ในวงการเกมและวงการไอทีมีการพัฒนาและก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ ทุกวัน หนึ่งในนั้นก็คือเทคโนโลยีหน่วยเก็บข้อมูลที่เริ่มมีราคาถูกลงเรื่อย ๆ จากเมื่อก่อนที่ความจุไม่ถึง 1MB อาจจะต้องใช้เงินเป็นหลักพัน-หลักหมื่น แต่เดี๋ยวนี้ในราคาที่เท่ากันเราก็จะได้ความจุที่สูงถึง 1TB เรียกได้ว่าแทบจะก้าวกระโดดไปล้านเท่าตัวกันเลยทีเดียว และในยุคนี้วงการเทคโนโลยีกับเรื่องของไดรฟ์เก็บข้อมูลที่ใช้ในการเก็บข้อมูลหรือติดตั้งระบบปฏิบัติการกันนั้น ได้มีสองประเภทได้รับความนิยมเป็นอย่างมากนั้นก็คือ Hard Disk Drive (HDD) หรือฮาร์ดดิสก์จานหมุนที่เราคุ้นเคย และของที่กำลังมาแรงอย่าง Solid State Drive (SSD) ที่เหล่าผู้ใช้งานทั่วไปโดยเฉพาะกับเหล่าเกมเมอร์เริ่มอยากได้มันมาครอบครอง แต่ด้วยเหตุผลอะไรหลาย ๆ อย่าง อาจจะเป็นเรื่องของราคาหรือความคุ้มค่า ทำให้หลาย ๆ คนยังลังเลอยู่ว่าจะซื้อมาลองใช้งานได้ดีไหม
แต่ในปี 2019 นี้เขาว่ากันว่า “นี่จะเป็นปีทองของ Solid State Drive (SSD) อย่างแท้จริง” ด้วยเหตุผลอะไรหลาย ๆ อย่าง และนั้นอาจจะทำให้คุณอาจจะลองเปิดใจและเจียดเงินของคุณเพื่อที่จะมาลองเล่นเจ้าเทคโนโลยีสุดล้ำนี้กันดูบ้าง เพราะฉะนั้นทาง GamingDose จึงจะมานำเสนอ 4 เหตุผลทำไมคุณควรต้องมี Solid State Drive (SSD) ในปี 2019 ว่าทำไมคุณควรถึงต้องเปลี่ยนและมีเหตุผลอะไรที่คุณควรจะต้องมี เรามาดูกันเลยดีกว่าครับผม
ราคาที่ลดลงเรื่อย ๆ จนอยู่ในระดับที่สามารถจับต้องได้แล้ว
ในช่วงที่เทคโนโลยีนี้กำลังมาใหม่ ๆ แน่นอนว่าราคาของมันถือว่าแพงและโหดเอาเรื่อง และไม่ใช่ทุกคนที่จะซื้อมาใช้งานอย่างไม่ต้องคิดหนักได้ ซึ่งในยุคนัั้นกับแค่ความจุมาตรฐานอย่าง 120GB ก็จะมีราคาที่สูงถึง 4,000-5,000 บาทเลยทีเดียว และยิ่งหากย้อนไปในยุคที่เทคโนโลยีนี้ออกใหม่ ๆ ในช่วงปี 1978-1991 ในราคา 1,600 คุณจะได้ SSD เพียงแค่ 1MB เท่านั้น ซึ่งราคานี้อาจจะไม่ใช่ราคาที่แพงสำหรับคนบางกลุ่ม แต่เชื่อว่าสำหรับคนกลุ่มใหญ่นั้นถือว่า “แพง” อย่างแน่นอน
แต่กับในยุคนี้ ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปขึ้นทุกวัน ทำให้ราคาของเทคโนโลยีนั้นเริ่มที่จะถูกลงเรื่อย ๆ จากเดิมที่คุณต้องมีเงินระดับหลายพัน-หลายหมื่นเพื่อที่จะซื้อ SSD มาใช้งาน แต่ในยุคนี้เพียงแค่อย่างต่ำ 800 บาทคุณก็สามารถหา SSD รุ่นราคาประหยัดมาใช้งานกันได้แล้ว แถมยังได้ความจุถึง 120GB ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการลงระบบปฏิบัติการ แต่หากยังไม่พอก็สามารถขยับไปที่ 250GB ได้ ที่แค่มีเงินอย่างต่ำ 1,200-1,400 ก็สามารถซื้อมาใช้งานได้แล้ว เรียกได้ว่าถูกลงอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
และแน่นอนว่าในปี 2019 ด้วยความล้ำหน้าของเทคโนโลยีในการผลิตและการออกแบบ ก็เริ่มทำให้ราคาของความจุ SSD นั้นมีแนวโน้มที่จะถูกลงไปเรื่อย ๆ เรียกได้ว่าใครที่กำลังเล็งเจ้าไดร์ฟสุดแรงนี้อยู่ ปีนี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมจริง ๆ สำหรับการหามาติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ของคุณครับ
เข้าสู่ระบบปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็วและพร้อมใช้งานได้แทบทันที
ผู้เขียนกล้าฟันธงเลยว่านี่คือเหตุผลยอดนิยมอันดับหนึ่งที่ทำให้เหล่าผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์หันมาลองเจ้า SSD กันมากขึ้น ด้วยความเร็วในการอ่านและการเขียนที่หลุดโลกไปไกลจากฮาร์ดดิสก์จานหมุน (HDD) แบบเดิม ๆ ทำให้การ Boot เข้าระบบปฏิบัติการที่เมื่อก่อนต้องใช้เวลาเป็นนาที ลดเหลือเพียงแค่ 5-15 วินาทีเท่านัั้น เรียกได้ว่าประหยัดเวลาไปได้พอสมควรเลยทีเดียว
โดยผู้เขียนจะขอเล่าประสบการณ์เล็กน้อยในการใช้งานเจ้า SSD ตัวนี้ เดิมทีทางผู้เขียนใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows 7 บน HDD ที่ก็ไม่มีปัญหาอะไรในการใช้งาน ความเร็วก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ในตอนนั้น แต่แล้ววันหนึ่งคอมพิวเตอร์ของผู้เขียนก็เกิดอาการเอ๋อ และนั้นทำให้ต้องทำการลงระบบปฏิบัติการใหม่ แต่ตัวผู้เขียนนั้นไม่มีไฟล์ติดตั้ง Windows 7 เก็บไว้ ทำให้ผู้เขียนต้องทำการดาวน์โหลด Windows 10 จากทางเว็บไซต์ Microsoft (ใช้แบบ Unactivated มีคีย์แท้เมื่อไหร่ก็กรอกใส่ลงได้เลย) มาไรท์ลงแผ่นและทำการติดตั้งแทนที่ Windows 7 ที่ไม่สามารถใช้งานได้
ผลก็คือ… ใช่ครับจริงอยู่ที่ Windows 10 เป็นระบบปฏิบัติการที่ใหม่และดูดีมาก ซึ่งใช้งานช่วงแรก ๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก และ Boot เข้าระบบด้วยความเร็วที่รับได้ปกติ แต่พอเวลาผ่านไปนาน ๆ เข้า ตัวของระบบก็ยิ่งอึดไปตามกาลเวลาจนผู้เขียนรู้สึกได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเวลาบู้ทที่ใช้เวลาเป็นนาที-สองนาทีกว่า ๆ ซึ่งแค่นี้ก็ว่าแย่แล้ว แต่พอเข้าสู่หน้า Desktop เหมือนตัวระบบจะต้องใช้เวลาสักพักเพื่อให้คอมพิวเตอร์พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยให้นึกถึงตอนที่เราเปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือรุ่นกลาง ๆ ที่เมื่อบู้ทขึ้นหน้าต่าง GUI แล้วจะต้องรอสักพักถึงจะหายอึด และนึกสภาพว่ากระบวนการนี้ต้องใช้เวลากว่า 5-10 นาที ซึ่งอาจจะฟังดูเป็นเวลาที่ เอ้ยไปอาบน้ำกินข้าวกลับก็เล่นได้แล้ว แต่มันก็ทำให้ผู้เขียนเซงไม่ใช่น้อย เพราะมันก็ใช่เรื่องที่ผู้เขียนจะต้องรอนานแบบนี้เพื่อที่จะได้เล่นเกมและทำงานอดิเรกของตน
แต่พอผู้เขียนได้สอยเจ้า SSD มาใช้งาน และทำการลงระบบปฏิบัติการอีกรอบบนไดร์ฟเท่านั้นแหละครับ อือหือ… เหมือนอยู่คนละโลกกันเลยจ้า ไม่ว่าจะเป็นเวลา Boot เข้าระบบปฏิบัติการที่น้อยลงเป็นอย่างมากจนรู้สึกได้ และที่สำคัญที่สุดคือเมื่อ Boot เข้าหน้า Desktop ปุ๊บ ระบบของคอมพิวเตอร์จะพร้อมใช้งานได้ทันทีเลย ไม่ต้องรอให้ระบบมันจัดการตนเองเพื่อให้พร้อมใช้งานเป็น 5-10 นาทีเหมือนตอนใช้ HDD จานหมุน เรียกได้ว่าในเมื่อเห็นผลที่ชัดเจนขนาดนี้ หากผู้เขียนได้มีโอกาสกลับไปใช้ HDD สำหรับรันระบบปฏิบัติการกันอีกรอบคงต้องใช้เวลาปรับตัวที่นานเอาโขเลยล่ะครับ (ฮา)
เพิ่มประสิทธิภาพให้กับคอมพิวเตอร์ในแง่ของการอ่าน-เขียนไฟล์
อีกเหตุผลที่ทำให้ SSD มีประสิทธิภาพมากกว่าฮาร์ดดิสก์จานหมุนธรรมดาก็คือ “ความเร็วในการอ่าน-เขียนไฟล์” ที่สูงกว่า HDD แบบจานหมุนระดับคนละโลกกันเลยทีเดียว โดยถ้าหากคุณเป็นสายงานตัดต่อหรืองานกราฟิก เราจะสามารถโหลดไฟล์และรันโปรแกรมได้รวดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะกับไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ 4K ที่มีความใหญ่ระดับแค่สิบนาทีก็ล่อไป 50-100GB แน่นอนว่าหากเอาไฟล์นี้ไปไว้บนฮาร์ดดิสก์จานหมุนและทำการตัดต่อแน่นอนว่าความช้าและความอืดจะมาเยือนแน่นอน แต่หากคุณใช้งาน SSD แน่นอนว่าคุณจะสามารถโหลดไฟล์ 4K ได้ไวยิ่งขึ้น โดยหากยังอืดอยู่อันนี้ก็อยู่ที่สเปคคอมพิวเตอร์ของคุณด้วย เพราะว่า SSD ไม่ได้ไปเพิ่มความแรงให้กับตัวเครื่อง แต่แค่เพิ่มความเร็วในการอ่านเขียน-ไฟล์ให้มากขึ้นเฉย ๆ
ส่วนการใช้งานปกติอย่างการดูหนังฟังเพลงก็มีผลเช่นกัน โดยเฉพาะถ้าหากไฟล์นั้นเป็นไฟล์ขนาดใหญ่ จากเดิมที่อาจจะต้องใช้เวลาในการอ่านเป็นเวลาอย่างยาวนาน แต่หากติดตั้ง SSD ลงไปในคอมพิวเตอร์ของคุณแล้วล่ะก็ ความเร็วในการอ่านก็ย่อมเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนครับ
เพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมให้ดียิ่งขึ้น (ทางอ้อม)
แน่นอนว่าผู้เขียนก็แอบคิดว่าเหตุผลสามข้อแรกอาจจะไม่เพียงพอต่อผู้อ่านเว็บไซต์ GamingDose ที่ส่วนมากจะเป็นกลุ่มของเกมเมอร์ ทำให้ผู้เขียนได้ทำการเตรียมยาอีกตัวหนึ่งที่อาจจะทำให้การป้ายยาครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นได้… ใช่แล้วครับนี่คือบทความป้ายยา… พวกคุณรู้ตัวกันแล้วใช่ไหมล่ะ ฮ่า ๆ
เพราะนอกจากที่ราคาจะถูกลงจากเดิมมาก บู้ทเข้าระบบปฏิบัติการได้ทันที และเพิ่มประสิทธิภาพในการอ่าน-เขียนไฟล์ได้แล้ว ยังมีข้อดีอีกอย่างสำหรับเกมเมอร์ ที่น่าจะถูกใจกันไม่น้อยก็คือ “เพิ่มความเร็วในการอ่านไฟล์ระหว่างเล่นเกม” ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการอ่าน-เขียนไฟล์ที่เร็วมากขึ้น โดยหากกับเกมอินดี้เล็ก ๆ อาจจะไม่ค่อยมีผลชัดเจนเท่าไหร่นัก อย่างมากก็แค่สามารถเข้าถึงเกมได้เร็วขึ้น (ยกเว้น Terraria เกมเดียว อันนี้มีผลชัดเจนผู้เขียนลองแล้ว) แต่หากเป็นเกมเกรด AAA โดยเฉพาะกับเกม Open World อันนี้จะมีเห็นผลชัดเจนอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการโหลด Map และความเร็วในการโหลดข้อมูลที่ไวขึ้นกว่าฮาร์ดดิสก์จานหมุนธรรมดาอย่างชัดเจน และสำหรับสาย Battle Royale ยอดนิยมอย่าง Playerunknown’s Battlegrounds การที่คุณมี SSD ติดตั้งเอาไว้จะช่วยแก้ปัญหาอาการบ้านดินน้ำมันได้อีกด้วยครับ
นอกจากนี้แล้ว สำหรับสาย Mods ที่ชอบลงม็อดและปรับแต่งตัวเกมแล้วนั้น SSD ก็สามารถช่วยให้สามารถโหลดไฟล์ Mods ต่าง ๆ ให้รวดเร็วยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน เพราะการที่คุณลงม็อดไว้เยอะ ๆ บางครั้งม็อดก็อาจจะมีขนาดมากกว่าตัวเกมเสียอีก (The Elder Scroll V : Skyrim นี่ตัวดีเลย) การมี SSD และติดตั้งเกมเอาไว้จะช่วยเพิ่มความเร็วในการโหลดไฟล์ตัวเกมและ Mods ให้รวดเร็วยิ่งขึ้นครับ
และนี่คือ 4 เหตุผลว่าทำไมคุณควรที่จะต้องสรรหาเจ้า Solid State Drive (SSD) มาใช้ในคอมพิวเตอร์ของคุณ ในช่วงปี 2019 นี้ จะเห็นได้ว่ามีหลากหลายเหตุผลที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกับสายเกมเมอร์แล้วยิ่งต้องลองหามาใช้ให้จงได้ อย่างไรก็ดี แน่นอนว่าหากผู้เขียนจะมาบอกข้อดีขนาดนี้ แต่ไม่ให้ข้อมูลเบื้องต้นอะไรเลยก็เหมือนยาที่ป้ายยังไม่สุด ดังนั้นผู้เขียนจะมาอธิบายคร่าว ๆ ว่า เจ้า SSD นี้มันคืออะไรและมีแบบไหนให้เลือกใช้กันบ้าง พร้อมข้อแนะนำที่ควรรู้ในการซื้อและใช้งานครับ
ข้อควรรู้และระมัดระวังในการซื้อ Solid State Drive (SSD)
- SSD มีสี่ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ SSD SATA, M.2 SATA, M.2 NVMe. และ M.2 PCIe โดยแต่ละแบบจะมีประสิทธิภาพที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในบรรดาทั้งหมดนี้ SSD SATA จะมีราคาต่อความจุโดยเฉลี่ยถูกที่สุด และแพงสุดจะอยู่ที่ M.2 NVMe. แต่ความแพงก็ย่อมมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่มากขึ้น
- SSD ถือว่าเป็นดิสก์ชนิดหนึ่ง ที่สามารถใช้ในการเก็บข้อมูลได้แบบเดียวกับเจ้า Hard Disk Drive (HDD) หรือฮาร์ดดิสก์จานหมุน เป๊ะ ๆ หรือหากจะให้พูดแบบเข้าใจง่าย ๆ SSD ก็คือ HDD ที่วิวัฒนาการขึ้นมานั้นเอง และแน่นอนว่ามันสามารถใช้งานในการติดตั้งระบบปฏิบัติการได้
- สำหรับสายงบน้อย หรือต้องทำงานที่เน้นความจุ ผู้เขียนแนะนำให้ใช้ SSD ในการลงโปรแกรมที่ใช้งานบ่อยบวกกับระบบปฏิบัติการ และใช้ HDD จานหมุนในการเก็บไฟล์และลงเกมตามปกติ หรือหากเกมไหนที่เล่นบ่อย ๆ ก็สามารถเอามาติดตั้งลง SSD ได้ (แต่ดูเรื่องของความจุด้วย เพราะเกมสมัยนี้ไม่ได้ขนาดเล็ก ๆ)
- สำหรับสายโหลดเกมไว โดยเฉพาะกับเกม Playerunknown’s Battlegrounds และเกมเกรด AAA ยุคนี้ที่ต้องอ่านไฟล์ใหญ่ ๆ การติดตั้งเกมลง SSD จะเพิ่มประสิทธิภาพในการอ่านไฟล์ให้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ขอย้ำอีกทีว่า “มันไม่ได้เพิ่มความแรงของตัวเครื่อง” เพราะหน้าที่นี้สำหรับเกมมิ่งนั้นเป็นของการ์ดจอ แรม และซีพียูครับ
- Mainboard ที่ไม่รองรับ SATA3 สามารถใช้งาน SSD SATA3 ได้ตามปกติ แต่จะได้ความเร็วที่ลดลง ซึ่งก็ถือว่าไวกว่าเจ้าฮาร์ดดิสก์จานหมุนแบบ HDD อย่างเทียบไม่ได้อยู่ดี เมื่อใช้ในการติดตั้งและรันระบบปฏิบัติการ (สำหรับคอมพิวเตอร์ยุคเก่าแบบผู้เขียน)
- ถึง Mainboard บางรุ่นจะรองรับ M.2 แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรองรับ SSD M.2 ทุกรูปแบบ บางเมนบอร์ดสามารถติดตั้งได้เพียงแค่ M.2 NVMe บางเมนบอร์ดสามารถติดตี้งได้แค่ M.2 SATA ดังน้้นควรศึกษาสเปกเมนบอร์ดของคุณไม่นั้นหากซื้อมาผิดแบบและใช้งานไม่ได้จะเก้อเอาครับ (ส่วนใหญ่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจะรองรับแค่ M.2 SATA)
- ในวงการการเล่น SSD นั้น ได้มีรุ่นที่ “เขาไม่แนะนำ” กันอยู่ ซึ่งทางผู้เขียนคงไม่สามารถบอกชื่อได้ว่าเป็นรุ่นไหน เพราะฉะนั้นศึกษาข้อมูลกันให้ดี ๆ ก่อนซื้อ ไม่นั้นความเร็วอาจจะไม่ได้แบบที่คุณคาดหวังหรือตรงสเปก
- Intel Optane Memory ถือว่าเป็น SSD ชนิดหนึ่ง แต่ไม่ได้ใช้ในการเก็บข้อมูล เพียงแต่ใช้งานเพื่อเป็น Cache ในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับฮาร์ดดิสก์จานหมุน
และนี่คือทั้งหมดของบทความว่าด้วยเรื่องของเหตุผลว่าทำไมคุณควรลองหา SSD มาใช้งานในปี 2019 พร้อมกับไกด์ไลน์เล็กน้อยเกี่ยวกับการใช้งาน โดยทางผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะป้ายยาผู้ที่ยังคงใช้ฮาร์ดดิสก์จานหมุนอย่าง Hard Disk Drive (HDD) หันมาสนใจเจ้าเทคโนโลยีแห่งยุคใหม่นีัไม่มากก็นัอย
ซึ่งแน่นอนว่าผู้เขียนป้ายยาจัดเต็มขนาดนี้ แต่ก็ยังคงมีเนื้อหาที่ผู้เขียนยังคงไม่พูดถึงนั้นก็คือ “การแนะนำฮาร์ดดิสก์ที่น่าสนใจทัังในแง่ของราคาและประสิทธิภาพ” เพราะฉะนั้นในโอกาสหน้าเราจะมาพูดถึงตัวเลือกของ SSD ที่น่าสนใจในปี 2019 กันครับผม