ข้อคิดมากมายรายล้อมอยู่รอบตัวเรา ไม่เว้นแม้กระทั่งในเกมอย่าง Batman Arkham Origins เรามาดูกันว่างานนี้จะแถสุดฤทธิ์หรือข้อคิดสุดเจ๋งกันแน่หากคุณไม่เคยเล่นเกม Batman Arkham Origins ต้องขอบอกเลยว่าคุณพลาดอีกหนึ่งเกมผจญภัยดีๆแล้วครับผม ถึงแม้ว่าผมจะเคยให้คะแนนเกมนี้ใน Review: Batman Arkham Origins ไว้เพียงแค่ 7 คะแนนแต่ทว่ามันก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่ผมยังคงเล่นมันไปได้แค่ 30% ด้วยเวลากว่า 20 ชม.ที่ผมเสียไปกับมัน ( ส่วนมากผมจะใช้เวลาไปกับการเก็บ Enigma Data และทำลาย Network Relay ซะเกือบทั้งหมด ) เอาเป็นว่าถ้าใครที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนก็ลองย้อนไปอ่านรีวิวที่ผมเขียนไว้ดูละกันครับ
Batman Arkham Origins
อย่างที่ผมเคยบอกไปในบทความ 5 บทเรียนชีวิตที่ Tetris สอนเรา ไว้ว่า “สื่อบันเทิงทุกชนิดมักซ่อนปรัชญาและนัยยะสำคัญไว้ได้อย่างไม่ตั้งใจ” หรือจะด้วยความเป็นคนเพ้อเจ้อหรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้ทำให้สุดท้ายผมก็ต้องขอเขียนอีก 5 ข้อคิดที่ผมได้รับจากเกม Batman Arkham Origins ซึ่งจะถูกใจเพื่อนๆกันหรือไม่นั้นไปลองอ่านกันเอาเองดีกว่าครับ
1. ไม่มีใครดีร้ายไปซะ 100% ( Spoil ! )
Joker
ฉากหนึ่งในเกม Batman Arkham Origins หลังจากที่ Batman ต่อสู้กับ Bane บนดาดฟ้าพร้อมกับมี Joker ผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดยืนสังเกตการณ์และเกิดเหตุไม่คาดฝัน Joker ได้ร่วงหล่นลงจากตึกสูงระฟ้าที่ไม่ต้องให้โคนันมาสืบก็ทราบได้ว่าน่าจะร่วงหล่นลงไปกลายเป็นเศษเนื้ออย่างแน่นอน แต่ทว่า Batman กลับพุ่งตามลงมาพร้อมกับช่วย Joker ให้รอดพ้นจากความตายครั้งนี้ไว้ได้และในที่สุด Joker ก็ได้ถูกจับกุม ถัดจากนั้นจะเป็นฉากที่ Joker ต้องโดนทำการตรวจเช็คสภาพจิตโดยนักจิตวิทยาของทางตำรวจ
จากบทสนทนาในช่วงนี้เราจะเห็นได้ว่า Joker เกิดความฉงนใจเป็นอย่างมากว่าทำไมกันนะ ศัตรูตลอดกาลที่เขาจ้องจะเล่นงานให้ถึงชีวิตอย่าง Batman ถึงลงมาช่วยเขา ชีวิตของเขามีค่าขนาดไหนกัน ? Batman เป็นคนแบบไหนกันแน่ ? สิ่งที่เราทำนั้นถูกหรือผิด ? และความสัมพันธ์อันแท้จริงระหว่าง Joker กับ Batman จะเป็นอย่างไร ? ฉากนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งฉากที่น่าสนใจในเกมภาคนี้ครับโดยเจ้า Joker เกิดอาการตกผลึกทางความคิดและชี้ให้เห็นว่าในเกมนี้โลกมันไม่ได้เป็นขาวและดำอย่างที่หลายคนคิด เรามีพระเอกที่ตั้งตนเป็นศาลเตี้ยและเรามีตัวร้ายทำในสิ่งเดียวกันกับ Batman แต่เรากลับไม่รู้สึกถึงความเป็นวีรบุรุษในตัวพวกเขา
ไม่มีใครดีไปเสียหมดและไม่มีใครชั่วจนหยดสุดท้าย มีแต่ด้านที่เรามองเห็นและมองไม่เห็น มีแต่สิ่งที่สังคมบอกให้คิดแบบนั้น มีแต่สิ่งที่คนอื่นบอกเราว่าแบบนี้ดีแบบนั้นไม่ดี นี่คงเป็นสิ่งหนึ่งจากเกมนี้ที่ตอกย้ำว่าไม่มีอะไรจริงแท้แน่นอน
2. ไม่มีใครอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว
Alfred
ไม่ว่าจะเป็น Batman ฉบับเกมหรือภาพยนตร์ก็ตาม ทิศทางในการนำเสนอตัวละครหลักอย่าง Batman นั้นต่างก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันนั่นคือ หนักแน่นแต่โดดเดี่ยว Batman พยายามจะไม่สร้างความสัมพันธ์ระยะยาว Batman พยายามจะตีตัวออกห่างจากสังคมและคนหมู่มาก Batman ปราศจากเพื่อนสนิทและครอบครัว
แต่มันเป็นเช่นนั้นจริงหรือ ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้า Batman ไม่มี Alfred ? ทั้งในฉบับเกมและภาพยนตร์นั้น Batman ต่างก็ต้องพึ่งพ่อบ้านอย่าง Alfred ( ส่วนในเวอร์ชั่นภาพยนตร์นั้น Batman ยังต้องพึ่ง Fox สำหรับเรื่อง R&D อีกด้วย )
นี่เองก็เป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ครับว่าคุณไม่สามารถที่จะอยู่รอดบนโลกใบนี้ได้ด้วยการเป็นสัตว์สังคมอย่างมนุษย์ได้ด้วยการอยู่คนเดียว ความสัมพันธ์เป็นสิ่งสำคัญครับเพราะฉะนั้นจงดูแลและรักษาน้ำใจของคนใกล้ตัวไว้ให้ดีที่สุดก่อนที่มันจะสายเกินไป และอย่าทำตัวเป็นพี่ Bruce Wayne เป็นอันขาดนะครับ ( Bruce Wayne เปรียบได้กับเด็กหัวรั้นคนหนึ่งสำหรับ Alfred เลยครับ เขามุทะลุ ดุดันและหนักแน่นในความคิดตัวเองและหลายครั้งหลายคราที่เขากับ Alfred มักมีปากเสียงกันเป็นประจำแต่ก็แสดงให้เห็นว่าทั้งคู่ต่างมีสายสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกันอยู่ครับผม )
3. การทำผิดในนามแห่งความดี
Anarky
หากคุณได้ลองเล่น Side Mission ภายในเกมนี้ คุณจะพบความตลกขบขันจิกกัดสังคมเล็กๆอยู่สองจุดด้วยกันครับนั่นคือ Anarky และ Enigma โดยทั้งสองตัวละครนี้เป็นเพียงลูกกระจ๊อกธรรมดาที่มีเป้าหมายเดียวกันกับ Batman ครับ
มาพูดถึงเป้าหมายของ Batman กันก่อน Batman เองไม่เชื่อในระบบยุติธรรมภายในเมืองของตนจึงได้สถาปนาตัวเองเป็นศาลเตี้ยแห่งเมืองก็อธแธม อาศัยความสามารถและเงินตราที่มีมากมายในการไล่กำจัดคนชั่วราวกับว่าเมืองนี้เป็นของตนเอง
แต่ทำไม Batman ถึงไม่เอา Anarky และ Enigma มาเป็นพวกเดียวกันล่ะ ? เป็นคำถามที่น่าสนใจครับ Batman มองเห็นว่าสิ่งที่ Anarky และ Enigma ทำเพราะมันเป็นการทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
ในฉากหนึ่งที่ Batman จะเข้าไปจัดการกับ Anarky นั้นเขาได้พูดกับ Batman ไว้อย่างน่าสนใจประมาณว่า
“แกมันเสแสร้ง แกบอกคนอื่นว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ แล้วแกก็อ้างว่ามันเป็นความถูกต้อง แกมีสิทธิอะไรมาตัดสินว่าอะไรถูก สิ่งที่ฉันและแกทำมันก็เหมือนกัน แล้ววันหนึ่งแกจะรู้ว่าสิ่งที่แกทำมันไม่ถูก วันที่แกจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้น วันที่ทุกคนต้องพึ่งแก วันที่ทุกคนต่างไม่ทำอะไรแล้วเอาแต่รอความช่วยเหลือ แกคิดว่าแกเป็นวีรบุรุษแต่จริงๆแล้วแกก็เป็นแค่เครื่องยืนยันถึงความล้มเหลวของเมืองนี้นั่นแหละ”
– Anarky
ผมว่าเรื่องราวตรงนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับประเทศไทยในปัจจุบัน ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าสิ่งที่ตนทำนั้นถูกต้อง สิ่งที่คนอื่นทำนั้นผิดไปเสียหมดและเราไม่สนว่าเราจะต้องทำอะไร จะต้องสูญเสียแค่ไหนเพื่อให้สิ่งที่เราเชื่อว่ามันถูกต้องนั้นเป็นฝ่ายชนะ
4. อย่ามัวแต่รอวีรบุรุษ
ประเด็นต่อเนื่องจากคำพูดของ Anarky ครับ ใน Batman Arkham Origins จะมี Mini-Event ให้เราต้องเข้าไปช่วยเหลือตำรวจที่โดนเหล่าร้ายรุมกระทืบอยู่เป็นประจำ เราลองคิดว่าประเทศไทยนั้นกลายเป็นเมืองก็อธแธมสิครับ เราลองคิดว่าตำรวจไทยโดนโจรรุมกระทืบอยู่เป็นประจำโดยไม่มีการช่วยเหลือใดๆจากหน่วยที่สังกัด เราลองคิดว่าการช่วยเหลือที่ได้ผลมีเพียงหนึ่งเดียวนั่นคือวีรบุรุษสิครับ
หากเราไม่สนว่าระบบยุติธรรมจะเป็นเช่นไร การรักษากฏหมายจะจางหายไปหรือไม่และเราสนเพียงแต่ว่าขอให้ Batman นั้นจัดการคนผิดไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดๆก็ตาม ถ้าวันที่ Batman กลับเปลี่ยนฝั่งหรือวันที่ Batman ได้จากเราไป วันนั้นเราคงไม่อาจเรียกร้องความถูกต้องหรือยุติธรรมอันแท้จริงได้เพราะเราได้ขยี้มันด้วยตัวเราเองแล้ว
5. เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญ…ไม่จริงอ่ะ !
Batman Arkham Origins
ไม่รู้ว่าเป็นข้อคิดที่โลกแคบเกินไปมั้ย แต่ผมเชื่อว่าสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสามารถของ Batman ไม่ใช่ความกล้า ไม่ใช่ศรัทธาแต่เป็นพลังที่ทั่วโลกยอมรับและนั่นก็คือ”อำนาจของเงิน” ใช่แล้วครับ เงินเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตเรา Batman และ Ironman อาจตายโหงไปตั้งแต่ภารกิจแรกถ้าหากเขาไม่มีเงิน Batman อาจโดนโจรกระจอกเอามีดเสียบพุงไส้ไหล อาจโดนปืนปากกายิงทะลุชุดเกราะมาโดนขั้วหัวใจตายแบบหมาข้างถนน อาจโดนตำรวจจับปิ้งติดคุกติดตารางถ้าหากไม่มี Batmobile ขั้นเทพบินมารับ หรือสุดท้าย Batman อาจต้องกลายเป็นเด็กส่งพิซซ่าเพราะไม่มีแม้เงินจะจ่ายค่าเช่าบ้าน
ปฏิเสธไม่ได้ครับว่าต่อให้มีเงินก็ใช่ว่าจะทำแบบ Batman แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า Bruce Wayne ก็คงทำ-่าอะไรไม่ได้เช่นกันถ้าไม่มีสิ่งเล็กๆที่เราเรียกว่า”เงิน” เอวังด้วยประการฉะนี้
