สำหรับแฟน ๆ Resident Evil นอกจากความสยองและเกมการเล่นที่เร้าใจที่เป็นเสน่ห์ของเกมแล้ว อาวุธต่าง ๆ ที่เกมนำมาใส่นั้นก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนชื่นชอบ ไม่ว่าจะทั้งอาวุธของจริงหรือดัดแปลงมาก็ตาม และในวันนี้ผู้เขียนก็ขออนุญาตแนะนำอาวุธสุด Signature ของซีรีส์ที่หลายคนน่าจะชื่นชอบและกลายเป็นแรงผลักดันให้ออกไปค้นหาข้อมูลอาวุธชิ้นนั้นในโลกจริงด้วยครับ
Matilda AKA. H&K VP70
มาเริ่มกันที่ปืนประจำกายของพระเอกของเกมในภาคที่สองกันก่อน กับ H&K VP70 ซึ่ง H&K ถือเป็นแบรนด์อาวุธชั้นนำจากเยอรมันที่มีปืนคุ้นตามากมาย และ VP70 ก็ถือเป็นปืนที่ควรค่าแก่การพูดถึงอย่างมาก เพราะมันคือปืนพกที่เป็นโครงแบบโพลิเมอร์กระบอกแรกของโลก กำเนิดขึ้นมาก่อนที่ Glock 17 จากออสเตรียจะเกิดถึง 17 ปีด้วยกัน VP70 ใช้กระสุนขนาด 9x19mm Parabellum ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของปืนพกทั่วไป และขนาด 9×21 IMI ในรุ่น VP70Z
H&K VP70 ผลิตขึ้นในช่วงปี 1970 – 1989 สามารถยิงได้ทั้งแบบทีละนัดและ Burst Shot สามนัดซ้อนในรุ่น VP70M เมื่อติดตั้งชุดพานท้ายลงไป แม็กกาซีนจุได้ 18 นัด มีอัตราการยิงอยู่ที่ 2,200 นัดต่อนาที แม้จะดูพึ่งพาได้มากแต่ก็ติดปัญหาในเรื่องของความเทอะทะ และราคาที่แพงจนเกินไปมากในสมัยที่ออกมา จนไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ปัจจุบันนี้จัดเป็นปืนที่หายากมากและมีคุณค่าสูงในหมู่นักสะสมปืน ซึ่งในเกม Resident Evil นั้นได้ปรับเปลี่ยนความสามารถของปืนไปเล็กน้อยให้เหมาะสมกับระบบของเกม แต่ก็ยังคงเป็นปืนที่พึ่งพาได้ในเรื่องประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี
Desert Eagle AKA. Lightning Hawk
ยังอยู่กันที่ปืนของนายลีออนคนเดิม กับสุดยอดปืนพกขนาดใหญ่ที่กลายเป็นปืนในฝันของใครหลายคนอย่าง Desert Eagle โดยในเกม Resident Evil 2 นั้นเป็นรุ่นที่ผลิตโดยบริษัท IMI ของอิสราเอล เพราะใช้กระสุนขนาด .50 A.E ที่มีขนาดใหญ่มาก และมีอำนาจทะลุทะลวงสูง แถมยังเป็นปืนแบบกึ่งอัตโนมัติที่ใช้ระบบแก็ส สำหรับผู้เขียนเองในสมัยนั้นการได้เห็นปืนพกอัตโนมัติที่ใช้กระสุนขนาดใหญ่นั้นถือเป็นอะไรที่ใหม่มาก ๆ เพราะปกติเรามักจะเห็นแต่แบบปืนลูกโม่เท่านั้นที่ใช้ยิงกระสุนขนาดใหญ่แบบนี้ได้
ซึ่งนอกจากตัวปืนหลักของมันจะยิงได้ค่อนข้างแรงอยู่แล้ว ชุดเสริมที่ช่วยเพิ่มความยาวของปากกระบอกปืนนั้นก็ช่วยให้ปืนดูน่าเกรงขามมากขึ้น และเพิ่มความแรงของอาวุธมากขึ้นหลายเท่า ถือเป็นปืนที่แรงมากเป็นอันดับสองของเกมในตอนนั้นทีเดียว เป็นปืนอีกหนึ่งกระบอกที่เห็นแล้วจำได้ทันทีแบบไม่ต้องสืบหาต้นตอต่อให้ยุ่งยากว่าเป็นปืนอะไร
Grenade Launcher
ข้อนี้จะพิเศษหน่อยตรงที่ไม่ได้พูดถึงตัวปืนโดยตรง แต่เป็นการพูดถึงอาวุธขนิดพิเศษที่เรียกว่าสร้างภาพจำให้ผู้ใช้ได้ชัดเจนมากกระบอกหนึ่งก็คือ Grenade Launcher ซึ่งมันไม่ได้มีกระสุนเพียงแค่แบบเดียว แต่มีถึงสามแบบในเกมภาคแรก และเพิ่มจำนวนขึ้นมาเรื่อย ๆ ในภาคหลัง ๆ และผู้ที่ใช้งานก็มักจะเป็นตัวละครหญิงเสียส่วนมากในซีรีส์นี้ เรียกว่าถ้าเล่นตัวละครหญิงก็มั่นใจได้ว่าจะมีปืน Grenade ให้ใช้ค่อนข้างแน่นอนในยุคแรกของเกม ซึ่งการเลือกใช้กระสุน Grenade ให้ตรงกับประเภทของศัตรูในเกมก็ถือเป็นยุทธวิธีที่น่าสนใจมากในเกมนี้ทีเดียว
โดยปืน Grenade Launcher ที่ถูกนำมาใช้ในเกมนั้นก็มีตั้งแต่รุ่น Arwen 37, M79, Hk-P และอื่น ๆ อีกมากมายตามสมัยนิยม แม้บางภาคจะไม่ได้ถูกใส่ไว้ แต่ก็เป็นอาวุธที่มีความคิดสร้างสรรค์ดีมากกระบอกหนึ่งของเกมนี้ทีเดียว
Rocket Launcher
หนึ่งในอาวุธปิดเกมตามธรรมเนียมของ Resident Evil ไม่ว่าภาคนั้นจะน่ากลัวสุดระทึกหรือบู๊แหลกแหกค่ายแค่ไหนก็ต้องมีการปราบบอสใหญ่ด้วยอาวุธหนักทุกครั้งไป และ Rocket Launcher ก็ถือเป็นอาวุธปิดฉากที่ถูกหยิบนำมาใช้งานอยู่ค่อนข้างบ่อย แม้บางครั้งจะเอาปืนอย่าง Magnum หรืออาวุธทำลายล้างอื่น ๆ มาใช้งาน แต่ก็ไม่มีอะไรสะใจและเด็ดขาดเท่ากับ Rocket Launcher อีกแล้ว เรียกว่าโดนไปนัดเดียวก็จบเรื่องราวแบบไม่ต้องคุยกันต่อเลย อีกทั้งมันยังเป็นอาวุธพิเศษที่เป็นของรางวัลสำหรับคนที่จบเกมได้ตามเงื่อนไขอีกด้วย
Samurai Edge
กระบอกสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้ก็คือปืนพกประจำหน่วย S.T.A.R.S อันโด่งดังนั่นเอง Samurai Edge คือการนำปืนพก Beretta Model M92F มาดัดแปลงใหม่ จากฝีมือของร้านปืน Kendo Gunshop ใน Raccoon City ที่ลองส่งปืนแบบ Prototype มาให้สมาชิกของหน่วย S.T.A.R.S ทั้งสี่คนคือ Chris Redfield, Jill Valentine, Barry Burton และ Albert Wesker ได้ทดลองใช้และปรับปรุงแก้ไข จนในที่สุดมันก็ถูกบรรจุให้เป็นปืนประจำตัวของเจ้าหน้าที่หน่วย S.T.A.R.S อย่างเป็นทางการในภายหลัง ซึ่งชื่อ Samurai Edge นั้นมาจากสไลด์สีดำตัดเงิน และด้ามจับที่ดูเหมือนดาบKatana จากญี่ปุ่น มีการขยายด้ามจับ ใช้สไลด์แบบใหม่ทีมีลวดลายเฉพาะและหนากว่าปกติ
Samurai Edge ที่เราเห็นในเกมนั้นมีอยู่ทั้งหมดห้าแบบ ซึ่งก็มีการดัดแปลงให้ตรงกับความถนัดของผู้ใช้งาน โดยจะมีข้อแตกต่างดังต่อไปนี้
Standard – แบบทั่วไปที่ไม่มีการดัดแปลงเพิ่ม แต่จะมีสไลด์และไกปืนสีดำ พร้อมลำกล้องสีเงิน
Chris Model – ปืนของ Chris นั้นจะมีสีของสไลด์เป็นสีดำ ไกปืนและลำกล้องเป็นสีเงิน ปรับแต่งไกปืนให้มีความไวมากขึ้นเพื่อใช้ในการแข่งขัน
Jill Model – ปืนของ Jill นั้นจะมีการเปลี่ยนขนาดของตัวหยุดสไลด์ และตราสัญลักษณ์ RPD นั้นจะมีสีฟ้าที่สว่างขึ้น
Barry Model – ปืน Samurai Edge ของ Barry จะแปลกกว่าคนอื่นมาก เพราะไม่ได้ใช้กระสุน 9×19 Parabellum แต่ใช้กระสุนขนาด .40 S&W ที่อำนาจหยุดยั้งมากกว่าแทน และยังยิงแบบ 3 Burst Shot ได้อีกด้วย ซึ่งดูโดยรวมแล้วตัวโมเดลของปืนจะคล้ายกับ Beretta M96 เสียมากกว่า และตัวปืนยังติดอุปกรณ์เสริมอย่าง ปลอกลดแรงกระแทกไว้อีกด้วย
Wesker Model – ปืนของ Wesker นั้นเรียกว่าเปลี่ยนโครงสร้างโดยรวมและนกสับที่ไม่เหมือนกระบอกอื่น รวมไปถึงติดตั้งอุปกรณ์เสริมอย่างไฟฉายลงไปด้วย
ส่วนในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น ก็มีแบรนด์ผลิตปืนอัดลมจากญี่ปุ่นอย่าง Tokyo Marui ผลิตออกมาให้เหล่านักเล่นนักสะสมได้จับจองเป็นเจ้าของกันอย่างมากมาย ส่วนปืนจริงนั้นก็มีแฟนเกมบางส่วนที่ดัดแปลงปืน Beretta 92F ให้คล้ายคลึงกับโมเดลในเกมด้วย
ทั้งหมดนี้ก็คืออาวุธปืนที่เรียกได้ว่าแทบจะเป็นสัญลักษณ์ของซีรีส์นี้ไปแล้ว ซึ่งบางกระบอกนั้นพอเราเห็นในชีวิตจริงแล้วก็อดนึกถึงเกมไม่ได้เลยทีเดียว แม้บางอย่างจะถูกแก้ไขไปเพราะเรื่องลิขสิทธิ์ แต่เราก็ไม่อาจจะปฎิเสธได้ว่า Resident Evil คือเกมที่เลือกอาวุธมาใส่ในเกมได้อย่างใส่ใจมากเกมหนึ่งเลยทีเดียวครับ