เกมเมอร์บอกว่า ‘ถ้าหากอยากเล่นเกมที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ ให้ไปเล่นเกมเล็ก ๆ’ เพราะพวกเขาสร้างเกมขึ้นด้วยความใจโดยไม่มีธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเกมเล็กบางเกมสมควรได้รับโอกาสหรือก้าวกระโดดกลายเป็นเกมโต เพื่อทำให้เกมที่หลายคนหลงรักมีคุณภาพดียิ่งขึ้น นี่คือ 5 เกมเล็กที่อยากแปลงร่างให้เป็นเกมยักษ์ ซึ่งจะยกชื่อเกมเล็กที่สร้างขึ้นด้วยความตั้งใจจนอยากเชียร์ให้กลายเป็นเกมใหญ่ในสักวันหนึ่ง

The Banner Saga

ถ้าหากผู้เล่นกำลังมองหาเกมอินดี้คุณภาพเกือบเพอร์เฟค ไม่ว่าจะเป็นเพลงประกอบ, เนื้อเรื่องตราตรึงใจ, การนำเสนองานอาร์ทแบบกราฟิกโนเวลและฉากแอนิเมชั่น 2D ที่ผ่านคราฟต์อย่างละเอียด ก็ไม่มีทางหนีพ้นเกมซีรีส์ The Banner Saga ที่มีเนื้อเรื่องภาคต่อจนจบในสามภาค และกวาดรางวัล BAFTA มากมาย

The Banner Saga จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมและสมควรผลักดัน เกมเล็กที่อยากแปลงร่างให้เป็นเกมยักษ์ เพราะมีหลักฐานเป็นรางวัลประสบความสำเร็จมากมาย ซึ่งผู้เขียนก็คาดไม่ถึงว่าหากเกม The Banner Saga พัฒนากลายเป็นเกมระดับ AAA ขึ้นมา ตัวเกมจะมีลักษณะการนำเสนอและรักษาเอกลักษณ์งานอาร์ทที่โดดเด่นที่สุดของเกมนี้ได้อย่างไร

Road Redemption

Road Redemption เป็นตัวเกมแข่งมอเตอร์ไซค์ที่สามารถ “ฟาด” คู่แข่งธรรมดา ๆ เกมหนึ่ง กลายเป็นเกมที่ได้รับความสนใจจากผู้เล่นทุกคนเพราะเหล่าสตรีมเมอร์จนเกมมีชื่อเสียงจนถึงทุกวันนี้

เพราะทำไมหรือ ? เพราะมัน สนุก ยังไงละ! Road Redemption เป็นเกมประเภท Racing ที่มีความมันเร้าใจที่เปรียบเสมือนเป็นเกม Burnout ในฉบับมอเตอร์ไซค์ที่ผู้เล่นสามารถเทคดาวน์คู่แข่งได้หลากวิธี ไม่ว่าจะเป็นการถีบให้ล้ม, ใช้ Melee Weapon หรือแม้กระทั่งการยิงปืน Drive-By เพื่อกำจัดทุกสิ่งทุกอย่างที่ขัดขวางบนเส้นถนน หรือทำ Objective ให้ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้เพื่อปลดด่านต่อไป

แต่น่าเสียดายที่เกมเพลย์เป็นรูปแบบอาร์เคดคลาสสิก อย่างเช่นการแข่งขันเอาถ้วยเพื่อปลดด่านต่อไป หรือโหมดการแข่งขันตะลุยด่านแบบไม่รู้จบ ซึ่งเป็นระบบที่ค่อนข้างล้าสมัยพอสมควร ก็คาดหวังว่าหากทีมงานตัดสินใจพัฒนาเกม Road Redemption ภาคต่อไป ตัวเกมจะมีโหมดการเล่นที่สร้างสรรค์ขึ้น หรือนำเสนอกลายเป็นเกมใหม่ที่มีฟีเจอร์เยอะกว่าเดิม

This is the Police

นี่แหละ ชีวิตของตำรวจผู้หนึ่งที่ต้องหาเช้ากินค่ำตลอดเหมือนคนทั่วไป This is the Police เป็นเกมวางแผน-ผจัญภัยที่ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Jack Boyd ตำรวจอายุใกล้เกษียณที่เริ่มก่อการทุจริตคอร์รัปชั่นในวงการตำรวจ โดยตั้งเป้าว่าจะต้องทำเงินให้ได้ 500,000 เหรียญฯ ก่อนเกษียณเพื่อนำเงินไปใช้ในช่วงสุดท้ายของชีวิต (หากอ้างอิงจากภาคแรก)

This is the Police เป็นเกมอินดี้ที่มีเนื้อหาดราม่ากระแทกใจ, ทุกการตัดสินใจส่งผลกระทบต่อเนื้อเรื่อง, และการนำเสนอมุมมองของตำรวจทุจริตคอร์รัปชั่นทำออกมาน่าสนใจมาก แต่ผู้เขียนไม่อินกับเกมเท่าที่ควร เพราะเป็นเกมประเภทวางแผนซึ่งไม่ถูกโฉลกซะเท่าไหร่นัก ถ้าหากเกมดังกล่าวมีการผลักดันกลายเป็นเกมยักษ์ที่มีผสมผสานระหว่างเกมวางแผนกับเกมแอคชั่นดำเนินเนื้อเรื่องเส้นตรง ก็คาดว่าเกมนี้จะได้รับความสนใจมากขึ้นไม่น้อยเลย

Harvest Moon

Harvest Moon จัดว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเกมประเภท Farm Simulator ที่ผู้เล่นต้องปลูกผัก, ทำฟาร์ม, ชิลล์เอ้าท์, พูดคุยกับชาวบ้านสร้างความสัมพันธ์ หรือทำกิจกรรมสามัญประจำบ้านทั่วไป

ความจริงแล้ว เกมนี้โด่งดังมากตั้งแต่เกมภาคแรกสมัยเครื่อง Super NES และภาค Back to Nature ในแพลตฟอร์ม PlayStation 1 ที่ดังพลุแตกจนเกมเมอร์หลายคนติดงอมแงม แต่นับจากเวลาทศวรรษผ่านไป เกมซีรีส์ Harvest Moon เริ่มมีกระแสเงียบซาลงตามกาลเวลาจนผู้เล่นแทบไม่หลงนอกจากแฟนเกมตัวยงเท่านั้น (ส่วนหนึ่งมาจากกระแสของเกม Stardew Valley)

ปัจจุบัน เกม Harvest Moon ยังคงดำเนินซีรีส์ต่อไปโดยเปลี่ยนชื่อเกมเป็น Story of Seasons และทีมงาน Marvelous Entertainment เข้าถือสิทธิบัตรครอบครองไตเติ้ลเกมอย่างถูกต้องในปี 2014 สำหรับความคิดเห็นของผู้เขียน เชื่อว่าเกมตระกูล Harvest Moon สามารถทำเกมได้ดีกว่านี้ ผมอยากเห็นเกมดังกล่าวมีอะไรมากกว่าความคลาสสิกอย่างเดียว

Girls’ Frontline

ปัจจุบัน มีเกมมือถือเล็ก ๆ ที่ก้าวกระโดดกลายเป็นเกมยักษ์ได้เริ่มมีตัวอย่างให้เห็นชัดเจนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Granblue Fantasy ที่การพัฒนากลายเป็นเกม Action RPG พัฒนาโดย Platinum Games และ Granblue Fantasy: Versus เกมฉบับไฟท์ติ้งที่สร้างโดย Arc System Works หรือ Azur Lane Crosswaves ได้กลายเป็นเกม RPG ที่ผลิตโดย Comply Hearts แล้วถึงเวลาหรือยังสำหรับ Girls’ Frontline ?

Girls’ Frontline เป็นเกมมือถือประเภทวางแผน RPG โดย Mica Team ซึ่งรับแรงบันดาลใจมาจาก Kantai Collection ที่นำปืนจากชีวิตจริงมาทำเป็นตัวละครบุคลาธิษฐานโดยผู้เล่นจะรับบทเป็น ‘ผู้บัญชาการ’ ที่เกมเมอร์จะต้องคอยจัดการทรัพยากร และส่ง T-Doll ปะทะต่อสู้กับหุ่นยนต์ Sangvis Ferri ที่โดนควบคุมโดย AI ปริศนาเพื่อหวังขยายกำลังพลและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษยชาติ

อาจจะฟังดูเหมือนเป็นเกมทั่วไป แต่เกมนี้มีเนื้อเรื่องลุ้นระทึกและมีธีมดาร์กเข้มข้นระดับ 80% (อีก 20% คือสาวปืนของเกมนี้) รวมไปถึงด้วยจำนวนอาวุธที่เยอะ และ Lore ของเกมนี้มีจำนวนมากที่สามารถนำไปต่อยอดกลายเป็นเกมยักษ์ได้ไม่ยาก ผู้เขียนอยากเห็นเกมนี้กลายเป็นเกมประเภทเปิดโลกกว้าง FPS Action RPG คล้ายกับ Fallout หรือ Cyberpunk 2077 หวังเยอะไปไหมหว่า? (หัวเราะ)