BY Zreast
13 Aug 21 8:31 pm

แนะนำทีวี 5 รุ่นเน้น ๆ สำหรับเล่นเกมคอนโซลในยุคปัจจุบัน

2,416 Views

สำหรับเกมเมอร์สายคอนโซล ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทีวีถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญ ที่จะมาเติมเต็มความบันเทิง และทำให้ได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีในยามพักผ่อน

แต่ด้วยปัจจุบันที่มีทีวีให้เลือกอยู่มากมาย รวมถึงเทคโนโลยีสุดล้ำยุคที่มีชื่อเรียกแตกต่างกัน ก็อาจจะทำให้หลายคนสับสนอยู่บ้างว่าจะต้องเลือกเครื่องไหน จึงจะได้ฟังก์ชันที่เหมาะสมสำหรับการเล่นเกมแบบจริง ๆ และคุ้มค่ากับงบประมาณที่มี

ในโอกาสนี้ เราจึงหยิบเอาทีวี 5 รุ่นที่น่าสนใจมาแนะนำ เรียงตามช่วงราคาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นไปจนถึงรุ่นท็อป หากใครที่เป็นเจ้าของเครื่องเกมคอนโซล และกำลังมองหาทีวีคู่ใจสักตัวอยู่ ก็ลองชมเพื่อประกอบการตัดสินใจกันได้เลย

รุ่นเริ่มต้น : ราคาประหยัด แต่ฟีเจอร์แน่น

Hisense E7G

สำหรับ Hisense ถือเป็นแบรนด์ทีวีที่เข้ามาตีตลาดไทยได้สักพักแล้ว และได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานชาวไทยเป็นอย่างดี โดยมีจุดเด่นในเรื่องของตัวสินค้าที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ ในราคาที่ทุกคนสามารถเอื้อมถึงได้

Hisense E7G เป็นทีวีที่ตอบโจทย์ที่สุดในช่วงราคาเริ่มต้น และมีมาตรฐาน QC ที่ดีพอสมควรจากโรงงาน ขณะที่ตัวทีวีก็มีระบบ Android TV มาให้เสร็จสรรพ ทำให้หายห่วงเรื่องแอปพลิเคชันความบันเทิง เพราะมีมาให้หมดไม่ว่าจะเป็นบริการสตรีมมิ่งใด ๆ ก็ตาม

ในด้านการเล่นเกม ตัวนี้สามารถตอบโจทย์ความละเอียด 4K แบบเปิด HDR ได้ รวมถึงมีอัตราการรีเฟรชสูงสุด 60 Hz เพียงพอต่อการเล่นเกมแบบ 60fps ทั้งจาก PlayStation 5, PlayStation 4, Xbox Series X|S และ Xbox One

อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือทีวีตัวนี้จะได้ Dolby Vision ซึ่งเป็นรูปแบบ HDR ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะกับบรรดาแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง Netflix, Disney+ Hotstar ในขณะที่ตัวเครื่องคอนโซลเองก็จะมี Xbox Series X ที่สามารถส่งสัญญาณภาพมาได้ในโหมดนี้

E7G จึงถือเป็นทีวีที่เพียงพอต่อการเล่นเกมคอนโซลในเจนปัจจุบัน มีหลายขนาด หลายราคาให้เลือกกันตามความพอใจ ขึ้นอยู่กับว่าสถานที่พักอาศัยจะเหมาะกับทีวีในจอขนาดใด

จุดเด่น

  • รุ่น Budget สุดคุ้ม เหมาะสำหรับผู้มองหาทีวีเริ่มต้นที่เล่นเกมแบบ 4K 60fps ได้
  • มี Android TV และ Chromecast ให้ในตัว
  • เป็นทีวีที่รองรับ Dolby Vision ได้ในราคาที่ถูกมาก
  • ประกันแบบ On-site Service ที่ขึ้นชื่อเรื่องการบริการ

จุดสังเกต

  • เมื่อเทียบภาพที่ได้กับ Hisense อีกรุ่นใกล้เคียงอย่าง EU7F จะด้อยกว่าเล็กน้อย
  • ยังเป็น Android TV เวอร์ชัน 9 อยู่ ซึ่งตามหลังทีวีรุ่นอื่นในตลาด

ราคาล่าสุด : 9,808 บาท (43 นิ้ว) / 11,508 บาท (50 นิ้ว) / 13,808 บาท (55 นิ้ว) / 15,380 บาท (58 นิ้ว) / 18,708 บาท (65 นิ้ว) / 23,468 (70 นิ้ว)

ตัวเลือกอื่น ๆ : Hisense EU7F – รุ่นนี้จะไม่มี Android TV มาให้ แต่รันผ่านระบบปฏิบัติการ VIDAA U 3.0 แทน ทำให้อาจจะต้องหากล่อง Android TV มาต่อเพิ่มเติม แต่สำหรับใครที่ต้องการเน้นเพียงแค่จะเอามาเล่นเกม ก็เลือกซื้อได้เลยตามความสะดวก

รุ่นกลาง : เล่นเกมได้ที่ความละเอียด 4K และ 120fps

Samsung Q80T

หนึ่งในทีวีที่ฮอตฮิตที่สุดของปี 2020 ที่ผ่านมา ด้วยความคุ้มค่าคุ้มราคา และสเปคที่ถูกจัดมาให้แบบสมเหตุผล พร้อมสำหรับการใช้งานจริง

ตัวทีวีเป็นแบบ Full Array ที่มีฟังก์ชัน Local Dimming ช่วยคุมระดับความดำให้ดียิ่งขึ้น พร้อมให้ภาพที่สดขึ้นอีกระดับตามสไตล์ของทีวี QLED นอกจากนี้ก็ยังผ่านมาตรฐาน Ultra HDR Premium อีกด้วย ซึ่งถือเป็นมาตรฐานสุดโหดของวงการ ทำให้ทีวีตัวไหนที่ได้มาก็การันตีถึงความยอดเยี่ยมของภาพได้เป็นอย่างดี

ไม้เด็ดของ Samsung Q80T ก็คือนอกเหนือจากคุณภาพแล้ว ก็ยังมีช่อง HDMI 2.1 มาให้ 1 ช่อง ที่ช่วยให้เล่นเกมได้แบบ 4K 120fps ทำให้ดึงประสิทธิภาพของคอนโซล Next-gen มาใช้ได้เต็มที่ที่สุดสำหรับเกมที่มีอยู่ในตลาด ณ ตอนนี้

Q80T ยังมีฟังก์ชันของทีวีตัวท็อปใส่มาให้อีกด้วยจำนวนหนึ่ง ตัวอย่างเช่น Multi View ที่สามารถจะแบ่งจอออกเป็นหลายส่วนได้ ใครที่อยากลองสัมผัสประสบการณ์เล่นเกมจอหนึ่ง เปิดอย่างอื่นดูอีกจอหนึ่ง ก็สามารถทำได้กับทีวีตัวนี้

จุดเด่น

  • ให้ภาพความละเอียด 4K ได้ที่ 120fps เต็มประสิทธิภาพของเครื่อง PS5 และ Xbox Series X

จุดสังเกต

  • เป็นรุ่นของปี 2020 ที่ขายดีจนปัจจุบันหาซื้อได้ยากแล้ว เพราะแทบไม่เหลือใน Stock ร้านใดเลย

ราคาล่าสุด : 33,990 บาท (55 นิ้ว) / 44,990 บาท (65 นิ้ว) / 84,990 บาท (75 นิ้ว) / 139,990 บาท (85 นิ้ว)

ตัวเลือกอื่น ๆ : ไม่มี – สำหรับรุ่นต่อของตัวนี้ในปี 2021 คือ Samsung Q80A ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้นำเข้ามาวางขายในไทย

Sony BRAVIA XR X90J

ทีวีคู่บุญที่เกิดมาเพื่อ PlayStation 5 ประจำปีนี้ และถือเป็นรุ่นที่อยู่ในตัวเลือกแรก ๆ ของเกมเมอร์ชาว PlayStation เพราะทาง Sony ก็นำรุ่นนี้มาวางขายคู่กับตัวเครื่องเอง แทนที่จาก Sony X9000H ของเมื่อปีที่แล้ว

ฟังก์ชันที่เครื่องนี้มีอยู่ ถือว่าตอบโจทย์กับประสิทธิภาพของตัวเครื่อง PlayStation 5 มาก อีกทั้งยังอยู่ในช่วงราคาที่ไม่แพงเกินไป ใครที่อยากได้ประสบการณ์การเล่นเกมขั้นสุดบนแพลตฟอร์มนี้ X90J ก็คืออีกหนึ่งคำตอบ

สำหรับชิปประมวลผล XR Processor ของเครื่อง ก็ถือว่าเป็นตัวเทพแห่งปี ที่ให้ภาพดูมีมิติ และช่วยในเรื่องของ Local Dimming ที่สามารถจะหรี่หลอดไฟ LED ในจุดที่ควรจะมืดได้แบบเป็นโซน ๆ ผลที่ได้จึงทำให้ทีวีเครื่องนี้ สามารถคุมความดำได้ดีกว่าทีวี LED ทั่ว ๆ ไปมาก

นอกจากนี้ X90J ยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Google TV ซึ่งถือว่าปรับปรุงมาจาก Android TV แล้ว และทำให้ไหลลื่นขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นประสบการณ์ใช้งานโดยทั่วไปของเครื่องนี้ก็จัดว่าดีเยี่ยม ไม่แพ้กับในตอนที่เล่นเกมเลยทีเดียว 

จุดเด่น

  • เป็นทีวีลูกหม้อของ Sony และ PlayStation โดยเฉพาะ ออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับ PS5 ได้เป็นอย่างดี
  • ได้ชิปเซ็ตตัวเทพ และระบบปฏิบัติการใหม่อย่าง Google TV

จุดสังเกต

  • มีปัญหากับเครื่อง Xbox Series X ตรงที่ไม่สามารถเปิด Dolby Vision กับ 120fps พร้อมกันได้
  • มุมมองภาพยังไม่กว้างมาก

ราคาล่าสุด : 34,990 บาท (55 นิ้ว) / 42,990 บาท (65 นิ้ว)

ตัวเลือกอื่น ๆ : Sony Bravia X9000H – เป็นรุ่นที่ขายพ่วงกับ PlayStation 5 ของปีก่อนหน้านี้ ซึ่งเล่นเกมได้แบบ 4K 120fps เหมือนกัน

รุ่นท็อป : มีพอร์ต HDMI 2.1 ทั้ง 4 ช่อง พร้อมเทคโนโลยีรองรับอนาคต

LG C1

เมื่อพูดถึงทีวี OLED สำหรับชาวเกมในนาทีนี้ ก็เห็นจะหนีไม่พ้น LG ที่โดดเด่นมาตั้งแต่รุ่น C9, CX จนมาถึงปีล่าสุดคือ C1 ซึ่งก็ยังคงให้คุณภาพได้ระดับท็อป และนับว่าเป็นทีวีตัวจบสำหรับจอ OLED 4K อย่างแท้จริง พร้อมให้ใช้งานได้ไปยาว ๆ

ตัวเครื่องให้ Port การเชื่อมต่อ HDMI 2.1 มาทั้ง 4 ช่อง ซึ่งก็หมายความว่าไม่จำเป็นต้องเลือกเสียบเข้ากับเครื่องคอนโซลให้วุ่นวาย เพราะไม่ว่าจะช่องไหน ๆ ก็ให้ประสิทธิภาพได้เต็มที่ พร้อมสำหรับการเล่นเกม 4K ที่ 120fps แล้ว

นอกจากนี้ก็ยังรองรับเทคโนโลยี NVIDIA G-Sync และ FreeSync สำหรับต่อกับ PC เพื่อเล่นเกมได้แบบไม่มีอาการภาพฉีก และไม่ว่าจะกับแพลตฟอร์มไหน ๆ ก็สามารถให้ค่า Input Lag ที่น้อยสุด ๆ เพียงแค่ประมาณ 12 ms เท่านั้น เรียกว่าตอบสนองได้แทบจะทันทีเลย ในด้านของการควบคุมเกม

แน่นอนว่าพอเป็นทีวี OLED ตัวท็อป เครื่องนี้จึงโดดเด่นเรื่องการให้ภาพที่ดำสนิท และยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถแสดงเอฟเฟคต์แสงสีในที่มืดได้อย่างสวยงาม ไม่ฟุ้งกระจาย หรือถ้าหากว่าใครไม่ชอบภาพที่มืดจนเกินไปเวลาเล่นเกม ก็มีฟีเจอร์อย่าง Black Stabilizer มาให้ปรับตั้งค่า ช่วยเปิดเผยรายละเอียดในฉากที่มืด ๆ เพื่อสร้างความได้เปรียบเวลาเล่นเกมได้

ทั้งหมดนี้ จึงทำให้ LG C1 เป็นชื่อแรก ๆ ที่ทุกคนต่างแนะนำ สำหรับใครที่อยากจะมองหาทีวีเล่นเกมที่สามารถให้ประสบการณ์ได้แบบเต็มที่ และยืนหนึ่งในวงการไปได้ยาว ๆ อีกหลายปี

จุดเด่น

  • สีสันสวยงามในสไตล์ของจอ OLED
  • ให้ความดำสนิทขั้นสุด เก็บขอบภาพเรียบเนียน ไม่มีอาการแสงฟุ้งปรากฏให้เห็น

จุดสังเกต

  • มีรายงานว่าพบปัญหากับเครื่อง Xbox Series X ไม่สามารถเปิด Dolby Vision กับ 120fps พร้อมกันได้

ราคาล่าสุด : 41,990 บาท (48 นิ้ว) / 58,990 บาท (55 นิ้ว) /  84,990 บาท (65 นิ้ว) / 119,900 บาท (77 นิ้ว)

ตัวเลือกอื่น ๆ : LG CX – เป็นรุ่นก่อนหน้านี้ที่ขายเมื่อปี 2020

Samsung Neo QLED QN900A

อีกหนึ่งทีวีระดับท็อปสุดของปี 2021 ที่รอบนี้ Samsung ยกเครื่องเทคโนโลยีใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนไปใช้หลอดไฟ “Quantum Mini LED” ที่เล็กลงมากกว่าหลอดของทีวี LED เดิม ๆ หลายสิบเท่า ซึ่งยิ่งหลอดไฟมันเล็ก ก็ช่วยให้คุมระดับความดำได้ดี และลดอาการแสงรั่วลงไปแบบหายเป็นปลิดทิ้ง

สำหรับ Neo QLED QN900A รุ่นนี้เรียกว่าสุดทุกด้าน ให้ภาพความละเอียดถึง 8K พร้อมทั้งชิปเซ็ตตัวเทพ ที่ช่วยในเรื่องของการอัปสเกลภาพขึ้นมา ทำให้แม้ว่าเครื่อง PS5 หรือ Xbox Series X จะให้ภาพได้ที่ 4K แต่ก็จะถูกประมวลผลใหม่จนทำให้เห็นเป็นความละเอียด 8K ได้แบบคมชัดถึงใจ

QN900A คือทีวี “Neo QLED” ที่ต่อยอดความโดดเด่นของทีวี QLED เดิม ๆ ในเรื่องความสดของสีสัน และสว่างสู้ทุกสภาพแสง ทำให้แม้จะเปิดม่านรับแดดจากข้างนอก ภาพที่ได้ก็ยังคมชัด ที่สำคัญคือเมื่อเป็นทีวีที่ใช้หลอดไฟแบบนี้แล้ว ก็จะไม่เจอกับอาการจอ Burn-in ที่เป็นปัญหากวนใจของผู้ใช้ OLED แต่อย่างใด 

สำหรับใครที่ชื่นชอบสไตล์ภาพแบบสีสันจัดจ้าน ก็มองตัวนี้ไว้เป็นลำดับแรกได้เลย เพราะซื้อแล้วรับรองว่านอนหลับสบาย มีสเปคเทพเผื่อไว้ใช้งานได้ยาว ๆ จนขนาดที่ว่าเครื่องคอนโซลเปลี่ยน Gen ไปแล้ว ก็อาจจะยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทีวีเลยด้วยซ้ำ

จุดเด่น

  • ให้ปริมาณสีได้แบบขั้นสุด ใกล้เคียงกับมาตรฐานโรงภาพยนตร์
  • สว่างสู้แสง เปิดหน้าต่างเพื่อรับชมคอนเทนต์ที่ต้องการได้ทุกสภาพแวดล้อม
  • ให้ฟังก์ชันการใช้งานมาแบบเกินพอ จะดูหนัง เล่นเกม หรือทำมันพร้อม ๆ กันก็ยังได้ ด้วยฟีเจอร์แบ่งจออย่าง Multi View
  • Input Lag น้อยมาก ไม่เจออาการหน่วงจากการควบคุมเกม
  • ชิปประมวลผลระดับท็อปของตลาด อัปสเกลภาพเกมได้สวยงามและถูกต้อง

จุดสังเกต

  • ยังคุมระดับความดำได้ไม่สนิท 100% เมื่อเทียบกับจอ OLED

ราคาล่าสุด : 129,990 บาท (65 นิ้ว) / 209,990 บาท (75 นิ้ว) / 329,990 (85 นิ้ว)

ตัวเลือกอื่น ๆ : Samsung Neo QLED QN90A – เป็นรุ่นที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน แต่เป็นจอแบบ 4K ซึ่งราคาก็จะถูกลงมาก และมีขนาดจอให้เลือกหลากหลายกว่า

อ่านเพิ่มเติม : 10 สิ่งที่ควรดูก่อนเลือกซื้อทีวีเพื่อการเล่นเกมในปี 2021

Satthathan Chanchartree

ฟ่าง - Content Writer

Back to top