คิดไม่ถึงล่ะสิว่าเกมรุ่นปู่อย่าง Tetris จะสอนอะไรเราได้บ้าง มาครับมาล้อมวงอ่านด้วยกันว่ามีอะไรบ้างที่เราจะเรียนรู้ได้จาก Tetris
เราเองต่างก็เป็นคนธรรมดาไม่ว่าจะคุณหรือผม แต่สิ่งหนึ่งที่เรามีเหมือนกันนั่นก็คือ”ความชอบและหลงใหลในวิดีโอเกมส์” ใช่แล้วครับ เรามีงานอดิเรกที่เหมือนกัน …แต่แค่นั้นน่ะหรือ ? ไม่หรอกครับ เราต่างอยู่ในโลกใบเดียวกัน สังคมเดียวกัน และที่เรามีเหมือนกันคือความทรงจำในการเล่นเกมรุ่นคุณปู่ที่เราเรียกกันภาษาบ้านๆว่า “เตอร์ติส ( Tetris )” นั่นเอง
เกม Tetris คือเกมสุดฮิตที่ฮิตมากซะจนคนรุ่นพ่อรุ่นแม่รุ่นเราและรุ่นปัจจุบันแทบจะรู้จักกันทุกคนอย่างไม่ต้องสงสัย ( อย่างน้อยไม่รู้จักชื่อก็ต้องเคยเห็นภาพล่ะน่ะ ) เจ้าเกมนี้ถือได้ว่าเป็นแม่แบบของเกม casual ที่ฮิตกันทั่วจักรวาลเลยก็ว่าได้ คือถ้าให้เปรียบกับปัจจุบันก็คือเปลี่ยนจากภาพคนเล่น iPad แล้วเลื่อนเพชรเรียงไปเรียงมาเป็นภาพคนรุ่นพ่อรุ่นแม่นั่งเล่นเครื่องเล่นเกมพกพาใส่ถ่าน AAA สองก้อนนั่นแหละครับ
แน่นอนครับ สื่อบันเทิงทุกชนิดมักซ่อนปรัชญาและนัยยะสำคัญไว้ได้อย่างไม่ตั้งใจ หากคุณรู้ซึ้งถึงความสำคัญของพ่อได้จากภาพยนตร์ The Road ฉันใด ผมก็เรียนรู้บทเรียนชีวิตได้จาก Tetris ฉันนั้น เรามาดูกันดีกว่าครับว่าผมเรียนรู้อะไรได้บ้างจาก Tetris และมันสมควรถูกเรียกว่า “บทเรียนชีวิต” จริงหรือไม่ เกมเมอร์เป็นผู้ตัดสินครับ
1. อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
หากจะบอกว่าเกม Tetris คือการทำอย่างไรก็ได้ให้เราเคลียร์ฐานด้านล่างไปเรื่อยๆ ทำไปจนกว่าจะถึงวันที่เราทำไม่ได้และนั่นหมายถึงจุดจบของเกมแล้วล่ะก็ ข้อแรกก็เปรียบได้กับการที่คุณขยันอดออม ใช้เงินอย่างเหมาะสม เพื่อรอจังหวะที่เหมาะสม รอจังหวะที่เป็นชัยชนะและเมื่อโอกาสนั้นมาถึงคุณก็แค่ใช้มันเป็นตัวปลดเปลื้องพันธนาการ ( ความสุข , ความสบาย , ฐานะทางการเงิน , ความรัก ฯลฯ ) ของคุณนั่นเอง มันก็เหมือนกับการที่คุณ stack เจ้าตัวต่อต่างๆเป็นชั้นๆไว้ห้าหกชั้นเพื่อรอแท่งยาวลงมาเสียบป้าบเดียวเคลียร์หมดกองนั่นแหละครับ ( ถ้าคนที่อยู่ด้านการลงทุนต่างๆน่าจะพอเข้าใจและเห็นภาพมากขึ้น )
2. อย่าปล่อยดินพอกหางหมู
รูปนี้น่าจะอธิบายตัวมันเองได้ดีที่สุด ในบางครั้งชีวิตก็ไม่ได้เป็นไปดั่งตั้งใจ ในบางครั้งอุปสรรคก็เดินโผล่พรวดเข้ามาอาศัยในชีวิตเราอย่างหน้าด้านๆ และแน่นอนว่าถ้าเราปล่อยไว้นานวันจากไข่มันก็จะฟักเป็นอสรพิษร้ายที่รอวันทำร้ายเราอยู่นั่นเอง เพราะฉะนั้นอย่าครับ อย่าปล่อยให้ปัญหามันใหญ่โตและบานปลาย จัดการมันให้ไวที่สุด อย่ารอจนกว่าวันที่เราถอยหลังย้อนกลับไปไม่ได้อีกแล้ว
3. คนผอมมักเป็นที่สนใจกว่า
ให้ตายเถอะ ข้อนี้เป็นข้อที่ผมใช้เวลาตัดสินใจอยู่นานมากว่าจะเขียนลงไปดีมั้ย มีข้อไหนที่ดีกว่ารึเปล่า มันฟังดูโหดร้ายและหักหาญน้ำใจมากไปหรือเปล่า และมันจริงหรือไม่ แน่นอนครับ เราทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกันในยามที่เราเล่น Tetris ว่าเรามักจะเปิดโอกาส ปล่อยช่องว่างไว้อย่างนั้นเพื่อหวังให้จะมีแท่งยาวลงมาเติมเต็มความต้องการมากกว่าที่จะเปิดไว้ช่องกว้างๆเพื่อให้เจ้าลูกบาศก์สี่เหลี่ยมหล่นลงมาอย่างแน่นอน
ในชีวิตจริงก็เช่นกัน ข้อนี้ผมต้องออกตัวก่อนเลยว่าผมไม่ได้ฟันธงลงไป 100% ว่าระหว่างคนผอมและคนอ้วนนั้นคนผอมดูดีกว่าทั้งสิ้นทั้งปวงแต่ประการใด แต่ผมว่าถ้าคุณไม่หลอกตัวเองจนเกินไปนักหากเทียบกันแล้วในฐานะที่เท่ากัน หน้าตาที่เท่ากัน ความสามารถที่เท่ากัน ยังไงซะคนผอมเพรียวก็ได้คนหมู่มากไปครองอย่างแน่นอน ( ในกรณีที่อีกฝั่งอ้วนเป็นเตาปฏิกรณ์นะครับไม่ใช่แค่เจ้าเนื้อหรืออวบ )
4. ศึกษาความเสี่ยง
ข้อนี้อาจสอดคล้องกับข้อที่หนึ่งหากว่ามันเป็นการลงทุน ยกตัวอย่างเช่นในขณะที่คุณถือทรัพย์สินบางอย่างที่มันมีค่ามากๆและคุณกำลังรอที่จะขายในราคาที่เหมาะสม ผู้ดื้อแพร่งไม่ฟังเสียงโลก ในขณะที่สังคมเทขายแต่คุณมั่นใจว่าราคาจะขึ้นสูงได้อีก เอาล่ะ คุณตัดสินใจแล้วว่าเวลานั้นมาถึงแล้วคุณกำลังจะตัดสินใจขายเพื่อฟันกำไรสูงสุดเปรียบได้กับเตรียมป้อมปราการตัวต่อสูงยี่สิบชั้นหวังกำไรจะๆ ด้วยแท่งยาวสองอัน แต่ทว่าฟ้าเจ้ากรรมช่างไม่เมตตา ปล่อยให้โอกาสของคุณหลุดลอยหายไปเหมือนกับในภาพตัวอย่างที่เตรียมแถบด้านข้างไว้หวังทำสถิติโลกหรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้ หากว่าก้อนสีส้มด้านขวาไม่โผล่มาล่ะ ? หากว่ามันไม่ได้มีรูปทรงลูกบาศก์ที่จะไหลลงไปข้างล่างได้ล่ะ ? หากว่ามันต้องค้างด้านบนสุดล่ะ ? จุดจบหรือความคุ้มค่า ? ผมว่าข้อนี้ก็เป็นอีกหนึ่งบทเรียนในชีวิตที่ผมต้องจดจำไว้จนวันสุดท้ายเลยล่ะครับ
5. อย่ายอมแพ้จนกว่าจะช่วงเวลาสุดท้าย
ทุกช่วงเวลามีโอกาส ทุกปัญหามีทางออกเฉกเช่นเดียวกันทั้งในเกมและชีวิตจริง หากปราสาทตัวต่อสูงยี่สิบชั้นของคุณมีท่าจะถึงทางตัน หากคุณมองแล้วว่าปัญหามันซับซ้อนเกินจะแก้ไข อย่าพึ่งตัดใจครับ อย่าทำตัวเป็นพวกขี้แพ้ ปิดเกมสะบัดตูดหนีไปเพราะในความเป็นจริง คุณไม่สามารถปิดเครื่องแล้วย้ายไปเล่นชีวิตใหม่ได้ แต่คุณจะต้องอยู่กับชีวิต(หรือเกม)ปัจจุบันด้วยสัญชาติญาณ ความสามารถและวิสัยทัศน์อันหลักแหลมที่สุดท้ายแล้วจะพาคุณฝ่าวิกฤตนั้นๆไปได้…..หรือถ้าหากโชคร้ายก็ทางตันของชีวิตก็เป็นได้ครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับบทความ “5 บทเรียนชีวิตที่ Tetris สอนเรา” แถสุดชีวิต เอ้ย ! ได้ข้อคิดกันไปบ้างแล้วใช่มั้ยล่ะครับ จริงๆแล้วมีอีกมากมายครับที่ผมยังไม่ออกแต่เชื่อว่ามันแฝงอยู่ในเกมนั้นลึกๆ รอวันที่มีคนมาพบเจออยู่อย่างแน่นอน สำหรับบทความนี้ต้องจบลงเพียงเท่านั้นพร้อมกับอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญที่คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากกับ”วิชาเพศศึกษา”ครับ