วงการเกมยุคปัจจุบัน เกมที่สามารถทำยอดขายเยอะเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ก็อาจจะเพียงพอแล้วสำหรับผู้พัฒนาเกมบางรายแล้ว แต่ไม่ใช่สำหรับนักพัฒนาเกมเหล่านี้ ที่มีสปิริตของผู้สร้างมากกว่าใคร ๆ และกล้าที่กล่าววิจารณ์เกมตัวเองทั้งที่เกมตัวเองประสบความสำเร็จมากหรือน้อยแค่ไหนก็ตาม และนี่คือ 5 ผู้พัฒนาเกมที่เกลียดผลงานเกมตัวเอง แล้วจะมีเกมและใครบ้าง ก็สามารถติดตามรับชมได้เลยครับ
Eric Caen – Superman N64
Superman M64 ถือเป็นหายนะของวงการเกมยุค 90’s ที่เกมเมอร์หลายคนจะต้องเสียน้ำตากับคุณภาพเกมที่สวนทางกระแสยอดขายดีในช่วงเปิดตัวสัปดาห์แรก ซึ่งฝ่ายโปรดิวเซอร์เองก็ไม่แฮปปี้กับคุณภาพเกม และรู้ตัวดีว่าเกมมันแย่ขนาดไหนกัน
นาย Eric Caen โปรดิวเซอร์ของเกม Superman 64 สัมภาษณ์กับบล็อกเกอร์อิสระ Proton Jon ซึ่งคุณ Caen วิจารณ์เกม Superman 64 ว่ามีเกมหลายเกมที่เขารู้สึกภาคภูมิใจในผลงานตัวเอง แต่ไม่ใช่สำหรับเกม Superman 64 ที่ “ไม่สมควรจะมีผลลัพธ์เกมที่มีกระแสเ*ี้ยขนาดนี้” พร้อมโยนความผิดให้ผู้ครองลิขสิทธิ์อย่าง DC Comics กับ Warner Bros ที่เร่งรีบวางขายเกม และจำกัดความคิดสร้างสรรค์ของเกม โดยเขากล่าวว่า “มีไม่ถึง 10% ของเนื้อหาเกม ที่เป็นไอเดียของทีมงานสร้างที่ขึ้นมาเอง”
สิ่งที่เขาภาคภูมิในเกม Superman 64 มีเพียงอย่างเดียว คือเป็นเกมแรกของ Titus Interactive ที่เป็นแนวเปิดโลกกว้าง และมีแผนที่สเกลขนาดใหญ่ แต่หากเทียบกับองค์ประกอบอย่างอื่น ๆ เช่นความยาก การควบคุม กราฟิก ประสิทธิภาพที่แย่ทุกด้าน เกม Superman 64 จึงขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในที่เกมแย่ที่สุดตลอดกาลจากเจ้าสำนัก GameTrailers
Deus Ex: Invisible War มีกระแสตอบรับทั้งคนชอบ (สำหรับคนเล่นเกมทั่วไป) และคนไม่ชอบเป็นส่วนน้อย (สำหรับแฟนเกมลอบเร้น) เพราะระบบเกมเพลย์มีการออกแบบใหม่ทั้งหมด จากเกมแนวลอบเร้นที่มีระบบ RPG เข้ามาผสมผสานกันอย่าวลงตัว กลายเป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องปลายเปิด และมีระบบเกมเพลย์เน้นแอ็กชัน-ลอบเร้นมากขึ้น
ถึงแม้เกม Deus Ex: Invisible War จะประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม แต่คุณ Warren Spector ผู้กำเนิดซีรีส์ Deus Ex กลับไม่ชื่นชอบแนวทางเกมเพลย์แบบใหม่ซะเท่าไหร่นัก เขากล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงของ Deus Ex Invisible War นั้น เป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ที่สุดในชีวิตการสร้างเกม
รวมถึงระหว่างการพัฒนาเกม เขายังบอกกับตัวเองอีกด้วยว่า “ผมจะสร้างเกมภาคต่อไปให้ผู้ชายหรือผู้หญิงสวมชุดหมีสีม่วง เพราะคนชอบ jumpsuits สีม่วงกัน” ซึ่งเขาก็ออกมากัดฟันด่าความคิดตัวเองว่า “ผมได้ยินมาจากไหนกัน!? ” ระหว่างการกล่าวโปรโมตเกม Epic Mickey 2 ในปี 2012 ที่ผ่านมา
George Fan – Plants Vs. Zombies
Plants Vs. Zombies เป็นเกมอินดี้ที่สร้างกระแสฮือฮาทั่วโลกด้วยการนำเสนอกราฟิกน่ารักทดแทนความน่ากลัว ซึ่งเกมดังกล่าวจึงกลายเป็นเกมยอดนิยมประจำปี 2009 อย่างไม่ต้องสงสัย จนกระทั่งปี 2011 ทีมพัฒนาเกม PopCap Games เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีม EA Games จึงส่งผลกระทบต่อระบบการบริการเกมได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง และ George Fan ผู้ออกแบบเกม Plants Vs. Zombies ก็ไม่พอใจกับนโยบายของ EA Games
George Fan สัมภาษณ์กับเจ้าสำนัก Venture Beat เขากล่าวแสดงความผิดหวังต่อ EA Games ที่เปลี่ยนเกม Plants Vs. Zombies จากเกมอินดี้สนุกหรรษา กลายเป็นเกมฟรีที่เต็มไปด้วยระบบ Microtransactions ที่แฟนเกมหลายคนไม่พอใจเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้เขารู้สึกหมดศรัทธาต่อผลงานตัวเอง โดยเขากล่าวโทษ EA ว่าบริษัทกำลังใช้กลยุทธ์ Microtransactions เพื่อดึงเงินกำไรจากคนเล่นเกมมากขึ้นก็จริง แต่ทำให้ความสนุกสนานของเกมน้อยลง และถ้าเขาบอกกับ EA ว่า “เฮ้! ช่วยลดระบบ หรือกวาดระบบทิ้ง เพื่อให้คนเล่นเกมมีโมเมนต์เกมเพลย์สนุกสนานต่อคุณได้ไหม” เขาพนันเลยว่าคำตอบที่ได้กลับมาเป็น “ไม่” แน่นอน
Peter Molyneux – Fable II
สำหรับเกมเมอร์ที่ติดตามวงการเกมมานาน ก็อาจมองเป็นเรื่องปกติที่ Peter Molyneux จะวิจารณ์เกมตัวเอง เพราะเขาเป็นนักพัฒนาเกมระดับตำนานที่สร้างผลงานเกมมาเกือบสองทศวรรษ และเขามีลักษณะนิสัยชื่นชอบการวิจารณ์ และชอบตั้งความคาดหวังของผลงานตัวเองไว้สูงมากเสมอ ซึ่งมีหลายครั้งที่เขามักออกมากล่าวขอโทษทุกคนที่ทำเกมออกน่าผิดหวัง แม้คุณภาพเกมของเขาจะมีคุณภาพมากแค่ไหนก็ตาม ไม่พ้นแม้แต่เกม RPG ระดับตำนานอย่าง Fable II
Peter Molyneux วิจารณ์เกม Fable II ว่าเป็นเกม “คนหมาทำ” เพราะคุณภาพเกมไม่สามารถสู้เทียบเท่า Fable ภาคเก่าได้ และเขาย้ำกับตัวเองหลายรอบว่าองค์ประกอบเนื้อเรื่อง Fable II มีการออกแบบที่ผิดพลาดมากมาย ทั้ง ๆ ความเป็นจริงแล้ว ระบบดังกล่าวไม่ได้เป็นข้อเสียหลักจนทำลายเอกลักษณ์ หรือบรรยากาศของเกมมากนัก (เจ้าสำนักเกมส่วนใหญ่วิจารณ์ข้อเสีย Fable II ว่าสมดุลระหว่างฝั่งดี-ฝั่งร้ายยังไม่สมดุลลงตัว)
Miyamoto Shigeru – Mario Bros. 3
Super Mario Bros. 3 เป็นหนึ่งในเกมระดับชิ้นโบแดงของบริษัท Ninendo ที่กำกับโดย Takashi Tezuka และมีโปรดิวเซอร์เป็น Miyamoto Shigeru ซึ่งแน่นอนว่าบทวิจารณ์ของเกมดังกล่าวก็มีกระแสด้านบวกล้นหลามตามเกมภาคเก่าไปติด ๆ แต่ทว่า Shigeru กลับไม่ประทับใจกับ Mario Bros. 3 ซะเท่าไหร่นัก
Miyamoto Shigeru บอกว่าเกม Super Mario Bros. 3 เป็นเกมที่ทำให้เขา “อับอาย” เพราะเขาเชื่อว่าตัวเกมยังสามารถทำได้ดียิ่งกว่านี้ คุณ Miyamoto กล่าวสัมภาษณ์กับนิตยสาร TIME ในปี 2011 ที่วิจารณ์เกมตัวเองว่า “แค่นี้เรอะ นี่คิดว่าดีพอสำหรับเราแล้วงั้นเหรอ ?” เพียงแค้ประโยคสั้น ๆ ก็สามารถบ่งบอกทันทีว่าเกม Super Mario Bros. 3 อาจจะมีคุณภาพดียิ่งกว่าเวอร์ชันต้นฉบับก็เป็นไปได้ครับ