หากพูดถึงเรื่องเกมแข่งรถที่ส่งเสริมมิตรภาพระหว่างเพื่อนและครอบครัวแล้วล่ะก็ ยังไงก็หนีไม่พ้นเกมตระกูล Mario Kart กันอย่างแน่นอน กับเสน่ห์แห่ง “เกมแข่งรถที่เราสามารถเก็บของมาแกล้งเพื่อนได้” ทำให้เกิดการพลิกแพลงเรื่องของอันดับกันได้ตลอดเวลา ซึ่งด้วยความที่พลิกแพลงได้ขนาดนี้ ทำให้เกมแข่งรถที่ดูน่ารักสดใสเกมนี้กลับกลายเป็นเกมที่จุดประกายไฟบนศรีษะของใครหลาย ๆ คน แต่ถึงอย่างนั้นตัวเกมก็สามารถครองใจผู้เล่นมาได้ตลอดทุกยุคทุกสมัย และประสบความสำเร็จระดับขายรวมได้เป็นร้อยล้านชุดเลยทีเดียว
และด้วยความสำเร็จของ Mario Kart นี่เอง ทำให้เกิดเกมแข่งรถแนวใหม่ที่ได้รับความนิยมในท้องตลาด โดยจะหยิบแรงบันดาลใจและเอเลเมนต์จากตัวเกมต้นตำรับและนำมาประยุกต์ด้วยวิธีการนำเสนอของตนเอง ซึ่งเราจะเรียกเกมพวกนี้ว่า “Mario Kart Clone” ที่ผู้เขียนเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเล่นเกมแข่งรถสไตล์นี้กันไม่มากไม่น้อย
เพราะฉะนั้นทาง GamingDose จึงขอนำเสนอ “5 เกมแข่งรถสไตล์ Mario Kart ที่สร้างความสนุกได้ไม่แพ้ต้นฉบับ” จะมีเกมอะไรกันบ้างนั้น เรามาดูกันเลยดีกว่าครับ
Blur
เริ่มต้นด้วยเกมแข่งรถสไตล์มาริโอ้คาร์ทที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะเวิร์ค แต่ก็เกิดขึ้นได้จริง ๆ แถมทำออกมาได้ดีมากเสียด้วย แต่ปัญหาก็คือเกมนี้กลับไม่ได้รับความนิยมระดับที่สามารถเรียกได้เต็มปากว่า “Underrated” โดยคุณลองจินตนาการเกมแข่งรถที่เราจะได้ขับรถจริง ๆ สนามจริง ๆ และบรรยากาศที่สมจริง แต่นำความเป็นมารีโอ้คาร์ทประยุกต์เขาไปดูสิ แค่คิดก็น่าสนใจแล้ว และคุณจะได้เล่นมันในเกมที่มีชื่อว่า “Blur”
Blur คือเกมแข่งรถที่เราจะได้บังคับรถจากแบรนด์จริง ๆ และสนามแข่งที่ดูสมจริงในแบบเกมแข่งรถทั่ว ๆ ไป แต่ได้การใส่ลูกเล่นในแบบของมารีโอ้คาร์ทไม่ว่าจะเป็นการเก็บของ ป้องกันพลัง และการแกล้งผู้อื่น โดยหากจะบอกว่า Blur คือ Realistic Mario Kart ก็เป็นคำนิยามที่ฟังดูไม่เลวเลยทีเดียว แต่ที่น่าเศร้าก็คือเกมนี้นั้นไม่ได้รับความนิยมและไม่สามารถหาเล่นได้บน Steam ทางเดียวที่คุณจะเล่นได้ก็คงต้องไปคุ้ยหาแบบแผ่น ไม่ก็ไปเล่นบนเครื่อง Xbox 360 ซึ่งหากผู้เขียนรู้จักเกมนี้ไวกว่านี้ก็คงได้หยิบมาลองเล่นอย่างแน่นอนครับ
Speed Drifters
มาต่อกันที่เกมใหม่ที่เพิ่งเข้าประเทศไทยได้ไม่นานมานี้ สำหรับ Speed Drifters เกมแข่งรถที่มีการหยิบเอเลเมนต์ของมาริโอ้คาร์ทและ KartRider มาประยุกต์เข้าด้วยกัน และทีเด็ดที่สุดของเกมนี้ก็คงหนีไม่พ้นความที่เป็นเกมมือถือ ทำให้ตัวเกมสามารถเข้าถึงได้เป็นจำนวนมาก โดยในตอนนี้ตัวเกมยังไม่มีระบบใด ๆ ที่เอื้อให้เกมนี้กลายเป็น Pay-to-Win มีแต่ของตกแต่งเชิง Cosmetic เท่านั้น แต่เอาเข้าจริง เราก็นึกไม่ออกอยู่ดีว่าหากจะทำเกมสไตล์นี้ให้เป็น Pay-to-win มันจะออกมาเป็นอย่างไร ? เพราะเกมเพลย์ของ Speed Drifters มันก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องอัพเกรดหรือบ้าพลังเยอะขนาดนั้น
จากที่ผู้เขียนได้ลองไปเล่นมาพักหนึ่ง ตัวเกมถือว่ามีความสนุกใช้ได้เลยทีเดียว ถึงเกมเพลย์อาจจะเล่นแล้วรู้สึกว่าอาจจะไม่ค่อยมีเอเลเมนต์ที่ดูเป็นของตนเองเสียเท่าไหร่ แต่ความสนุกและความหัวร้อนก็ทำได้ดีไม่แพ้ต้มตำรับเลย เพียงแต่ระบบเติมเงินของเกมนี้ก็จะสไตล์เกมมือถือที่จะเกลือ ๆ หน่อย แม้จะเติมไปหลักพันก็ไม่การันตีว่าจะได้ของดี แต่อย่างน้อยตอนนี้ตัวเกมก็ไม่ Pay-to-Win ทำให้ความสนุกและความหัวร้อนที่เกิดขึ้นในเกมนี้ล้วนเกิดจากความแฟร์ครับ
Sonic Racing (Series)
ส่วนตัวผู้เขียนค่อนข้างจะงงเล็กน้อยเกี่ยวกับคอนเซปต์ของเกมนี้ เพราะเอาจริง ๆ เหล่าตัวละครจากซีรี่ส์เกม Sonic the Hedgehog นั้นมีความเร็วที่มากพอจนไม่ต้องใช้รถก็วิ่งแข่งกันได้ราวกับรถแข่งด้วยซ้ำ (ก็มีแหละที่วิ่งแข่งกันอย่าง Sonic R) แต่หากมันออกมาดูดีและน่าเล่นมันก็น่าสนใจใช่น้อย ลองนึกสภาพตัวละครจากเกมโซนิคที่คุณรักมาขับรถแข่งกันดูสิ แต่คิดก็ฟินแล้วนะเนี่ย และถึงแม้ตัวเกมจะได้รับแรงบันดาลใจจากมาริโอ้คาร์ทพอสมควร แต่ตัวเกมก็มีการใส่ความเป็นของตนเอง จนไม่รู้สึกว่าลอกมาทั้งดุ้นเลย
สำหรับในยุคนี้ ตัวเลือกในการเลือกเล่นโซนิคแข่งรถที่ดีที่สุดก็คงหนีไม่พ้น Team Sonic Racing ที่กำลังมาภายในปีนี้ แต่ระหว่างที่คุณรอเกมตัวเกมภาคใหม่อยู่นั้น คุณอาจจะลองไปเล่นเกม Sonic & All Star Racing Transformed ที่มีระบบรถแปลงร่างอันแปลกใหม่ และรวมดาราจากค่าย Sega หลัก ๆ มาไว้ให้เล่นกัน และเป็นภาคที่เหล่าแฟนเกมยกให้ว่าเป็นภาคที่ดีที่สุดอันดับต้น ๆ อีกด้วยครับ
Crash Bandicoot Racing (Series)
ไม่รู้ว่าใครที่ไหนตั้งชื่อเจ้า Crash Bandicoot ไว้ว่า “หมาหมุน” แต่ก็กลายเป็นชื่อเรียกที่ติดปากสำหรับแฟน ๆ เกมนี้ไปแล้ว โดยหากใครเล่นเกมในยุคของ Playstation 1 ก็คงได้สัมผัสกับเกม Platform สุดยากและท้าทายจากทีมพัฒนา Naughty Dog อย่าง Crash Bandicoot กันไม่มากก็น้อย และแน่นอนว่าหลายคนก็ชอบ “เกมแข่งรถ” จากซีรี่ส์นี้ด้วย ด้วยความสนุกและความฮาในแบบของ Crash Bandicoot ผสานกับความเป็นมาริโอ้คาร์ทแถมยิ่งได้เล่นกับเพื่อนแล้วละก็ อือหือ… มันเป็นความทรงจำอันล้ำค่าที่ยากที่จะอธิบายจริง ๆ
ซีรี่ส์เกม Crash Bandicoot Racing ประกอบไปด้วย Crash Team Racing (CTR), Crash: Nitro Kart, Crash: Tag Team Racing และ Crash Team Racing Nitro Fueled ที่เป็นการนำภาคที่ดีที่สุดในบรรดาเกมแข่งรถจากเฟรนไชส์ Crash Bandicoot อย่าง CTR มาทำการรีมาสเตอร์ใหม่สไตล์ Acitivision ที่แทบจะทำเกมใหม่ขึ้นทั้งหมด เพราะมีคุณภาพของกราฟิกและความละเอียดสวยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยจะลงเครื่องคอนโซลยุคปัจจุบันภายในปี 2019 นี้นี่เอง ใครอยากจะย้อนวัยไปสัมผัสความทรงจำดี ๆ อันหอมหวานในอดีตฉบับขวดใหม่ก็รอเล่นกันได้เลยครับ
Chocobo Racing
เป็นอะไรที่ขาดไปไม่ได้จริง ๆ สำหรับเกมนี้ เพราะหากลิสต์นี้ไม่มีเกมนี้ติดก็คงได้มีคอมเมนต์ถามถึงกันอย่างแน่นอน กับเกมแข่งรถที่เซตติ้งในโลกของ Final Fantasy อย่าง Chocobo Racing ขวัญใจของเหล่าเกมเมอร์รุ่น Playstation 1 ที่ในไทยนั้นเป็นที่รู้จักกันมากกว่าต้นตำรับเสียอีก (แหม่) โดยเกมนี้เราจะได้ควบคุมเหล่าตัวละครมอนสเตอร์ต่าง ๆ ภายในซีรี่ส์หลัก และมาสคอตอย่าง “Chocobo” ไก่ต้มน้ำปลาที่มาพร้อมกับขนสีเหลืองอันคุ้นเคย มาแข่งรถกันในสนามแห่งความทรงจำของใครหลายคน และแน่นอนว่าตัวเกมได้รับแรงบันดาลใจจากเกมต้มตำรับอย่างชัดเจน
จริง ๆ แล้วเจ้าเกมนี้เกือบจะมีภาคต่อเป็นของตัวเองแล้วด้วย โดยมาในชื่อของ Chocobo Racing 3D และลงให้กับเครื่อง Nintendo 3DS แต่สุดท้ายก็ถูกยกเลิกการพัฒนาไป คาดว่าอาจจะติดปัญหาในเรื่องของการพัฒนา ไม่ก็อาจจะไม่อยากชนกับ Mario Kart 7 ที่ทำไว้ได้ดีมาก ๆ และลงเครื่องเดียวกัน อย่างไรก็ดีถึงแม้คะแนนรีวิวของเกมนี้อาจจะไม่ค่อยดีเด่อะไรนัก แถมยังออกไปทางแย่ด้วยซ้ำ แต่หากเป็นคะแนนในด้านของคุณค่าทางด้านความทรงจำ หลาย ๆ คน ย่อมพร้อมให้คะแนน 10/10 อย่างแน่นอนครับ
พ่อทุกสถาบัน : Mario Kart (Series)
แน่นอนว่าคงไม่มีเกมไหนที่ให้ประสบการณ์ที่ดีเท่าต้นตำรับจริง ๆ อีกแล้ว เพราะนี่คือซีรี่ส์เกม Mario Kart ผู้ซึ่งเป็นพ่อทุกสถาบันของเหล่าเกมแข่งรถแกล้งคนทั้งปวง ตัวเกมมีความสมดุลที่สุดในบรรดาเกมแข่งรถ(แบบนี้) ทั้งหมด กับระบบการแกล้งที่อยู่ในระดับที่ทำให้คนหัวร้อนแต่ไม่ถึงกับทำให้รู้สึกรำคาญเลย จะเว้นก็แต่หากคุณเป็นดาราที่เหล่ากระดองเต่าจะเทกระจาดมาเป็นคอมโบ ถึงตอนนั้นแหละหัวของคุณจะรู้สึกร้อน ๆ ก็ไม่น่าแปลกใจ (แหม่โดนรุมขนาดนั้นมันต้องมีวินแตกเสียหน่อย)
มารีโอ้คาร์ทเป็นซีรี่ส์เกมแข่งรถที่สร้างความร้างฉานและก่อให้เกิดประกายไฟบนศรีษะของเหล่าเกมเมอร์มายาวนานกว่าเกือบ 27 ปี ต่อให้เกมอื่น ๆ จะพยายามได้รับแรงบันดาลใจหรือพยายามเลียนแบบขนาดไหน ก็ไม่มีเกมไหนที่สามารถทำได้ดีเท่าต้นฉบับ ซึ่งในยุคนี้คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์แบบนี้ได้ใน Mario Kart 8 Deluxe หนึ่งในภาคที่ดีสุดของซีรี่ส์ โดยคุณสามารถหามาเล่นได้แล้วตอนนี้บน Nintendo Switch ครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ 5 เกมแข่งรถสไตล์ Mario Kart ที่สร้างความสนุกได้ไม่แพ้ต้นฉบับ โดยในลิสต์นี้เราไม่ได้ลืม Crazyracing KartRider, Angry Bird GO และ Mega Man Battle & Chase ไปแต่อย่างใด แต่เนื่องจากผู้เขียนได้ลองพิจารณาจากความสนใจของผู้เขียนเอง ก็เลยคัดมาเพียงแค่ 5 เกมที่ผู้เขียนให้ความสนใจและชื่นชอบเป็นการส่วนตัว อย่างไรก็ดีไม่ว่าตัวเกมจะได้รับแรงบันดาลใจหรือตัวเกมจะลอกมากมายเพียงใด แต่นี่ก็เป็นอะไรที่มหัศจรรย์จริง ๆ ว่าทำไมเกมแข่งรถสไตล์นี้ถึงกลายเป็นที่ยอดนิยมไม่แพ้เกมแข่งรถ Arcade หรือ Simulation และกลายเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำของเหล่าเกมเมอร์หลาย ๆ คน ซึ่งทั้งหมดนี้เราต้องยกเครดิตให้กับเกมเหล่านี้และเกมต้นตำรับแห่งความหัวร้อนและทำลายมิตรภาพครับผม