ภารกิจ(ไม่)จำเป็นที่เหล่าเกมเมอร์ไม่อยากจะทำเลยแม้แต่นิดเดียว
ปัญหาภารกิจซ้ำซากเป็นปัญหาที่โลกแตกมาก ๆ ที่ไม่ว่าจะเกมไหนต่างก็ต้องเผชิญกับคำวิจารณ์ด้านลบข้อนี้ โดยเฉพาะเกมเปิดโลกกว้างที่มีอะไรทำมากมายก็จริง แต่ก็ต้องแลกด้วยมิชชั่นที่วนลูปเดิม ๆ เพื่อไม่ให้เกมเมอร์ปล่อยให้รู้สึกมีเวลาว่างเกินไป ซึ่งมิชชั่นอาจจะสนุกในตอนแรกของเกม แต่เมื่อเล่นไปซักพักก็จะเกิดความซ้ำซาก เบื่อหนายขึ้น แล้วผู้เล่นก็กลับไปดำเนินเนื้อเรื่องหลักต่อไป
แต่เมื่อคุณเล่นไปถึงจุดที่จะต้องมีเงื่อนไขกำหนด หรือต้องการปลดถ้วย Achievement ระดับแพลตตินั่ม นี่คือนรกของการ Grinding มิชชั่นเสริมที่เกมเมอร์ไม่อยากจะทำเลย แต่ก็ต้องทำเพื่อความจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นสายซีเรียส หรือสายฮาร์ดคอร์ ก็ต้องรู้สึกเกลียดเกมเป็นอย่างมาก เปรียบเสมือนโดนนั่งเก้าอี้ทรมานจับจอยคอนโทรลเลอร์ทุก ๆ 3 – 4 ชั่วโมง เสียดายเวลาไปเปล่า ๆ ทำแต่สิ่งเดิมในทุก ๆ วัน
นี่คือ “5 ประเภทมิชชั่นเสริมสุดซ้ำซากที่เกมเมอร์ต่างเอือมระอา” ที่จะต้องร้องอี๋และรับมือเมื่อถึงจุดที่ต้องบังคับให้เล่นมิชชั่นเสริมเหล่านี้โดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ภารกิจส่ง-รับของ
จากมนุษย์ตัวเอกที่มีความพิเศษมากกว่าผู้อื่นกลายมาเป็นนักส่งของเหมือนไปรษณีย์ไทย เควสประเภทนี้สามารถพบได้ตามเกมทั่ว ๆ ไป และมันก็เป็นมิชชั่นเสริมที่น่าเบื่อง่ายที่สุดเช่นกัน เพราะนอกจากค่าตอบแทนจะไม่ค่อยจะคุ้มค่าแล้ว รูปแบบการเล่นมันก็เรียบง่ายเกินไป เพียงแค่ไปจุด A ไปจุด B ก่อนเวลาที่กำหนดไว้ และถ้าอยากจะให้มิชชั่นมีความท้าทายมากขึ้น ก็จะเพียงแค่เพิ่มศัตรูเข้ามาขัดขวาง ก่อกวนผู้เล่นเข้ามาเป็นอุปสรรคต่าง ๆ ในการส่งของรับของ
แต่มันก็แค่นั้นแหล่ะ เพราะเพียงแค่เล่นติดต่อกัน 3 รอบขึ้นไปก็รู้สึกไม่สนุกแล้ว แล้วศัตรูที่สร้างอุปสรรคให้แก่ผู้เล่น ผลลัพธ์ออกไปในเชิงน่ารำคาญมากกว่าสร้างความท้าทายให้กับเกม
ภารกิจสังหารแบบไม่มีแรงจูงใจ
การสังหารตัวละครในเกมสามารถสร้างความเร้าใจ จะฟีลกู้ดมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับว่าเนื้อเรื่องของเกมมีเซตติ้งตัวละครมีความสัมพันธ์ต่อตัวร้ายมากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับงานสังหารเพราะเจ้านายไม่ถูกใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจ ปัญหาไม่ลงรอยกัน ที่นอกจากทำให้ผู้เล่นเป็นคนเลือดเย็นแล้ว มิชชั่นก็รู้สึก “จืด” อีกด้วย
ไม่ว่าจะสมเหตุสมผลหรือไม่ ถ้าไม่มีการปูเนื้อหาเหยื่อสังหารเลย เราก็เปรียบเสมือนแค่ฆ่าคน “บางคน” ในเกมที่เป็นแค่โมเดล NPC ธรรมดา ๆ ที่มีชื่อเป็นของตัวเองเท่านั้นเอง
สรุป มันก็แค่มิชชั่นสังหารคนธรรมดาคนหนึ่งที่กำจัดเสร็จแล้วก็รับเงิน แล้วก็วน ๆ ไปกลับ เป็นวัฏจักรชีวิตซึ่งคล้ายกับการทำงานในชีวิตจริง แต่เราเล่นเกมเพื่อต้องการความสนุกอยู่ดี
ภารกิจสืบสวนดั่งเจ้าหนูโคนัน
ฟีเจอร์หยิบสิ่งของเพื่อการสืบสวนดั่งนักสืบมืออาชีพ พิสูจน์ออกมาแล้วว่าเป็นระบบการเล่นที่เจ๋ง และเท่มาก ๆ หลังจากเกม L.A. Noire ได้ปล่อยเกมออกมา ปัจจุบันหลายเกมรับแรงบันดาลใจจากเกมดังกล่าวมาลงเป็นมิชชั่นเสริมที่หลายคนได้ความเห็นว่ามันก็เป็นสิ่งที่ดี
แต่เพราะว่าการสืบสวนจะต้องใช้สมาธิ การสังเกต ใจเย็นเป็นหลักมากกว่าแอ๊คชั่น ทำให้การเล่นมิชชั่นเสริมประเภทนี้นาน ๆ เข้าจะเริ่มรู้สึกง่วงนอน และทำให้ตาล้าจากการจ้องหน้าจอมอร์นิเตอร์เป็นเวลานานอีกด้วย
เหตุที่ L.A. Noire ไม่รู้สึกอย่างนั้นเพราะทุกอย่างมีที่มาที่ไป และเกมเดิมทีได้นำเสนอเกมในรูปแบบการสืบสวนเป็นหลักอยู่แล้ว แต่พอมาส่งในเกมประเภทที่มีแอ๊คชั่น หรือเล่นบทเป็นพระเอกที่ไม่สมกับบทบาทนักสืบเท่าไหร่นัก ก็จะรู้สึกซ้ำซากและไม่ถูกจริตเกมเมอร์สายสะใจอย่างแรง
ภารกิจหาและสะสมไอเท็มลับ
ถ้าการสะสมคอลเล็คชั่นในเกมน่าค้นหา ให้รางวัลแก่ผู้เล่นสมน้ำสมเนื้อ หรือมีการจัดวางไอเท็มที่จะต้องใช้ความพยายาม ก็พอที่จะช่วยมีแรงจูงใจให้ผู้เล่นให้ค้นหาตามซอกแผนที่ต่าง ๆ อยู่บ้าง แต่ถ้าเป็นภารกิจที่หาไอเท็มเพื่อที่จะให้เกมจบสมบูรณ์ 100% อย่างเดียวล่ะก็ อาจจะต้องมีการส่ายหน้าหนีไปตาม ๆ กัน
แต่เกมส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้เริ่มใจดีเฉลยไอเท็มจุดต่าง ๆ โดยเล่นไปซักระยะ (ส่วนมากจะเป็นช่วงใกล้จบเกม) แต่ถึงตอนนั้นคงไม่มีใครคิดถึงการเก็บไอเท็มลับแล้ว เพราะเนื้อเรื่องอยู่ในจุดที่น่าตื่นเต้นอยู่พอดี ซึ่งผู้เล่นส่วนใหญ่เลือกที่จะเล่นให้จบก่อนแล้วเก็บไอเท็มทีหลังซะมากกว่า
ยกตัวอย่างเกมที่มีเนื้อหาเก็บไอเท็มที่ดีน่าค้นหา ก็คือ MAFIA III ที่สามารถสะสมนิตยสาร Playboy ที่อ้างอิงจากยุคสมัยนั้นจริง ๆ หรือแม้กระทั่งโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อโดยฝั่งคอมมิวนิสต์ที่มีการออกแบบได้น่าสนใจใช้ได้เลยทีเดียว
ภารกิจปกป้องบุคคลให้รอดปลอดภัย
การเป็นบอดี้การ์ดให้กับใครคนหนึ่ง พาไปจุดหนึ่งไปอีดจุดหนึ่งโดยที่คนที่ปกป้องไม่มีความสามารถป้องกันตัวเองได้เลย แค่อ่านก็รู้สึกได้เลยว่ามันต้องไม่สนุกอย่างแน่นอน เพราะนอกจาก NPC จะไร้ประโยชน์แล้ว ในตัวมิชชั่นมักจะออกแบบอุปสรรคโดยการเพิ่มปริมาณ หรือหลากประเภทมากขึ้น เกมเมอร์จะต้องรีบกับทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีเวลาให้คิด และที่น่าหงุดหงิดที่สุด คือ NPC อืดอาด ซุ่มซ่ามมาก ๆ เพราะผู้พัฒนาต้องการให้เป็นแบบนั้น
นอกจากจะต้องปวดหัวจากปริมาณของศัตรูแล้วยังจะต้องปวดหัวกับ NPC ที่เราจะต้องปกป้องอีก นอกจากมิชชั่นจะไม่มีความสร้างสรรค์แล้ว ก็ทำให้เกิดอาการหัวร้อยได้ง่ายเช่นกัน จึงยกให้เป็นมิชชั่นที่น่าเบื่อที่สุดในบรรดาทั้งหมดที่กล่าวมา