิธีที่จะทำให้เกมมีความสมดุล

มันขึ้นอยู่กับผู้เล่นว่า อยากจะเสพเนื้อหาอย่างรวดเร็ว หรือไปอย่างช้า ๆ เรียกได้ว่าอิสระสูงมาก หากตัวเกมทำได้จริง

8.ระบบการต่อสู้จะรุนแรงมากขึ้น

แม้หลายคนจะแซวว่านี่มันไม่ใ่ชเกมลอบสังหารอีกต่อไป แต่ระบบการต่อสู้แบบลอบเร้นก็ยังทำได้อยู่ ใน Valhalla นี้ ก็นา่จะทำได้ด้วย แต่สิ่งที่ผู้พัฒนาตั้งใจนำเสนอในภาคนี้ คือความป่าเถื่อน รุนแรงตามแบบฉบับไวกิ้ง คือจะมีทั้งเลือดสาด แขนขาขาดกระจาย และยังมีศัตรูประเภทใหม่ที่เราไม่เคยพบเจอมาก่อนในภาคเก่า ๆ อีกด้วย รวมไปถึงยังมีการพัฒนาระบบ AI ให้รู้จักการใช้สภาพแวดล้อมและทำงานกันเป็นทีม เพื่อขัดขวางการเล่นของคุณอีกต่างหาก

9.ถืออาวุธสองมือ ต่างชนิดกันได้ในภาคนี้

ภาคนี้จะเปลี่ยนการใช้อาวุธสองมือให้สามารถถือแยกกันได้ด้วย รวมไปถึงสามารถถือโล่ได้แล้ว หลังจากภาค Odysseys ตัดส่วนนี้ออกไป

คุณสามารถถือดาบหนึ่ง ขวานหนึ่ง หรือค้อนหนึ่ง โ,่หนึ่ง ก็ยังได้ และแน่นอน การถืออาวุธเหมือนกันทั้งสองมือก็ยังทำได้เช่นกัน

10.Hidden Blade (ที่ไม่ Hidden)

หลายคนแซวว่าแทบไม่มีการลอบเร้น ลอบฆ่าอีกแล้ว แต่ Hidden Blade ก็คือลายเซ็นของ Assassin’s Creed ดังนั้นจะไม่มีไม่ได้อย่างเด็ดขาด และลหังจากหายไปในภาค Odysseys ภาคนี้เราจะได้ Hidden Blade กลับมาอีกครั้ง

เพียงแต่การกลับมานี้ มันดูไม่ใช่ Hidden Blade อีกต่อไป เพราะ Eivor ตัวเอกของเรา ไม่ได้ซ่อนมันเลย แต่ใช้มันอย่างผ่าเผย ด้วยสาเหตุว่า ก็มันเจ๋งขนาดนี้ละจะซ่อนไปทำไมล่ะ ? ก็ต้องดูกันว่า Hidden Blade ในภาคนี้จะออกมาเป็นยังไงกันแน่

11.เตรียมออกทะเลกันอีกครั้ง

ในภาคหลัง ๆ สงครามทางทะเลเป็นอีกระบบหนึ่งที่ทำให้ผู้เล่นชื่นชอบ แม้มันจะไม่ได้ดีเยี่ยมเท่าภาค Black Flag ซึ่งข้อมูลตรงส่วนนี้ยังมีไม่มากนัก แต่มีการรายงานว่า จะนำเอาระบบของสองภาคก่อนหน้ามาต่อยอดให้ดีขึ้น ข้อมูลตรงส่วนนี้เราคงต้องรอการอัปเดตจาก Ubisoft อีกครั้ง

12.ระบบสงครามขนาดใหญ่ การบุกชิงป้อมปราการ

ภายในเกมนี้จะมีเหล่าศัตรูประจำการอยู่ทั่วทุกจุด เป็ฯทั้งแบบปกติและพวกระดับบอส ซึ่งการบุกโจมตีพวกมันจะทำให้เราได้รับรางวัลเป็นทรัพยากรการอัปเกรดถิ่นฐานและตัวละครของเรา

สิ่งที่น่าสนใจคือผู้พัฒนาบอกว่าในเกมภาคนี้จะสามารถบุกโ๗มตีป้อมปราการขนาดยักษ์ ที่จะเป็นฉากสงครามสุดอลังการเลยทีเดียว

13.ความพิเศษบนเครื่อง XBOX

อย่างที่เรารู้กันว่าปีนี้จะมีการเปิดตัวคอนโซลยุคใหม่อย่าง PlayStation 5 และ XBOX Series X ซึ่ง Assassin’s Creed : Valhalla ก็จะลงให้กับสองเครื่องนี้ด้วย

แต่ความพิเศษคือ ผู้ที่ซื้อตัวเกมบน XBOX One นั้น ด้วยระบบ Smart Delivery ของ Microsoft จะทำให้ผู้เล่นสามารถนำไปเล่นบนเครื่อง XBOX Series X ได้เลย ไม่ต้องเสียเงินซื้อเกมสองเวอร์ชั่น ส่วน PS4 อาจจะต้องซื้อแยกกัน ต้องรอทาง Sony ออกมาชี้แจงกันอีกครั้ง

14.Uplay & Epic , No More Steam

ข้อนี้หลายคนอาจจะไม่แปลกใจ แต่สำหรับผู้ที่ไม่ทราบ Ubisoft เลิกนำเกมของตัวเองไปวางจำหน่ายบน Steam มานานแล้ว เกมสุดท้ายก็คือ Assassin’s Creed : Odysseys นั่นแหละ

โดยผู้เล่นหาซื้อเกมนี้ได้บน Uplay ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของ Ubisoft โดยตรง และบน Epic Games Store เท่านั้น แต่ก็คิดว่าไม่ใช่ปัญหา เพราะการซื้อบน Uplay ทำให้เราสามารถใช้โค้ดส่วนลดได้ จะได้ถูกกว่าบน Steam หลายร้อยกว่าบาทเลยทีเดียว แต่ใครที่อยากให้เกมอยู่ในคลังเดียวกัน เห็นทีจะต้องผิดหวังกันซะแล้ว

15.ไม่มีภาษาไทย

แม้จะน่าเสียดาย และสร้างความหวังให้กับแฟน ๆ เพราะในวันแรกที่เปิดตัว ตัวเกมมีบอกบนหน้าเว็บไซต์ว่าจะมีการรองรับภาษาไทย แต่น่าจะเป็นเพราะความผิดพลาดบางอย่าง ต่อมาทาง Ubisoft เลยออกมาประกาศว่าจะไม่มีภาษาไทยในเกมนี้ และเปิดให้คืนเงินได้ สำหรับผู้ที่พรีออร์เดอร์ไปเพราะคิดว่ามีภาษาไทย

แม้จะน่าเสียดาย แต่เราก็ยังหวังว่าท้ายที่สุดแล้ว อนาคตเกมแปลไทยของ Ubisoft จะมีมาเพิ่มครับ

 

 

 

Aisoon Srikum

Back to top