ถึงแม้ทีมงาน Rockstar Games จะยังไม่ประกาศสร้างภาคต่อของเกมเปิดโลกกว้างระดับตำนานอย่าง Grand Theft Auto แต่แน่นอนว่าในช่วงเวลาที่เกมเมอร์หลายคนกำลังรอคอย ก็ได้คาดหวังหรือใฝ่ฝันว่าสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง หรือประเทศใดประเทศหนึ่งจะต้องลงเกม GTA สักวันหนึ่ง แม้จะมีข่าวลือมากมายว่า GTA VI จะใช้ฉากหลังเป็นเมือง Vice City ก็ตาม
แล้วเราคาดหวังอยากให้สถานที่ใดมาลงเกม GTA บ้าง เรามาสอดส่อง 5 สถานที่จริงที่อยากเห็นใน GTA ภาคต่อไปกันดีกว่า เราไปรับชมกันเลยครับ
ฮ่องกง + มาเก๊า
มาเก๊า
เกมเมอร์หลาย ๆ คนอาจจะเคยลองเกม Sleeping Dogs ที่นอกจากนำเสนอเนื้อเรื่องแอ็กชัน-อาชญากรรมแสนดุเดือด ลุ้นระทึกตามสไตล์หนังฮ่องกงแล้ว ตัวเกมยังสามารถนำเสนอฮ่องกงได้ค่อนข้างใกล้เคียงกับโลกความเป็นจริงที่สุด
แต่หาก Rockstar Games ตัดสินใจทำเกมอ้างอิงสถานที่จากเกาะฮ่องกงก็จัดว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะว่าภูมิประเทศรอบฮ่องกงส่วนใหญ่จะเป็นหุบเขา, บรรยากาศเมืองใหญ่ครึกครื้นตลอดเวลา รวมถึงมีแลนด์มาร์คมากมาย จึงทำให้การออกแบบสถานที่มีความหลากหลาย และเหมาะสำหรับการสร้างเกมเปิดโลกกว้างอย่างยิ่ง
แต่แน่นอนว่า Rockstar Games เป็นบริษัทเกม AAA ที่มีงบต้นทุนเยอะกว่าทีมงานอื่น ๆ จึงมีความเป็นไปได้สูงมาก ที่ทีมพัฒนาจะเสริมเมืองเล็ก ๆ อีกเมืองโดยอ้างอิงสถานที่จากเกาะมาเก๊า ซึ่งเป็นเขตการปกครองพิเศษของจีนที่ใกล้กับฮ่องกง และเป็นแหล่งการพนันที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย
คนไทยหลายคนน่าจะทราบวลี “โหดสั*บราซิล” กันเป็นอย่างดีจากหนังเรื่อง Fast and The Furious 5 หรือ City of God (Cidade de Deus) ที่สามารถนำเสนอ Favela ให้มีบรรยากาศดิบเถื่อนยิ่งกว่าละคร เพราะแม้ว่าบราซิลจะเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยว และมีสถานที่สวยงามมากมาย แต่ทว่าอัตราการเกิดอาชญากรรมระหว่างแก๊งในย่านที่ห่างไกลจากความเจริญ กลับมีความรุนแรงขึ้นทุกปี
นอกเหนือจากนี้ Rockstar Games เคยสร้างเกม Max Payne 3 ที่ใช้ฉากหลังเป็นเมืองเซาเปาลู ประเทศบราซิล รวมถึงทีมงานได้บุกไปถึงย่านสลัม Favela ที่เป็นแหล่งรวมหัวอาชญากรระดับประเทศ และมีความเชื่อว่า 1 ใน 75 คนที่อาศัยใน Favela จะต้องมีปืนติดตัวหนึ่งกระบอกอีกด้วย
ก็ต้องบอกเลยว่าถ้าหาก Grand Theft Auto ภาคต่อไป มีฉากหลังเป็นประเทศบราซิลจริง ๆ เกมเมอร์ก็สามารถไว้ใจทีมพัฒนาเกมได้เลยว่ามันจะต้องออกมาดีแน่นอน
กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
สาเหตุที่กรุงลอนดอน เหมาะสำหรับเกม Grand Theft Auto ภาคต่อไป เพราะทีมงาน Rockstar Games เคยมีประสบการณ์สร้างเกมที่ใช้ฉากหลังเป็นกรุงลอนดอนมาก่อนอย่าง GTA London 1969 สำหรับ PC, PlayStation
สำนักงาน Rockstar North ที่สร้างเกม GTA หลายภาค ก็ตั้งอยู่ที่เอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของอังกฤษเช่นกัน จึงมีความเป็นไปได้สูงมากที่ Grand Theft Auto ภาคต่อ ๆ ไป จะมีโอกาสทำเกมที่ใช้ฉากหลังเป็นกรุงลอนดอนอีกครั้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองหลวงของทวีปยุโรปที่เจริญรุ่งเรืองมากที่สุด ณ ตอนนี้
มุมมองของเกมเมอร์หลาย ๆ คน อาจจะมองว่ารัสเซียเป็นประเทศตัวร้ายของสหรัฐฯ เพราะอิทธิพลของสื่อภาพยนตร์หรือละคร มักจะให้ตัวละครชาวรัสเซีย สวมบทเป็นฝ่ายร้ายเกือบทุกครั้ง แต่บนโลกความเป็นจริง ประเทศรัสเซียก็มีชื่อเสียงเรื่องแก๊งมาเฟียมานานนับตั้งแต่ยุคอาณาจักรซาร์ จนสามารถแพร่ขยายกลายเป็นมาเฟียระดับนานาชาติในปัจจุบัน
นอกจากนี้ Grand Theft Auto IV ก็มีตัวละครรัสเซียหรือชาวสลาฟที่น่าจดจำมากมาย โดยเฉพาะ Niko Bellic, Dimitri Rascalov และ Mikhail Faustin ซึ่งทุกคนล้วนมีลักษณะนิสัยด้านมืดภายในจิตใจทุกคน ฉะนั้นการที่พระเอก Grand Theft Auto ไปที่ประเทศรัสเซีย มันก็ไม่ต่างจากการโยนเข้ากรงเสือที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และอันตรายทุกฝีก้าว
ชายแดนระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโก
ชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐฯ
ถ้าหากไม่มีเรื่องยาเสพติด ก็ไม่ใช่ Grand Theft Auto ที่พวกเรารู้จัก ซึ่งแน่นอนว่าการทำเกม GTA โดยมีฉากหลังที่อ้างอิงสถานที่จากชายแดนประเทศสหรัฐฯ กับเม็กซิโก จึงจัดว่าเหมาะสมสำหรับเกม GTA อย่างยิ่ง เนื่องจากประเทศเม็กซิโก นับว่าเป็นแหล่งกับด่านของนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ระดับโลกตั้งแต่ El Chapo, El Mayo หรือ El Padrino และอื่น ๆ อีกมากมาย (ซึ่งส่วนใหญ่ มักโดนจับกุมไปแล้ว)
แม้ Rockstar Games จะเคยออกแบบแผนที่เป็นลักษณะการข้ามชายแดนระหว่างประเทศสหรัฐฯ และเม็กซิโกมาก่อนอย่าง Red Dead Redemption แต่เราก็อยากเห็นเกมแอ็กชัน-เปิดโลกกว้าง ที่สามารถข้ามชายแดนระหว่างสองประเทศในยุคปัจจุบัน
