เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ทาง Nintendo ได้มาพร้อมกับข่าวดีแบบช็อคโลกที่จะมีผลกระทบและอิทธิพลอย่างแน่นอนต่อวงการการทำคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็น สตรีมเมอร์ แคสเตอร์ ยูทูปเบอร์ หรือคำอื่น ๆ ที่ใช้นิยามเรียกผู้คนเหล่านี้ นั้นก็คือ “การประกาศยกเลิก Nintendo Creator Program” และเปิดอิสระให้เหล่าครีเอเตอร์สามารถหยิบเกมของทางปู่นินไปเล่นได้โดยสามารถสร้างรายได้ได้อย่างเต็มรูปแบบ และมีข้อจำกัดที่ลดลงจากเดิมเป็นอย่างมาก
โดย Nintendo Creator Program กำลังจะถูกปิดตัวลงช่วงสิ้นเดือนธันวาคม 2561 (ถึงตอนที่บทความนี้ลงก็น่าจะยกเลิกแล้ว) และหน้าเว็บจะปิดตัวในช่วงเดือนมีนาคม 2019 เป็นการถึงคราวอวสานของนโยบายที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาให้กับเหล่าครีเอเตอร์มาเป็นอย่างเวลายาวนาน เพราะพวกเขาจะสามารถหยิบเกมมาเล่นได้อย่างอิสระเสรีแล้ว
แล้วผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ล่ะ ? จะมีอะไรกันบ้างนะที่จะเกิดขึ้นหลังจากนโยบายและโปรแกรมสุดเหี้ยมนี่ถูกยกเลิกไป ? ทาง GamingDose จะพามาดูผลกระทบที่เป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นกัน ซึ่งจะมีอะไรกันบ้างนั้น เรามาดูกันเลยดีกว่าครับ
Nintendo Creator จะมีแรงกำลังใจในการทำคอนเทนต์ที่มากขึ้น
อย่างแรกเลยก็คงหนีไม่พ้นกับบรรดาเหล่าครีเอเตอร์ที่เล่นเกมจากทาง Nintendo เป็นหลักอยู่แล้ว ซึ่งเดิมทีแล้วนั้นพวกเขาได้ทำไปเพราะแรงศรัทธาและความรักที่มีต่อตัวปู่นินล้วน ๆ และนัั่นเป็นเหตุว่าทำไมพวกเขาจึงได้เผยแพร่วิดีโอเกมปู่ลงแชแนลของตนเอง ทั้ง ๆ ที่แทบจะไม่ได้รายได้อะไรเลย โดยพวกเขายังจะต้องลงทะเบียนกับกับเจ้าโปรแกรมสุดเหี้ยมนี้ที่มีข้อจำกัดและหักเปอร์เซนต์เข้าไปอีก แต่ก็เพื่อให้พวกเขาสามารถเล่นเกม Nintendo ได้โดยที่ไม่โดนเล่นงานจากทางปู่นินเอง
ส่วนแฟนบอยของ Nintendo ที่เป็นครีเอเตอร์นั้นมีเยอะขนาดไหน หากนับทั่วโลกก็ถือว่ามีไม่น้อยเลยนะครับ แถมหลาย ๆ คนก็มีชื่อเสียงโด่งดังด้วย โดยเฉพาะกับ EtikaNewsNetwork, ZackScottGames และ chuggaconvoy ที่เรียกได้ว่าน่าจะเป็น YouTuber ฝั่ง Nintendo ที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ กันเลย ซึ่งก็เพราะว่าเกมของ Nintendo ถือได้ว่าเป็นอะไรที่ได้รับความนิยมที่สูงมากในระดับสากล
แต่เมื่อเจ้าโปรแกรมสุดเหี้ยมนี่ได้ถูกยกเลิกไป สิ่งที่ตามมาก็คือพวกเขาจะสามารถสร้างรายได้จากคอนเทนต์ของพวกเขาได้อย่างไม่มีปัญหาอีกต่อไป แถมยังเพื่มขอบเขตในการนำเสนอวิดีโอของพวกเขาให้กว้างขึ้นไปอีก และรายได้ก็จะไม่มีการหักเปอร์เซนต์อีกต่อไป เรียกได้ว่าเหล่าครีเอเตอร์ที่เล่นเกมของทางปู่นินเป็นหลักทั้งในไทยและต่างประเทศก็คงมีกำลังใจที่จะทำคอนเทนต์เพื่อเกมที่เขารักต่อไปอย่างแน่นอนครับ
Creator ชื่อดังจะเริ่มสนใจและนำเกมของ Nintendo มาเล่นกันมากขึ้น
เป็นปัญหาที่เราน่าจะสงสัยกันไม่น้อย ว่าทำไมเหล่า Creator ดัง ๆ ไม่ค่อยสนใจที่จะเล่นเกมของ Nintendo ลงแชนแนลของพวกเขา ซึ่งเรื่องนี้จะมีเรื่องของรสนิยมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะก็ไม่ใช่ทุก ๆ คนที่ชอบเล่นเกมของ Nintendo แต่อีกปัญหาสำคัญที่ทำให้เหล่าครีเอเตอร์ชื่อดังไม่ค่อยหยิบเกมของทางปู่นินเล่นนั้น บางทีก็อาจจะมาจากเรื่องปัญหาเรื่องของรายได้ล้วน ๆ ครับ
เพราะว่าหากคุณไม่ได้สมัคร Nintendo Creator Program ล่ะก็ คุณจะมีโอกาสโดนหักเงิน 100 เปอร์เซนต์จากวีดีโอของคุณ โดยการฟ้องลิขสิทธิ์อย่างเบา ๆ ซึ่งถึงแม้คุณลงทะเบียนเจ้านี่แล้วก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหานี้เกิดขี้นเสียทีเดียว เพราะยังไงก็มีโอกาสโดนหักอยู่ดี ซึ่งนโยบายอะไรแบบนี้กับเหล่าครีเอเตอร์ชื่อดังนั้นถือว่าเป็นอะไรที่ไม่คุ้มและค่อนข้างเสียแรงเสียเวลาเปล่า ๆ
แต่ถ้าหากเจ้าโปรแกรมสุดเหี้ยมนี่ได้ถูกยกเลิกไป แน่นอนครับว่าเราจะได้เห็นคอนเทนต์เกมค่ายปู่นินจากเหล่าครีเอเตอร์ชื่อดังที่คุณติดตามกันมากขึ้นอย่างแน่นอน และนั้นจะนำมาสู่ผลกระทบเชิงบวกสำคัญในหัวข้อต่อไปครับ
บุคคลทั่วไปจะเริ่มรู้จักกับเกมของ Nintendo อย่างแพร่หลายและมากขึ้น
ต่อเนื่องจากหัวข้อที่แล้วกันเลย ในเมื่อเหล่าครีเอเตอร์เริ่มหยิบเกมของ Nintendo มาเล่นกันมากขึ้น สิ่งที่จะตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้เลยแน่นอนก็คือเหล่าบุคคลทั่วไป เหล่าเกมเมอร์ทั่วไป และเหล่าเกมเมอร์สายดูจะได้รู้จักกับเกมของทางปู่นินกันมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน จากเดิมที่เกมของ Nintendo มักจะไม่เป็นที่รู้จักสำหรับเกมเมอร์ทั่วไปและเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์
แต่ถามว่าการที่มีคนรู้จักเกมของ Nintendo มากขึ้น แถมยังมีเหล่า Creator มาเล่นให้ดูขนาดนี้แล้ว จะทำให้ยอดขายของเกมเพื่มขึ้นไหม ? คำตอบก็คือสำหรับในแง่ของเกมค่าย ปู่นินแล้วนั้นถือว่ามีผลบวกและเป็นผลดีต่อยอดขายครับ
เพราะเนื่องจากว่าเกมของ Nintendo จะเน้นการออกแบบ Gameplay เป็นหลัก ทำให้เกมของพวกเขาต่อให้ดูคนอื่นเล่นมาขนาดไหนก็จะไม่สนุกเท่ากับการที่เราได้เล่นและสัมผัสด้วยตัวเอง ซึ่งด้วยเหตุผลเหล่านี้ การที่เหล่า Creator มาเล่นเกมของ Nintendo ให้เราดูนั้น ยิ่งหากเราสนใจเกมเหล่านั้นอยู่แล้ว มันก็ไม่ได้ต่างจากการโดนป้ายยาให้ไปซื้อโดยฉับพลันดี ๆ นี่เองครับ (ฮ่า ๆ)
แต่คอนเทนต์ No Commentary ของเกม Nintendo จะหายไป
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการยกเลิก Nintendo Creator Program นั้นจะทำให้เราสามารถทำคอนเทนต์ของเกมค่าย Nintendo ได้อย่างอิสระเสรี เพราะ Nintendo ยังคงออกข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างอยู่ แต่เอาเข้าจริงแล้วคุณไม่ต้องกลัวไป เพราะข้อจำกัดเหล่านี้ก็ถือว่าเป็น Common Sense ที่ Creator หลาย ๆ คนควรทำอยู่แล้ว และหนึ่งในนั้นก็คือ “การห้ามทำคอนเทนต์แบบ No Commentary” ครับ
คอนเทนต์แบบ No Commentary คือคอนเทนต์เกมที่ไม่มีการพากย์ใด ๆ ทั้งสิ้น โดยส่วนใหญ่คอนเทนต์แนวนี้มักจะเป็นที่ชอบเป็นเฉพาะกลุ่ม เพราะเราไม่ต้องไปได้ยินเสียงเหล่า Creator มาพากย์ให้เสียอรรถรสในการรับชม เรียกได้ว่าเป็นมิตรแท้เกมเมอร์สายดูอย่างแท้จริง ซึ่งที่ทาง Nintendo ได้ห้ามไม่ให้ทำคอนเทนต์แบบนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องของ “ความคิดสร้างสรรค์” ที่เราต้องยอมรับกันว่าของแบบนี้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ที่น้อยกว่าคอนเทนต์แบบ Commentary มาก และ Nintendo ก็ต้องการที่จะทำให้เหล่า Creator ได้สร้างสรรค์คอนเทนต์ด้วยความคิดและไอเดียของตนเองอีกด้วย
ซึ่งข่าวดีก็คือ ไม่ใช่คอนเทนต์ No Commentary ทุกตัวที่จะโดนทาง Nintendo ห้าม เพียงแต่คุณจะต้องใส่ความคิดสร้างสรรค์เข้าไปเสียหน่อย ยกตัวอย่างเช่นคอนเทนต์แนว Speedrun, Challenge, No-Hit โดยหากนึกไม่ออกก็ขอให้ลองไปหาแชแนลต่างประเทศอย่าง StealthGamerBR หรือ Gellot มารับชม หรือหากคุณมีทักษะในการตัดต่อวีดีโอ คุณก็จะต้องใช้เทคนิคและลูกเล่นในการทำวีดีโอ No Commentary ของคุณให้ดูน่าสนใจและดูไม่ดิบจนเกินไป ซึ่งหากคุณมีความคิดสร้างสรรค์และมีความตั้งใจจริง ๆ คุณก็จะยังคงทำคอนเทนต์ No Commentary กับเกมของ Nintendo ได้อยู่อย่างไม่มีปัญหาครับ
และรวมถึงพวกเล่นเกม Nintendo แบบละเมิดลิขสิทธิ์ลงแชนแนลอีกด้วย
นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ดราม่าที่สุดสำหรับการยกเลิกกฏ Nintendo Creator Program เลยก็ว่าได้ แต่เราก็ต้องหยิบมาพูด เพราะถึงแม้ทาง Nintendo จะยกเลิกกฏนี้ไป แต่ก็อย่าได้คิดว่าคุณจะสามารถเล่นเกมเถื่อนลงแชนแนลหรืออัพลงสื่อของคุณได้ เพราะคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาเปรียบเหล่าครีเอเตอร์ที่ลงทุนซื้อเกมแท้ซื้อเครื่องแท้ของ Nintendo มาเพื่อเล่นและอัดให้เหล่าผู้คนได้รับชม
ไม่มีใครที่อยากจะปล่อยให้เกมของพวกเขาให้ตกในมือของโจรและทำเงินโดยที่พวกเขาไม่ได้เงินซักบาท แต่ที่ปล่อย ๆ กันเพราะพวกเขาขี้เกียจที่จะทำหรือทำไปก็เสียเวลาเปล่า ๆ และนี่ถือว่าเป็น Common Sense ของวงการการสร้างสรรค์ผลงานที่ไม่ว่าจะเป็นค่ายเกมไหนก็คงไม่ยอมกันทั้งนั้น หากคุณอยากจะเล่นเกมของ Nintendo ลงแชนแนลเพื่อที่จะสร้างรายได้ คุณก็จะต้องลงทุนลงแรงเพื่อให้ได้มันมา (มันไม่ได้เป็นกับแค่ Nintendo มันเป็นกับทุกค่าย) ถึงแม้มันอาจจะเป็นการลงทุนที่แพงเสียหน่อย แต่ถ้าหากสิ่ง ๆ นั้นเป็นเกมที่คุณรักแล้วนั้นยังไงก็คุ้มค่าอย่างแน่นอนครับ
เพราะต่อให้คุณไม่โดน Nintendo เล่นงาน แต่หากคุณยังคงเล่นเกมเถื่อนลงแชแนลให้เหล่าผู้คนดูแล้วล่ะก็ คุณก็จะโดนการลงโทษทางสังคมแทนอยู่ดี และพอถึงเวลาแล้ว คุณจะสามารถที่จะรับแรงกดดันที่คุณได้สร้างขึ้นมาเองได้รึเปล่าล่ะ ? ลองเก็บไปคิดกันดูนะครับ
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 5 สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกฏ Nintendo Creator Program ได้ถูกยกเลิกไป จะเห็นได้ว่าผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นนั้นถือว่าเป็นแง่บวกอย่างชัดเจน เรียกได้ว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ทาง Nintendo ได้ใจเกมเมอร์และเหล่า Creator ไปเต็ม ๆ เลย ซึ่งบางข้อนั้นทางผู้เขียนก็ได้ให้ไกด์ไลน์ไว้ด้วยสำหรับผู้ที่เล็งที่จะทำคอนเทนต์สำหรับเกมของ Nintendo อยู่ด้วย ก็ลองเอาไปทำตามดูได้นะครับ และขอให้เหล่าครีเอเตอร์ทุกท่านโชคดีกับการมอบความสนุกให้แก่คนดูด้วยเกมแห่งความสุขจากทาง Nintendo นะครับ