Racing เป็นหนึ่งในแนวเกมที่อยู่คู่เคียงชาวเกมเมอร์มานานหลายปี แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความนิยมของเกม Racing ลดลง จนกลายเป็นเกมเฉพาะกลุ่มขนาดใหญ่ ทำให้แฟรนไชส์เกมแข่งรถบาง IP โดนทิ้งไว้ข้างหลัง หรือบางเกม แม้จะมีกระแสตอบรับดี แต่ก็ทำยอดขายได้น่าผิดหวังจนอดสิทธิ์ในการสร้างเกมภาคใหม่
ด้วยกระแสการสร้างเกมเวอร์ชัน Remake, Remaster และ Reboot ที่กำลังเป็นเทรนด์ และเป็นที่ต้องการของเหล่าเกมเมอร์ในช่วงเวลานี้ นี่คือเกม 6 เกมแข่งรถ และ Racing ที่อยากให้นำกลับมา Remake ใหม่อีกครั้ง แล้วจะมีอะไรบ้าง ก็เข้าไปอ่านในบทความได้เลย
Grand Prix Legends
Grand Prix Legends เป็นเกมแข่งรถแบบสมจริงใน PC ที่เคยออกวางจำหน่ายเมื่อปี 1998 แล้วสร้างความตะลึงให้ชาวเกมเมอร์ ด้วยภาพกราฟิกที่สวยงาม และมีการควบคุมกับฟิสิกส์รถที่สมจริงเกินยุค
นอกจากนี้ Grand Prix Legends เป็นธีมเกมแข่งรถแบบย้อนยุค ซึ่งหาเล่นได้ยากมากในเกมยุคปัจจุบัน ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้เกมเมอร์ชาว Racing จำนวนหนึ่ง อยากเห็นเกมนี้ได้ฟื้นคืนชีพอีกครั้งในฐานะเกม Remake หรือไม่ก็เป็นเกมภาคใหม่ไปเลย
Midnight Club 3: Dub Edition
หากพูดถึงเกม Racing ในธีมแข่งรถผิดกฎหมาย (illegal Street Racing) ที่มาพร้อมระบบการควบคุมรถที่ไม่สมจริง เน้นความสนุกสนาน ท้าทาย และเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เราจะนึกถึง Midnight Club เป็นอย่างแรก
Midnight Club เป็นแฟรนไชส์เกมแข่งรถของค่าย Rockstar Games ที่มีชื่อเสียงด้านระบบแต่งรถชนิดจัดเต็ม, การดีไซน์สนามแข่งที่เปิดกว้าง สามารถขับรถวิ่งไปทางไหนก็ได้ และนำเสนอบรรยากาศบ้านเมืองได้สมจริงเป็นธรรมชาติ
สาเหตุที่เราอยากเห็นเกมภาค 3 มากกว่าภาค Los Angeles เพราะมียานพาหนะที่น่าสนใจให้เลือกขับมากมาย, มีตัวเลือกตกแต่งรถเยอะ รวมถึงเป็นเกมภาคแรกของตระกูล Midnight Club ที่นำรถของแบรนด์จากชีวิตจริงมาใช้ในเกมอีกด้วย
Burnout Revenge
แม้ Burnout Paradise หรือเกมภาคล่าสุด มีกระแสตอบรับดีในด้านการออกแบบดีไซน์เสียง, การพังทลายโมเดลรถยนต์ที่สมจริง และเป็นเกมภาคแรกที่ใช้แผนที่ Open-World แต่ความเทพของภาค Paradise ก็ยังเทียบกับภาค Revenge หรือภาค 3 ไม่ได้
Burnout Revenge เป็นเกมแข่งรถสไตล์อาร์เคด ที่หลายยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน Burnout ภาคที่ดีที่สุด โดยเกมนี้ได้นำเสนอระบบ Traffic Check ที่ผู้เล่นสามารถขับชนรถคันเล็กจากด้านหลังได้ และมีการพัฒนาปรับปรุงโหมด Crash ให้สนุกสนาน ท้าทายขึ้นกว่าเดิม ส่วนโหมดการแข่งขันอื่น ๆ กับการออกแบบสนามแข่ง ก็ยังคงรักษามาตรฐานจากเกมภาค 3 Takedown ไว้ได้อย่างดี
Tokyo Xtreme Racer
หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกมแข่งรถผิดกฎหมายในทางด่วนญี่ปุ่น Kanjozoku Game レーサー ที่ขายราคา 89 บาท ได้กลายเป็นกระแสพูดคุยในสังคมเกม Racing มันทำให้พวกเราคิดถึงเกมตระกูล Tokyo Xtreme Racer โดยค่าย Genki ในสมัย PlayStation 2
Tokyo Xtreme Racer เป็นเกมแข่งรถบนทางด่วนญี่ปุ่น ที่ผู้เล่นรับบทเป็นนักแข่งรถระดับ Rookie ที่ต้องไต่เต้าระดับกลายเป็นนักแข่งระดับตำนานให้ได้ ด้วยการท้าทายเอาชนะแก๊งซิ่งต่าง ๆ รวมถึงนักแข่งระดับมือพกาฬด้วยกันเอง
จุดเด่นของ Tokyo Xtreme Racer คือเริ่มต้นครั้งแรก เรามีเงินติดตัวเพียงเล็กน้อย เพื่อใช้ซื้อรถราคาถูก ๆ แล้วออกไปซิ่งต่อสู้กับสมาชิกแก๊ง เพื่อเอาเงินรางวัลไปอัปเกรดรถให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น หรือซื้อ Part แต่งให้รถของเรามีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร นอกจากนี้ คู่แข่งทุกคนมีการบอกประวัติความเป็นมาส่วนตัว ลักษณะนิสัย และรถที่ใช้ออกซิ่ง ซึ่งมันมีส่วนช่วยทำให้คาแรคเตอร์ในเกมมีความน่าสนใจมากขึ้นไม่น้อยเลย
Split/Second
Split/Second เป็นเกมแข่งรถสไตล์อาร์เคดม้ามืดในปี 2010 ที่แม้ไม่ได้โด่งดังเหมือน Burnout แต่ก็เคยเป็นกระแสพูดคุยในสังคมเกม Racing ในยุคนั้น
จุดเด่นของ Split/Second คือผู้เล่นสามารถกดสกิล “Power Play” ที่สะสมได้จากการผาดโผน Stunt ต่าง ๆ เพื่อขัดขวางคู่แข่งด้วยการพังทลายสนามแข่งรถกับสภาพแวดล้อมให้เละกันไปข้างหนึ่ง
แม้เกม Split/Second มีการออกแบบเสียงรถที่ดุดัน และนำเสนอฉากทำลายสนามแข่งที่อลังการงานสร้าง แต่น่าเสียดาย เกมดังกล่าวกลับประสบความล้มเหลวทางในด้านยอดขาย แต่ตอนนี้ เกมดังกล่าวเริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ไม่แน่ว่าการเปิดตัวเกมภาค Remake หรือภาคใหม่ อาจมีกระแสตอบรับที่ดีขึ้นกว่าเกมภาคแรกก็เป็นไปได้
Downhill Domination
หากพูดถึงเกมแข่งปั่นจักรยานวิบากลงเขาในสมัย PlayStation 2 หลายคนจะต้องนึกถึง Downhill Domination เป็นอย่างแรก เพราะนอกจากเป็นเกมแข่งรถจักรยาน Racing ที่เล่นสนุกสนานแล้ว มันยังเป็นเกม PS2 ในความทรงจำหลายคนอีกด้วย
Downhill Domination คือเกม Racing ในรูปแบบกีฬาปั่นจักรยานวิบากลงหุบเขา โดยจุดเด่นของเกมนี้ คือสนามแข่งมีภูมิประเทศที่ไม่แน่นอน แต่เนื่องจากระบบเกมเพลย์ที่ไม่เน้นความสมจริง สามารถหยิบของมาปาใส่ หรือต่อยคู่แข่งจนเสียหลักล้มออกจาสนาม หรือแสดงท่า Trick ระหว่างเหินเวหาได้ ทำให้เกมดังกล่าวเข้าถึงได้ง่าย แต่ก็มีความยากท้าทายที่พอดีเช่นกัน
