เมื่อบอสไฟต์ยากเกินความจำเป็น
ทุกคนคงทราบดีว่าความยากคือตัวบ่งชี้ความสนุกสำหรับคนบางคนที่คุณรู้จักกันดี แต่มันจะสนุกได้ก็ต่อเมื่อมันยากอย่างมีศิลปะ ยากแบบที่คุณยังรู้สึกว่าคุณสู้ได้ คุณเพียงแค่ยังเก่งไม่พอ ซึ่งความยากแบบนั้นถือเป็นความยากที่ผู้เล่นโหยหาอยากเจอมากที่สุด เพราะมันช่วยเพิ่มความตื่นเต้นในการเล่นได้ดี แต่ก็ยังมีความยากอีกประเภทที่ผู้เล่นไม่ปรารถนาอยากจะเจอ มันคือความยากที่ยากแบบไร้เหตุผล ยากแบบที่แม้คุณจะเก่งกาจเพียงใด มันก็ยังยากอยู่ดี และนี่คือ “5 บอสไฟต์ที่ยากเกินกว่าจะเรียกหาความเท่าเทียม” จาก GamingDose
1.Motaro – Mortal Kombat 3
โมทาโร่คือบอสรองสุดท้ายก่อนที่คุณจะเจอกับเชาคาห์น แต่มันกลับเป็นบอสที่ “ยาก” ที่สุดของ Ladder Mode สาเหตุที่มันโกงเพราะเอ็ด บูน ผู้สร้าง ต้องการที่จะสร้างบอสที่แบบ ไม่ต้องออกลีลาอะไรมากแต่ก็น่ากลัว ก็เลยเกิดเป็นมิโนทอร์ที่เหมือนออกมาจากนรกตัวนี้ ท่าโจมตีของมันมีไม่กี่ท่า คือต่อย จับต่อย แล้วก็ยิงพลัง แต่ขอบอกว่ามันต่อยแรงมาก ! ทุกอย่างในตัวมันบังคับให้ผู้เล่นต้องเข้าคลุกวงใน แต่พอเข้าไป มันก็จะวาร์ปไปอีกฝั่งของฉาก แล้วก็วิ่งมาต่อยเราซ้ำไปซ้ำมาจนเราตาย ถ้ายืนห่างจากมันมาก ๆ มันก็จะยิงพลังเข้าใส่ เรียกได้ว่ามันคือฝันร้ายวัยเด็กของใครหลายคนเลยทีเดียว
2.Silver The Hedgehog – Sonic The Hedgehog
ถ้าจะถามว่าบอสตัวไหนน่ารำคาญที่สุดในโลกวิดีโอเกม ส่วนตัวผู้เขียนยกให้ไอ้นี่แหละ Silver The Hedgehog ไม่ใช่บอสที่มีความซับซ้อน ไม่มีท่าหลบ มีท่าโจมตีเพียงท่าเดียว แต่มันถูกยกย่องให้เป็น “บอสที่ยากที่สุดของวิดีโอเกม” ของใครหลายคน มีคนบอกผู้เขียนว่ามันยากกว่าบอสทุกตัวของ Dark Soul ด้วยซ้ำ ! ท่าโจมตีของมันคือการใช้พลังจิตตรึงคุณไว้บนฟ้า และส่งคุณลอยขึ้นไปจนเหรียญที่เก็บมาระเบิด ซึ่งถ้าจังหวะนั้นมันจับคุณได้อีกทีโดยที่คุณไม่มีเหรียญ คุณจะตายทันทีเพราะดาเมจจากการตกพื้น ทำให้บอสตัวนี้ต้องใช้ “ดวง” ปราบอย่างเดียว ฝีมือก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้
3.The Undertaker – WWE 2K14
ดิอันเดอร์เทเกอร์ใน WWE 2K14 นั้นถูกพรีเซ็นต์ไว้ว่าเขามีพลังวิเศษเหนือมนุษย์ของจริง เขาเป็นศัตรูที่ยากที่สุดเท่าที่เกมมวยปล้ำเคยมีมา โดยเขาจะอยู่ในโหมด Streak ที่คุณจะเลือกเล่นเป็นเขาหรือเลือกที่จะล้มเขาก็ได้ หากเลือกที่จะล้มเขา คุณจะต้องอดทนอย่างมาก เพราะนอกจากความสามารถทางด้านมวยปล้ำที่เขามีแล้ว เขายังมีพลังแปลก ๆ อีกมากมาย ในจังหวะสุดท้ายหากคุณกดเขาแล้วมันนับ 3 แน่ ๆ เกมจะตัดฉากให้มืดลง เขาจะวาร์ปไปอยู่ข้างหลังคุณ เตรียมที่จะใส่ Tombstone Piledriver ซึ่งถ้าหากคุณ Reverse ไม่ได้ คุณก็จะโดนกดนับ 3 แพ้ทันที แต่ถ้าคุณ Reverse ได้ The Undertaker จะกลับมาแข็งแกร่งมากกว่าในตอนที่เริ่มปล้ำ คุณจะต้องงัดกลวิธีอะไรก็ได้เพื่อล้มเขาให้ได้อีกรอบ ซึ่งมันยากมากเพราะตอนนั้นคุณคงไม่เหลือวิธีอะไรให้ใช้อีกแล้ว
4.C’Thun – World of Warcraft
เจ้า Old God ตัวนี้ “เคย” เป็นบอสที่ยากที่สุดเท่าที่จักรวาล WoW เคยมีมา มันคือบอสสุดท้ายของ Raids ที่ชื่อว่า Temple of Ahn’Qiraj ความน่ากลัวของมันมีหลายอย่าง มันสามารถกลืนผู้เล่นลงท้องได้ ซึ่งผู้เล่นที่ถูกกลืนจะตายช้า ๆ ในท้องของมัน มันยิงแสงสีเขียวที่มีอานุภาพร้ายแรงได้ มันสามารถปลดอาวุธผู้เล่นจำนวนมากโดยรอบเป็นเวลาสั้น ๆ ได้ ทำให้ในตอนแรกที่ถูกอัปเดตเข้ามา มันเป็นบอสที่ยากที่สุดในเกมอย่างไม่ต้องสงสัย แต่พอผ่านไปหลายปีเข้า ผู้เล่นก็สามารถตบมันร่วงได้อย่างง่ายดายราวกับปลอกกล้วยเข้าปาก เพราะพลังของเครื่องสวมใส่ที่สูงขึ้นนั่นเอง
5.Through the Fire and Flames – Guitar Hero 3
Through the Fire and Flames จากวง DragonForce อาจไม่ใช่แทร็คที่ยากที่สุดในเกมนี้ แต่มันคือแทร็คที่ต้องการความอดทนมากที่สุดในเกม เพราะเพลงนี้เป็นเพลงที่ยาวมาก ยาวเกือบ 8 นาที ! ในระดับ Expert เพลงนี้มีตัวโน๊ตรวมกันทั้งหมดถึง 3772 ตัว ทำให้ยากมากที่จะกดเพลงนี้ได้ 100% โดยที่นิ้วของคุณไม่เป็นตะคริวเสียก่อน ในช่วงแรกที่เกมวางจำหน่าย แทบจะไม่มีใครสามารถเล่นเพลงนี้ได้ครบทุกตัวโน๊ต แต่พอทิ้งช่วงซักพัก ก็มีหลายคนเล่นเพลงนี้ได้ 100% พูดได้ว่ามันไม่ใช่เพลงที่ยากจนอยากจะปากีต้าร์ทิ้ง แต่ต้องการการฝึกฝนและความอดทนที่สูงมากพอตัวเลยทีเดียว