GamingDose ขอเสนอบทความที่แทงใจดำแต่ปฏิเสธได้ยากถ้าจะบอกว่านี่เป็นความจริงกับ 5 ปัจจัยที่คนทั่วไปต้องส่ายหน้าเมื่อพูดถึงคนเล่นเกม
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในสังคมเราทุกวันนี้การที่จะบอกว่าผมชอบเล่นเกมเป็นเรื่องที่คงไม่ดีนัก หลายคนมักโทษสังคมว่าไม่เข้าใจเรา หลายคนมักบอกว่าเพราะพวกเขาอคติ … แต่ถ้ามองในมุมกลับแล้วล่ะก็ บางทีอาจเป็นที่เราไม่เข้าใจโลกก็เป็นได้
วันนี้ผมจะมาวิเคราะห์กันว่าเฮ้ย มีปัจจัยอะไรบ้างนะที่ทำให้เราดูไม่ดี ทำให้เราดูแย่ในสายตาคนทั่วไปเพราะเขาคงไม่ได้เบื่อคนเล่นเกมเพียงเพราะแค่เราเล่นเกมเฉยๆหรอก เอาเป็นว่ามาเริ่มกันเลยดีกว่า
*คำเตือน: บทความนี้มีคำพูดที่ทิ่มแทงจิตใจ โปรดใช้วิจารณญานและขันติ โสรัจจในการอ่านเป็นอย่างยิ่ง ไม่เหมาะสมสำหรับเกมเมอร์ผู้มีจิตใจอ่อนไหว
1. รูปลักษณ์ภายนอกดูไม่ดี
หน้าตาไม่ดี รูปลักษณ์ภายนอกเป็นสิ่งที่เราใช้ตัดสินคนอื่นในแว่บแรกที่เราเห็น เราต่างมองเพศตรงข้ามในสามวินาทีแล้วตัดสินใจได้ว่าเขาควรจะอยู่ในหมวดหมู่คนรู้จัก / เพื่อน / เป้าหมาย แน่นอนครับ คนทั่วไปก็ใช้กฏเกณฑ์เดียวกันในมองคนเล่นเกมว่าคนคนนั้นจัดอยู่ในเกณฑ์ได้ ดูไม่ได้ / ธรรมดา / ดูดี
ข้อนี้แก้ไขกันยากครับ หน้าตาดีไม่ดีมันขึ้นอยู่กับพันธุกรรม จะให้ไปตายแล้วเกิด Respawn ใหม่ก็คงไม่ได้ จะให้ไปศัลยกรรมก็ไม่ดี แต่อย่าลืมครับว่าทรงผม หนวด เคราที่เหมาะสมมันสามารถปรับเปลี่ยนลุคให้ดูดีได้ครับ
สกปรกรกรุงรัง หากคุณไม่ได้เกิดมาดูดีสูงโปร่ง จมูกโด่ง ขาวจั๊วะล่ะก็ยังไม่สายเกินแก้ครับ ผมเผ้าตัดให้เป็นทรง หนวดเคราจะไว้ก็อย่าให้รุงรัง หน้าตาผิวกายต้องสะอาดสะอ้าน เล่นเกมทั้งวันก็สละเวลามาขัดสีฉวีวรรณตัวเองให้เนี้ยบบ้าง เหมือนรถแหละครับ จะขึ้นเขาลงห้วยสมรรถนะขั้นเทพราคาเป็นล้านยังไง สกปรกชิบหาย รถสีขาวแต่ฝุ่นครอบทั้งคัน บังโคลนเขรอะกรังก็ไม่มีใครชอบครับ
บุคลิกภาพ เนื่องจากว่าในวัยเด็กหรือจวบจนถึงปัจจุบันเรามักจะใช้เวลาไปกับการนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ด้วยความสูงของโต๊ะและเก้าอี้ที่ไม่ได้สัดส่วนรวมไปถึงท่านั่งที่ไม่เหมาะสม ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นตัวแปรสำคัญที่เรามีบุคลิกภาพที่ไม่น่าชื่นชมเท่าไหร่นัก มากกว่าครึ่งของเกมเมอร์มักจะมีปัญหาเดียวกันนั่นคือเดินหลังงอ , ไหล่ตกและคอไม่ตั้งตรงโดยโน้มเอียงไปด้านหน้าซึ่งอาการดังกล่าวจะคล้ายกับท่านั่งในเวลาที่เราเล่นคอมนั่นเองครับ
2. ผลการเรียนไม่โดดเด่น
รอบตัวผมเองมีเกมเมอร์ไม่น้อยครับที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยดัง เรียนคณะสุดหินได้คะแนนดีเยี่ยม แต่ส่วนใหญ่แล้วมักไม่เป็นเช่นนั้น ลองนึกว่าระหว่างชีวิตของเด็กเรียนสุด nerd กับเกมเมอร์สุด geek ในเรื่องของความใส่ใจในการเรียน แน่นอนครับ มันเทียบกันไม่ได้เลยระหว่างภาพนักเรียนที่นั่งอ่านหนังสือก่อนนอนยามดึกกับคนที่ถล่มเกรียนอยู่ใน Battlefield 3
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามไม่ว่าจะเป็น คุณสอนไม่ดี มีปัญหากับเพื่อน ทะเลาะกับแฟน เรียนไม่ไหว ชอบไม่ตรงสาย เหตุผลเหล่านั้นจะตกไปทันทีครับถ้าคุณเล่นเกม หากคุณเป็นคนเล่นเกมแล้วพ่อแม่เ-ือกเคยชินกับภาพของคุณที่เล่นเกมเป็นประจำ ทันทีที่ผลการเรียนคุณตก คุณถูกครูด่า โดนสังคมประนามไม่ว่าจะอะไรก็ตามหากเกิดเหตุการณ์ shit happened ขึ้นล่ะก็ “เกม” จะถูกยกมาเป็นตัวการปัญหาในทันที
3. ขาด Social Skill
เกมเมอร์รอบตัวผมแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มครับกลุ่มแรกเราเล่นเกมกัน เจอกันข้างนอกก็คุยกันเรื่องอื่น ใช้ชีวิตไปกับอย่างอื่น กินเหล้า ส่องหญิง ตีหม้อกันได้ไม่ต่างกับคนทั่วไป แต่กลุ่มที่สองค่อนข้างมีปัญหาครับ กลุ่มนี้นอกจากเรื่องเกมแล้วแทบไม่มีอะไรเลยที่เขาสามารถมีกิจกรรมร่วมกับคนอื่นได้จะคุยเรื่องรอบตัวก็ไม่ไหว จะชวนสังสรรค์ก็ไม่ไป สะกิดส่องหญิงก็ไม่เอา จริงๆมันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรขนาดนั้นหรอกครับแต่เพราะพฤติกรรมแบบนี้แหละครับที่จะทำให้คนทั่วไปเกิดอาการเบื่อและไม่อยากคบค้าสมาคมด้วยส่วนเหตุผลก็แน่นอนครับว่าเขาก็จะโทษเกมเหมือนกัน และหากคุณปฏิเสธการใช้เวลาร่วมกับเพื่อนไม่ว่าจะเป็นเที่ยวเล่นหรือ hangout กินเหล้าเพื่อที่จะกลับมาเล่นเกม แน่นอนครับคุณก็จะโดนต่อว่าอีกเช่นกัน แบ่งเวลาเอานะครับ ให้ความสำคัญกับสังคมและความชอบส่วนตัวให้มันพอดีดีกว่าครับ
ในส่วนของ Social Skill นั้นอันที่จริงแล้วผมว่ามันไม่ได้หยุดอยู่แค่โลก offline ครับ แต่มันยังลามมาถึง Social Network อย่าง Facebook อีกด้วย เกมเมอร์จำนวนไม่น้อยครับที่ในแต่ละวันมันจะขยันขึ้นสเตตัสที่เกี่ยวกับเกมล้วนๆ เกมนี้ออก เกมนั้นได้คะแนนดี เกมนี้อยากได้ เกม เกม เกม เกม เกม เกม เกม ต้องยอมรับครับว่า Social Network มีความสำคัญอย่างมากในปัจจุบันโดยมันจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของคุณเองให้กับคนรอบข้าง ในต่างประเทศถึงขั้นไล่ตามอ่านสเตตัสและ Digital Footprint ใน Facebook คนที่มาสมัครงานเพื่อที่จะหาว่าคนนั้นๆเป็นเช่นไรและน่าสนใจมากน้อยแค่ไหนด้วย ถ้าจะพูดว่า Facebook เป็นดั่งอาวุธก็ไม่ผิดนักครับ มันทำให้เราได้เปรียบและมันทำให้เราเสียเปรียบได้ในเวลาเดียวกัน
4. ขาดต้นทุนทางสังคม
ต้นทุนทางสังคมในที่นี้ผมตีความเป็นสองอย่างครับ 1. เงิน 2. ชื่อเสียง เรื่องเงินคงไม่ต้องพูดถึง ไม่ว่าคุณจะเล่นเกมหรือไม่ คุณจะเป็นใครก็ไม่สำคัญ ขอให้คุณมีเงินทุกอย่างก็ happy ending ครับ ชื่อเสียง มาพูดถึงชื่อเสียงกันบ้าง ชื่อเสียงในที่นี้ไม่ได้หมายถึงคุณจะต้องเป็นคนดัง คุณจะต้องเป็นดาราภาพยนตร์ แต่ผมหมายถึงในกรณีที่ว่าหากคุณต้อง family reunion หรือเลี้ยงรุ่นแล้วเขาเกิดถามว่า “เฮ้ย ตอนนี้คุณทำมาหากินอะไร”
ต่อให้คุณเป็นนักพากษ์เกมอันดับหนึ่งของประเทศก็ตามที ผมเชื่อว่าชื่อเสียงของคุณไม่น่าดีเด่ไปกว่าการเป็นเจ้าของกิจการเล็กๆอย่างร้านกาแฟเก๋ๆด้วยซ้ำครับ เพราะอะไรน่ะเหรอ ? เพราะเขามองว่าเกมคือของเล่นสำหรับเด็ก และธุรกิจสำหรับเด็กมันไม่ได้ take serious เท่ากับพวกธุรกิจขนาดใหญ่อย่าง shipping , investment อะไรแบบนั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็โยงกลับไปสู่เรื่องเงินเช่นเดิม เพราะต่อให้คุณเป็นเจ้าของเว็บเกมแต่ถ้ารายได้เดือนเป็นแสนก็ไม่มีใครจะมาบ่นคุณเรื่องเล่นเกมอย่างแน่นอนครับ
5. เพราะคุณมันไม่เอาไหน
หากคุณอ่านมาถึงตรงนี้ก็จะควรจะเริ่มฉุกคิดแล้วว่าคุณเองตรงกับข้อไหนมั่ง ซึ่งถ้าหากคุณไม่ได้ฉุกคิดพร้อมกับรู้สึกต่อต้านสังคมและบทความนี้อยู่ล่ะก็ผมขอแสดงความเสียใจด้วยที่คุณจะเป็นคนที่ไม่เอาไหนอย่างแท้จริง การที่เป็นคนไม่เอาไหนผมคงไม่สามารถมาเรียบเรียงได้ว่าต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง การเป็นคนไม่เอาไหนมีหลายตัวอย่างครับเช่น คุณไปถามคำถามโง่ๆโดยไม่หาข้อมูลก่อนหรือแม้กระทั่งอ่านข้อมูลที่เขาให้ไว้จนครบถ้วน , คุณเอาแต่เล่นเกมจนเสียการเรียนและหน้าที่การงาน , คุณเอาแต่เล่นเกมจนไม่สนใจเพื่อนและคนใกล้ตัว คุณจะเล่นเกมหรือไม่นั้นไม่สำคัญครับหากคุณดูแลตัวเองให้ดี หากคุณมีความคิด ชาญฉลาด ไหวพริบ และมีความสามารถในการทำงาน ในการเข้าสังคม ในการใช้ความคิดและให้เหตุผลผมว่าถ้าเราไม่ได้ดูแย่ต่ำตมจนเกินไปนักก็คงไม่มีใครมาดูถูกเราที่เล่นเกมได้หรอกครับ
ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อเตือนสติเกมเมอร์ทุกคนว่าเฮ้ย ในบางครั้งเราต้องมองตัวเองก่อนนะ เราจะออกจากบ้านเข้าสู่สังคมและโลกกว้าง เราก็ต้องเตรียมพร้อมตัวเองให้ดีที่สุด ทำตัวเองให้ดีพอให้คนอื่นยอมรับ เราไม่ดีตรงไหนเราก็มาแก้ไขเท่าที่เราจะพยายามทำได้ ผมไม่อยากให้เกมเมอร์คอยนั่งด่าว่าคนไทยไม่เข้าใจเกม ผู้ใหญ่ไทยมันหัวโบราณอย่างนั้นอย่างนี้ ผมว่ามันซ้ำๆเดิมๆ cliche มากเกินไป เราอยากให้สังคมเข้าใจเรา เราก็ต้องโน้มเอียงเข้าหาสังคมก่อนด้วยเช่นกัน
ตัวผมเองก็ไม่ได้ดีเด่ไปหรอกครับ คือส่องกระจกดูนี่ผมก็มีมันทุกข้อแหละนะ แต่ผมก็พยายามทุกวันครับ พยายามที่จะทำตัวให้ดีกว่านี้ ทำให้ชีวิตมันดีกว่านี้ในขณะเดียวกันก็ไม่ลืมจิตวิญญาณของคนเล่นเกม ความทุกข์ของคนเล่นเกมไปด้วยเช่นกัน เพราะผมเชื่อว่าคนเล่นเกมก็ดูดีได้ คนเล่นเกมก็เป็นบุคคลตัวอย่างได้ไม่ต่างอะไรกับคนธรรมดาที่ไม่เล่นเกมเท่านั้นเอง…