เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2020 เป็นการครบรอบ 15 ปี ของวันวางจำหน่ายเกม Resident Evil 4 หรือหนึ่งในผลงานเกมสยองขวัญเอาตัวรอดชิ้นเอกโดย Shinji Mikami หรือรู้จักกันในฉายาว่า “เจ้าพ่อเกม Survival Horror” ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของซีรีส์ Resident Evil ที่เน้นลูกเล่นแอ็กชันมากขึ้น และเปลี่ยนการนำเสนอให้เป็นรูปแบบใหม่ที่แตกต่างจากภาคเก่าอย่างสิ้นเชิง ทำให้เกมดังกล่าวขึ้นแท่นเป็นเกมทรงคุณค่าที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมเกมไปตลอดกาล
แน่นอนว่า Resident Evil เป็นแฟรนไชส์เกมสยองขวัญเอาตัวรอดที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก จนถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์คนแสดง, แอนิเมชัน 3D และพัฒนาเป็นเกมภาค Spin-Off มามากมาย แต่ทำไม Resident Evil 4 จึงเป็นภาคที่ถูกพูดถึงมากในวงการเกมยุค ’00 บทความนี้จะเป็นการแชร์เรื่องราวให้คุณเอง สามารถติดตามกันได้เลยครับ
RE4 กับไอเดียที่เริ่มด้วยคำว่า “เบื่อของเดิม”
แน่นอนว่าการเปลี่ยนเกมเพลย์จากหน้ามือเป็นหลังมือ ไม่ได้สร้างขึ้นมาแบบง่าย ๆ และต้องมีเหตุผลจูงใจที่แกร่งกล้าเสมอ หากอ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ของ Shinji Mikami เขาอธิบายถึงสาเหตุตัดสินใจเปลี่ยนระบบเกมเพลย์ใหม่ทั้งหมดใน Resident Evil 4 ก็เพราะหลังจาก Mikaki ได้ลองเล่น Resident Evil 0 แล้ว เขารู้สึกว่าเกม Resident Evil “มีแต่ของเดิม ๆ ” กับทีมนักพัฒนาเกมก็รู้สึกคล้ายกับ Mikami คือ “เหนื่อยที่ทำเกมแบบเดิม ๆ แล้ว” เช่นกัน
Mikami จึงต้องการเปลี่ยนระบบมุมกล้องเป็นแบบใหม่ทั้งหมด กับบทเนื้อเรื่องใหม่เอี่ยมที่ไม่มีองค์กร Umbrella เป็นตัวร้ายศูนย์กลางประจำซีรีส์อีกต่อไป โดยอย่างแรก Mikami ตัดสินใจใช้ระบบมุมกล้องแบบส่องด้านหลังตัวละคร ซึ่งรับแรงบันดาลจากเกม Onimusha 3: Demon Seige, สามารถเล็งปืนได้อย่างอิสรเสรี และเปลี่ยนศัตรูจากซอมบี้ให้กลายเป็นศัตรูประเภทใหม่เรียกว่า “Ganado” รวมถึงมีการมอบหมายให้ Hideki Kamiya ซึ่งตอนนั้นยังคงสังกัดกับ Capcom ให้ออกแบบ Leon S. Kennedy ลุคใหม่ให้ดู “แข็งแกร่งขึ้นแต่ก็ดูเท่ขึ้น” อีกด้วย
ซึ่งหากอ้างอิงจาก Hiroyuki Kobayashi ฝ่ายโปรดิวเซอร์เคยกล่าวว่า ทีมงานบางส่วนก็ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงของ Resident Evil จนส่งผลทำให้พนักงานบางส่วนไม่สามารถพัฒนาเกมอย่างราบรื่นหรือมีอาการท้อแท้ เพราะขาดแรงบันดาลใจในการสร้างเกม แต่อย่างไรก็ตาม Mikami ก็ยืนหยัดว่าเกมใหม่ของ Resident Evil จะต้องรูปแบบที่เขาตั้งใจไว้
ประสบความสำเร็จในทุกด้าน
ในที่สุด เกม Resident Evil 4 ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการครั้งแรกซะที สำหรับเครื่อง Nintendo GameCube ในวันที่ 11 มกราคม 2005 และการนำเสนอแนวทางใหม่ของซีรีส์ Resident Evil ก็คุ้มค่ากับความเสี่ยงเช่นกัน Resident Evil 4 มีกระแสวิจารณ์แง่บวกเป็นอย่างมาก ทั้งระบบเกมเพลย์ที่ผสมผสานระหว่างสยองขวัญเอาตัวรอด-แอ็กชันอย่างลงตัว ทำให้เกมมีความสดใหม่กับเข้าถึงเกมเมอร์ง่าย เนื้อเรื่องมีการเปลี่ยนนำเสนอจากซอมบี้ระบาดล้างเมือง กลายเป็นกลุ่มลัทธิ Los Iluminados ที่มีพฤติกรรมคล้ายซอมบี้ ยกเว้นแต่ไม่กัดกินเนื้อมนุษย์ และสามารถพูดคุยสื่อสารเหมือนคนปกติ
รวมถึงมุมกล้อง Third-Person แบบข้ามหัวไหล่ ได้สร้างปรากฏการณ์ต่อเกมยิงแอ็กชันยุคต่อไปอย่าง Gears of War, Grand Theft Auto, Uncharted, Dead Space กับเกมอื่น ๆ อีกมากมายได้นำไปใช้ต่อจนกลายมุมกล้องแบบมาตรฐานสำหรับเกม TPS จนถึงทุกวันนี้ และ Resident Evil 4 ถูกยกย่องเป็น “เกมดีที่สุดตลอดกาล” กับ “เกมแห่งทศวรรษ 2000” จากเจ้าสำนักเกมหลายแห่ง
เนื่องจากเกม Resident Evil 4 ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นเป็นอย่างมาก ทำให้เกมถูกพอร์ตลงเครื่องเกมเกือบทุกเจเนอเรชันตั้งแต่ PS2, PS3, PS4, Xbox, Xbox 360, Xbox One, Nintendo Wii, Nintendo Switch และ PC รวมถึงเวอร์ชันดาวน์เกรดสำหรับ Zeebo, iOS และ Android ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นเกมสยองขวัญเอาตัวรอดที่ไม่มีวันตายอย่างแท้จริง
แต่ขอนอกเรื่องนิดหนึ่ง ระหว่างที่เกม Resident Evil กำลังจำหน่ายเกมให้เครื่องเกม Nintendo GameCube แบบ Exclusive – Shinji Mikami เคยบอกว่าถ้าหาก Resident Evil 4 ออกจำหน่ายเกมบนแพลตฟอร์มอื่น เขาจะทำการฮาราคีรี (คว้านท้อง) ตัวเองแน่นอน ซึ่งหากนับจากแพลตฟอร์มเกมที่ลงจำหน่ายนอกเหนือจาก GameCube เท่ากับว่า Shinji Mikami ต้องคว้านท้องตัวเองจนตายถึง 12 ครั้ง แน่นอนว่าบทสัมภาษณ์ดังกล่าว ทำให้เขามักถูกหยอกล้อทุกครั้ง เมื่อ Resident Evil 4 ลงจำหน่ายบนเครื่องเกมอื่นจนถึงตอนนี้
Resident Evil 4 เป็นหนึ่งในภาคที่ขายดีที่สุดในซีรีส์ Resident Evil เป็นอันดับ 3 โดยเกมสามารถทำยอดขายทั้งหมดที่ 8,628,067 ชุดจากทั่วทุกแพลตฟอร์ม และเกมดังกล่าวยังคงถูกยกย่องให้เกมสยองขวัญ-เอาตัวรอดที่ดีที่สุดตลอดกาล และเป็นภาคที่ครองใจผู้เล่นหลายคนทั้งเกมเมอร์สายเกมสยองขวัญกับเกมแอ็กชันไปอีกนาน
