เกมเดินหน้ายิงมีมากมายเกลื่อนตลาดแต่ทำไมผมถึงยังคงรักและเล่น Counter Strike: Global Offensive อยู่ทุกวัน ผมใช้เวลาหลายวันหลายเดือนในการค้นหาและผมคิดว่านี่คือ 5 เหตุผลส่วนตัวที่ทำให้ผมติดอกติดใจในเกมนี้
ถ้าจะให้เอ่ยนามเกมแนว First Person Shooting ที่มีอยู่ในตลาดตอนนี้ก็คงต้องนึกถึงเกมอย่าง Battlefield 4 , Call of Duty: Ghosts , Point Blank , Team Fortress 2 และ Counter Strike: Global Offensive แต่ละเกมต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป
แต่ผมกลับเลือกที่จะเล่น Counter Strike: Global Offensive อยู่ทุกวันไม่ห่างหาย เล่นฝีมือก็ไม่เอาไหน เล่นไปก็แพ้กันรัวๆแต่ผมก็ยังคงตกหลุมรักมันอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ผมเคยถามตัวเองว่าเพราะอะไรกันนะเราถึงหลงใหลในเกมนี้ เพราะอะไรเราถึงยังคงเล่นมันอยู่ทุกวันในขณะที่ผู้คนรอบตัวต่างเล่น Battlefield 4 หรือแม้แต่เกมอย่าง DayZ กัน ดูเหมือนว่าวันนี้ผมจะมีคำตอบให้ตัวเองแล้วครับ ถ้าคุณก็เป็นอีกหนึ่งคนที่นิยมเกมอย่าง Counter Strike: Global Offensive ล่ะก็ลองมาแบ่งปันเหตุผลที่ชื่นชอบเกมนี้กันได้ครับ
1. เพราะผมเติบโตมากับ Counter Strike
ผมเชื่อว่าหลายคนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ต่างก็เติบโตมากับเกมที่ไม่ต่างกันไม่ว่าจะเป็น Half Life , Counter Strike และ Ragnarok ผมเล่น Counter Strike มาตั้งแต่ช่วงประถมสมัยที่ยังต้องกดปุ่มลูกศรเพื่อเคลื่อนไหวตัวละคร ผมจำได้ว่าเมื่อช่วง 2-3 ปีก่อนตอนมัธยมปลาย ผมก็ยังคงเล่นเกมนี้กับเพื่อนหลังเลิกเรียนและตอนเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ ( ผมเรียนอยู่สายศิลป์-คอมฯ เรียนคอมพิวเตอร์วันละ 3 วิชา นั่นก็เท่ากับว่าผมได้เล่น Counter Strike ในโรงเรียนวันละ 3 ชั่วโมงนั่นเองครับ ฮาาา )
ทันทีที่ Call of Duty: Modern Warfare 2 หมดกระแสและ Battlefield 3 หมดความน่าเร้าใจสำหรับตัวผมเอง ผมก็ได้หันมาลองเล่นเกมนี้และชักชวนเพื่อนร่วม Teamspeak ให้มาเล่นด้วยกัน …ผลหรือครับ ? ผมติดงอมแงมจนกระทั่งทุกวันนี้ จากเดิมที่ไม่รู้จักชื่อด่าน ยิงไม่ถูกก็กลายเป็นคนที่เล่นทุกวันจนจำมุมด่านได้ดีกว่าชื่อเพื่อนซะด้วยซ้ำ
2. เพราะมีเพื่อนเล่นด้วย
ต่อให้เกมสนุกขนาดไหนก็ตามมันก็คงเล่นได้ไม่ยืนยาวนัก หากเราไม่มีสังคมกลุ่มเพื่อนหรือ Community ที่จะมาพูดคุยและร่วมเล่นด้วยกันได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกม Multiplayer การเล่น Counter Strike: Global Offensive นั้นคงไม่โสภานักถ้าผมต้องหาห้อง Competitive Mode ด้วยตัวคนเดียวและนั่งลุ้นเอาว่าเพื่อนร่วมทีมที่สุ่มมาเจอกันมันจะเก่งมั้ย มันจะตั้งใจเล่นหรือเปล่า มันจะพาเราไปสู่ชัยชนะได้หรือไม่
แทบจะทุกคืนหากว่างานไม่ได้ยุ่งนัก ผมมักจะเปิด Teamspeak เพื่อเข้าไปนั่งโม้ซุยกับผองเพื่อนพร้อมกับหาห้อง Matchmaking ไปตบชาวบ้าน ( หรือไม่ก็โดนเขาตบซะเสียผู้เสียคน ) จนนู่นล่ะครับตีสองตีสามค่อยนอนแทบทุกวัน โชคดีมากครับที่กลุ่มเพื่อนเกมเมอร์ผมก็ถูกใจเกมนี้ไม่ต่างไปจากผมซักเท่าไหร่นัก
3. เพราะ Counter Strike มันมีช่วงพักแม้ในระหว่างแมตช์
ถึงแม้ Team Fortress 2 และ Battlefield 4 จะช่วงพักเบรคระหว่างรอเกิดอยู่บ้างแต่ก็ไม่มีเกมไหนให้คุณรอได้นานเท่า Counter Strike แล้วครับ หากคุณเล่นในโหมดทั่วไปที่ไม่ใช่ Arm-Race หรือ Team Deathmatch หากคุณโดนยิงตายคุณมีเวลาประมาณนาทีกว่าๆที่จะพักไปดู Facebook , คุย Line หรือแม้กระทั่งตักข้าวกินได้เลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าคุณเกิดเก่งกล้าสามารถหรือดวงดีเหลือรอดจนจบ Round นั้นได้ก็รู้สึกไม่ต่างกับคนไข้มะเร็งร้ายที่รอลุ้นว่าจะตายมั้ยเท่านั้นไม่พอยังต้องรอฟังเสียงคำสั่ง ดุูถูกเหยียดหยามประนามเย้ยหยันระหว่างแมตช์อีกต่างหาก แหม่ ช่างบันเทิงดีเสียจริง
4. เพราะ Counter Strike มีช่วงเวลาแห่งชัยชนะและความภาคภูมิใจ
หากคุณติดอกติดใจโหมด Search and Destroy จากเกม Call of Duty: Modern Warfare 2 คุณก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งคนที่หลงใหลใน Competitive Mode ของเกม Counter Strike: Global Offensive ไม่มากก็น้อย
ในเกมนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ ทีมคุณอาจไม่มีแม้กระทั่งเกราะหรือปืนกลหนักแต่ก็สามารถพลิกเอาชนะได้ หรือแม้กระทั่งช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตาย คุณเหลือเพียงคนเดียวในทีมพร้อมกับความสิ้นหวังเมื่อเห็นว่าศัตรูยังอยู่ดียืนยิ้มไหวได้ทั้ง 5 คน
แต่ผลปรากฏว่าคุณดันยิงหัวแตกทีละคนจนหมดทีมและเข้าไปกู้ระเบิดได้ทัน อ่าห์…โมเมนท์แห่งชัยชนะ คุณชนะความท้าทายนั้นได้และเพื่อนร่วมทีมอีก 4 คนได้เห็นว่าคุณสามารถก้าวข้ามโชคชะตาไปคว้าชัยชนะได้ นี่แหละครับฟินแตกกันไปนับไม่ถ้วนแล้ว
5. เพราะ Counter Strike ทำให้อะดรีนาลีนหลั่งไหล
ข้อนี้สืบเนื่องมาจากข้อที่ 4 ครับ ในบางจังหวะ ในบางโมเมนท์ที่คุณต่อสู้กับศัตรูและจัดการมันให้ล้มหายตายจากไปได้ยกคณะ หรือในขณะที่คุณต้องเข้าไปกู้ระเบิดพร้อมกับเวลาและเลือดที่น้อยนิด ผลปรากฏว่าคุณชนะ ในความรู้สึกตื่นเต้นตรงนี้ร่างกายเหมือนได้รับทุกสารแห่งความสุขอะดรีนาลีน เอนโดรฟิน จะอะไรก็ตามมาหมดครับจังหวะนั้น เวลาทำได้ทีแทบจะลุกมาปาหูฟังแล้วระเบิดเสียง “วู้ววววว” ให้มันลั่นบ้านราวกับว่านี่แหละการแข่งขันชิงแชมป์โลกต่อหน้าคนนับล้าน นับตั้งแต่ Call of Duty: Modern Warfare 2 โหมดวางระเบิด Search and Destroy ก็ยังไม่เคยมีเกมไหนให้ผมได้มากเท่านี้อีกแล้ว
และนี่ก็คือ 5 ข้อที่ทำให้ผมหลงรักเกม Counter Strike: Global Offensive และทำให้มันกลายเป็นอีกหนึ่งในทำเนียบเกมโคตรดีในชีวิตผมไปเลยล่ะครับ ใครที่ชอบเกมนี้เหมือนกันแต่คิดไม่เหมือนกันก็บอกกันได้ครับว่าเกมนี้มันสนุกสนานหรรษาขนาดไหน !!