สำหรับเกมเมอร์ขี้เหงา การมีอยู่ของเกมแนว Co Operative หรือ Co-op ทั้งหลายนั้นจัดเป็นเครื่องคลายเหงาชั้นยอด เพราะเราสามารถชวนเพื่อนมาสนุกในเกมเดียวกับเราได้ทันที ยิ่งเป็นเกมดีก็ยิ่งสนุกขึ้นไปอีก วันนี้ GamingDose จะมาขอแนะนำเกม Co-op แสนสนุกระดับคลาสสิก 5 เกมที่หยิบมาเล่นครั้งไหนก็สนุกไม่เปลี่ยนแปลง

Left 4 Dead 2

เริ่มกันที่เกมแรกที่คอเกม FPS สายลุยกับเพื่อนรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี กับสี่สหายตะลุยดงซอมบี้ หลังจากที่ภาคแรกสร้างกระแสมาได้เป็นอย่างดีจนมีภาคต่อที่ปรับปรุงระบบการเล่นให้ดีขึ้นตามมา Left 4 Dead 2 เป็นเกมที่ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างผู้เล่นในทีมเป็นอย่างมากไม่แพ้ทักษะในการยิงที่มี แม้จะเป็นความยากระดับธรรมดาก็ยังมีความท้าทายอย่างสูง ซึ่งศัตรูก็ไม่ได้มีแค่ซอมบี้ธรรมดาที่เน้นปริมาณถาโถมเข้ามา แต่มีศัตรูแบบพิเศษที่จะทำให้แผนของผู้เล่นพังได้ทุกเมื่อถ้าหากประมาท ตัวป่วนอย่าง Boomer หรือ Jockey ที่ถ้าจัดการไม่เร็วพอก็จะทำให้สถานการณ์ในเกมพลิกอย่างเกินคาดได้เลยทีเดียว และเป็นเกมที่ไม่ต้องอาศัยการฟาร์มเพื่อปั้มเลเวลเข้าไปเล่นในแต่ละรอบ แค่โหลดเกม เลือกโหมด ระดับความยาก ก็เข้าไปเล่นได้ทันที แม้ในตอนนี้ตัวเกมจะไม่ได้มีการอัพเดตอะไรเพิ่มเติมแล้ว แต่ชุมชนผู้สร้าง Mod หลายคนก็ยังคงส่งแผนที่ใหม่ ๆ ม่าให้เราสนุกกันอยู่เรื่อย ๆ ไม่รู้เบื่อมาจนถึงทุกวันนี้ครับ

Killing Floor 2

เกม “กำลังฆ่าพื้น” ที่เหล่าเกมเมอร์ชาวไทยชอบเรียกกัน หลังจากที่ภาคแรกประสบความสำเร็จแบบงง ๆ และมีผู้เล่นที่มากมายเหลือเชื่อ จึงไม่แปลกที่ภาคต่อจะมีคนให้ความสนใจมากมายด้วยกราฟฟิกที่สวยขึ้นกว่าเดิมแบบจมหู แม้การเล่นจะไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่มากนัก แค่ยันตัวเองให้รอดจนจบรอบไปเจอบอสให้ได้ แถมด้วยการที่ในเกมมีคลาสให้เลือกเล่นอยู่มากมายก็ช่วยให้เกมมีความหลากหลายในการเล่นมากขึ้น(แต่อาจจะต้องฟาร์มเลเวลกันอ่วมหน่อย) ทำให้การกระทืบเหล่าพวกกลายพันธุ์ในเกมที่ท้าทายและมีเอฟเฟคการตายสะใจขาโหด เป็นเกมที่เหมาะมากที่จะนำมาเล่นกับเพื่อนรู้ใจ ยิ่งในตอนนี้ตัวเกมสามารถเลือก Host เล่นกันเองกับเพื่อนได้โดยที่ไม่ต้องสร้างเซิฟเวอร์ได้แล้ว ยิ่งทำให้การเล่นสะดวกยิ่งขึ้นกว่าในอดีตมากครับ

Payday 2

อีกหนึ่งเกม FPS ที่เราเพิ่งจะสรุปเรื่องราวทั้งหมดให้ได้อ่านกันไปแล้วก่อนหน้านี้(ตามอ่านได้ ที่นี่) กับเกมการปล้นอย่างอุกอาจของแก็ง Payday ที่มีภารกิจหลากหลายรูปแบบให้ทำ ทั้งแบบลอบย่องขโมยของออกมาโดยที่ไม่ถูกจับได้ หรือยิงชิงของกันแบบหูดับตับไหม้ และยังมีระดับความยากที่ยืดหยุ่นหลากหลายไม่แพ้ Build ของตัวละครแต่ละสายที่มีมากมายสร้างกันได้แบบไม่รู้จบ และ Achievement มากมายก่ายกองให้ผู้เล่นได้ปลดกันแบบไม่รู้เหนื่อย แต่อาจจะต้องอาศัยความอดทนเล่นไปให้ถึงระดับ Infamous ขั้น 5 เสียก่อนจึงจะเล่นได้สบายหน่อย แต่ถ้าอดทนกันได้ นี่คืออีกหนึ่งเกม Co-op ที่เล่นกับเพื่อนได้สนุกมากอีกหนึ่งเกมเลยทีเดียว

Overcooked 2

หลังจากที่ภาคแรกมีเสียงบ่นมาจากผู้เล่นว่าไม่สามารถเล่นแบบออนไลน์ได้ คราวนี้ทีมพัฒนาก็ปรับปรุงให้ภาคที่สองสามารถเล่นออนไลน์กับเพื่อนได้เสียที กับเกมทำอาหารสุดป่วนที่ทั้งสนุกทั้งฮาในเกมเดียวกัน ยิ่งถ้าหากได้เพื่อนที่รู้งานหรือชอบเกรียนกันเองจนทำครัวล่มมาร่วมด้วยจะยิ่งสนุกแบบทวีคูณขึ้นไปอีก แถมด้วยตัวฉากแต่ละแบบและสูตรอาหารที่ต้องทำก็มีการออกแบบมาอย่างท้าทายโดยเฉพาะในด่านโบนัสที่อาจมีการหัวร้อนได้ แต่ด้วยความลงตัวในเรื่องระบบออนไลน์และการออกแบบฉาก ทำให้ Overcooked 2 เป็นอีกหนึ่งเกมที่เหมาะจะเอามาเล่นกับเพื่อนแบบ Co-op ยิ่งนัก

Don’t Starve Together

อยู่ยงคงกระพันมาอย่างยาวนานสำหรับเกมเอาตัวรอดแบบเป็นหมู่คณะในแบบสองมิติแสนสนุก ที่มาพร้อมกับภารกิจง่าย ๆ คือเอาตัวรอดให้ได้นานที่สุด ทุกคนต้องหาอาหาร ออกเก็บเกี่ยวทรัพยากรมาสร้างของสร้างแคมป์เพื่อเอาตัวรอดให้ได้นานที่สุด ออกล่าสัตว์หรือป้องกันภัยคุกคามในเวลากลางคืนและกลางวันที่อาจมียักษ์มาโจมตีทุบทุกคนจนแบนแต๊ดแต๋ เป็นอีกหนึ่งเกมที่ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างผู้เล่นค่อนข้างสูงถ้าหากอยากอยู่รอดกันไปนาน ๆ จนถึงหน้าหนาว และยังมีเรื่องเกินคาดเกิดขึ้นให้เราได้เห็นกันในแทบทุกรอบการเล่น(อย่างเช่นอยู่ดี ๆ เพื่อนคุณก็ลุกขึ้นไปเผาป่าข้างแคมป์ซะเหี้ยนแบบนี้เป็นต้น) จึงเป็นอีกหนึ่งเกม Co-op อีกหนึ่งเกมที่ไม่ว่าหยิบมาเล่นกับเพื่อนครั้งไหนก็สนุกและบันเทิงทุกครั้งที่เล่นจริง ๆ

ทั้ง 5 เกมนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ผู้เขียนหยิบมาแนะนำทุกคน ซึ่งที่จริงแล้วยังมีอีกหลายเกมที่ขึ้นหิ้งคลาสสิกและควรค่าแก่การหยิบมาเล่นซ้ำอย่างมา เหมือนเช่นเคยทุกคนสามารถแนะนำเกมแนว Co-op ที่ชอบเล่นกับเพื่อน ๆ ไว้ในช่อง Comment ไว้ได้เลยครับ