บทความร่วมเฉลิมฉลองในวัน International Cooperatives Day
คุณอาจจะไม่ทราบ ว่าวันเสาร์แรกของเดือนกรกฏาคมทุกปี เป็นวัน “International Cooperatives Day” หรือวันแห่งความร่วมมือโลก เป็นวันที่เกิดขึ้นเพื่อการเฉลิมฉลองและรำลึกถึงองค์กรความร่วมมือหรือสหกรณ์ที่จัดตั้งมาเพื่อยึดมั่นในสังคม และต่อสู้กับระบบเศรษฐกิจหรือกลไกต่างๆ ซึ่งคุณอาจจะงง ๆ ว่ามันเกี่ยวอะไรกับพวกเรา ในแง่ความซีเรียสของโลกอาจจะยังไกลตัวพวกเรา แต่คำว่า Cooperative หรือ Co-op เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรามาก มนุษย์ไม่ใช่สัตว์ที่เกิดมาแล้วอยู่คนเดียว เรามีครอบครัว มีเพื่อนฝูง มีคู่ครอง ซึ่งการทำทุก ๆ อย่างกับบุคคลพวกนั้นถือเป็นการ Cooperative ทั้งนั้น เรามีกิจกรรมหลายอย่างที่เราทำด้วยกันได้ ทั้งทำอาหาร ท่องเที่ยว พักผ่อน หรือแม้กระทั่งเล่นเกมด้วยกัน
ในปัจจุบันเกมแทบจะทุกเกมมีโหมด Co-op ด้วยกันทั้งนั้น แสดงให้เห็นว่าการร่วมมือกับผู้อื่นเป็นสิ่งที่มนุษย์เราต้องการ และมันสนุกกว่าการทำอะไรคนเดียวเยอะ มันสร้างอารมณ์ที่แตกต่าง สร้างมิตรภาพระหว่างบุคคล สร้างประสบการณ์ที่คุณหาไม่ได้ในช่วงที่คุณใช้เวลาอยู่คนเดียว และนี่คือ “5 เกม Co-op สุดมัน ฉลองวันแห่งความร่วมมือโลก” ที่ GamingDose แนะนำ
1.A Way Out
อาจจะไม่ตรงคอนเซปต์ที่สดใสของวันร่วมมือโลกเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่สื่อสารคำว่า “ความเชื่อใจ” ออกมาได้ดีที่สุด ในเกมนี้คุณจะได้รับบทเป็น Vincent และ Leo คนแปลกหน้าที่มาเจอกันในเรือนจำแห่งหนึ่ง เขาสองคนต้องพึ่งพากันและกัน แหกเรือนจำแห่งนี้เพื่อกลับไปทำสิ่งที่พวกเขาปรารถนาให้สำเร็จ ธีมของเกมไม่สดใส ไม่ใช่การล่าฝัน และไม่ใช่อะไรที่ถูกจริตของคนปกตินัก แต่รับประกันเลยว่านี่เป็นอีกหนึ่งเกมที่จะทิ้งอะไรหลาย ๆ อย่างให้คุณคิดในตอนท้าย แม้เกมจะจบลงแล้วก็ตาม
2.Unravel 2
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่คือเกมที่ทุกคนใน GamingDose เอ่ยชมว่ามันเป็นเกมที่ “สนุกมาก” แม้แต่ผู้เสพความโหดอย่าง Xter เองก็ยังต้องพ่ายแพ้ให้กับความน่ารักของไหมพรมในเกมนี้ เราพูดกันตลอดว่าเกมนี้มันดียังไง มันดีแบบไหน เราทำทั้งรีวิว ที่นี่ เรามีทั้งคลิปวิดีโอ ที่นี่ จนเราไม่สามารถอธิบายเพิ่มได้อีกว่ามันดียังไง เอาเป็นว่ามันไม่ใช่เกมแล้ว มันคืองานศิลปะที่จะช่วยให้คุณกับใครก็ตามอีกคนนึง ใกล้ชิดกันเพิ่มขึ้นได้ราวกับเวทมนตร์ได้เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน เราแนะนำว่าถ้าคุณมีคู่เดตเป็นเกมเมอร์ เปิดเกมนี้ให้เขา/เธอ เล่นในเดตที่สอง รับรองว่าคุณสองคนจะประทับใจแน่
3.Cuphead
ความสนุกที่แท้จริงอาจไม่มาจากการที่ทุกอย่างง่ายดายเสมอไป และ Cuphead จะสอนคุณในเรื่องนั้น เกมนี้ติดอันดับเรื่องความยากที่ทะลุปรอทจนไม่สามารถที่จะทนเล่นคนเดียวได้ แต่ถ้าหากมีเพื่อนมาเพิ่มซักคนละ ? ความยากจะกลายเป็นความฮาทันที พวกคุณสองคนจะได้พิสูจน์ไปพร้อมกันว่าสานสัมพันธ์ของพวกคุณเป็นแบบใดกันแน่ หากคุณเพลิดเพลินกับมัน หัวเราะได้ทุก ๆ เวลาที่คู่หูตาย หรือ Game Over นั่นหมายความว่าพวกคุณสองคนยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอยู่ แต่เตือนไว้ก่อนเลยว่า ถ้าคุณระหองระแหงกันมาก่อน อย่าหวังว่าเกมนี้มันจะเป็นกาวเชื่อมความสัมพันธ์ มันคือค้อนปอนด์อันโตที่พร้อมจะทุบความสัมพันธ์ของคุณให้แหลกสลายต่างหาก
4.Left 4 Dead 2
ใครจะเชื่อว่าเกมยิงซอมบี้บ้า ๆ น่ากลัว ๆ เกมนี้จะสนุกเมื่อคุณเล่นด้วยกันหลายคน อย่างที่รู้กันอยู่แล้ว เกมจะให้คุณรับบทเป็นตัวละคร 4 ตัวที่ไม่ติดไวรัส ฝ่าไปในโลกของผู้ติดไวรัสกระหายเลือดที่คุณเรียกกันว่า “ซอมบี้” พวกคุณต้องร่วมมือกันฝ่าซอมบี้ออกไปให้ได้ ความสนุกของเกมนี้คือการร่วมมือกันสี่คนนี่แหละ ทรัพยากรในเกมมีจำกัด ทั้งปืน ทั้งยา คุณต้องจัดสรรทรัพยากรให้ดี ศัตรูเกมที่มีบางประเภทที่โจมตีคุณแล้วคุณจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทำให้เกมนี้พึ่งพา “ความร่วมมือ” มากกว่าเกมไหน ๆ ในลิสต์ ถ้าคุณต้องการจะจริงจังกับการเล่น เราแนะนำเกมนี้
5.Viscera Cleanup Detail
บางทีความสนุกของพวกคุณอาจไม่ใช่การสังหารปีศาจ ไม่ใช่การต่อยกันเอง ไม่ใช่การเล่นเป็นทหาร แต่น่าจะเป็นการเล่นอะไรชิลล์ ๆ มากกว่า เกมทำความสะอาดเกมนี้จะมอบความชิลล์นั้นให้คุณ เพราะเกมมันไม่มีอะไรเลยนอกจากการทำความสะอาด แต่สถานที่ที่คุณไปทำความสะอาด มันคือฉากของเกมต่าง ๆ ที่ถูกใช้เสร็จแล้ว ลองนึกภาพตัวเอกของเกมอะไรซักเกมก็ได้ ยิงศัตรูเลือดสาดกระจายเต็มห้องแล้วเดินไปเล่นด่านต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณนี่แหละมีหน้าที่ที่ต้องทำความสะอาดเลือดที่สาดกระจายเต็มห้องนั้น เกมไม่ค่อยมีความยากเท่าไหร่ แต่นั่นก็คือข้อดีของมัน เกมมีช่องว่างให้คุณสองคนพูดคุยกันได้ คุณอาจจะใช้เกมนี้สานสัมพันธ์ดี ๆ กับใครก็ได้ ทั้งคนที่คุณรู้จักอยู่แล้ว หรือใครก็ได้ที่คุณไม่รู้จักเลยก็ตาม