Deep Web คือเว็บไซต์แบบพิเศษที่ไม่สามารถเข้าได้ด้วยวิธีการทั่วไป ซึ่งเว็บไซต์เหล่านี้ไม่ปรากฏอยู่บน Search Engine ทั่วไป, มีการจำกัดความเข้าถึง, หรือไม่สามารถเข้าถึงในรูปแบบตามปกติ ส่วนใหญ่ Deep Web ใช้งานกับแหล่งรวม Database สำคัญ หรือข้อมูลหลังบ้าน เช่น ข้อมูลทางการแพทย์, งบประมาณรายได้ของบริษัท เป็นต้น
นอกจากนี้ Deep Web ยังใช้สำหรับการเข้าถึงเว็บที่มีความลึกลับหรือเฉพาะกลุ่มอีกด้วย เพราะเราไม่สามารถที่จะค้นหาได้โดยตรง แต่เราจะต้องเข้าผ่านทางที่เจ้าของเว็บไซต์ระบุไว้เท่านั้น ซึ่งเราได้รวมรวบรายละเอียดของเรื่องนี้ไว้แล้วในบทความนี้
แต่เมื่อคุณเลือกที่จะท่องเว็บเหล่านี้ ก็ควรมีการเตรียมตัวให้พร้อมเนื่องจากเว็บเหล่านี้มักจะมีเครื่องมือพิเศษ รวมถึงลักษณะเฉพาะหลาย ๆ อย่างที่เราคาดไม่ถึงเสมอ อย่างไรก็ตามเราสามารถป้องกันเบื้องต้นได้ด้วย 6 วิธีนี้
1.ใช้ Tor to Access ในการเข้าเว็บเหล่านี้
Tor คือซอฟต์แวร์ฟรีที่ช่วยในการท่องเว็บต่าง ๆ แบบไม่ระบุตัวตนรวมถึงสามารถเข้า Deep Web ได้อีกด้วย ซึ่งเว็บ Web Browser นี้สร้างขึ้นมาโดยองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรนาม “Tor Project” ซึ่ง User สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมใช้งานแบบฟรี ๆ รวมถึงเปิดให้ทุกคนสามารถบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนองค์กรได้ตามอัธยาศัย
ซึ่งการเข้าในโหมดไม่ระบุตัวตนเหมาะมากสำหรับการท่องเว็บเหล่านี้ เนื่องจากบรรดาเว็บประเภทนี้ส่วนมากจะมีการฝัง Malware รวมถึงไวรัสต่าง ๆ ทำให้การเข้าแบบไม่ระบุตัวตนจะทำให้เราปลอดภัยขึ้น
2.อย่าดาวน์โหลดหรือคลิกลิงก์ที่น่าสงสัย
สำหรับเรื่องนี้ไม่ใช่เฉพาะการเข้า Deep Web เท่านั้น แต่การเข้าเว็บต่าง ๆ เราไม่ควรจะคลิกลิงค์หรือดาวน์โหลดอะไรน่าสงสัย เนื่องจากเว็บเหล่านี้มักจะแฝงสิ่งไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ให้เราอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งเราอาจจะพบเจอได้ตั้งแต่ไวรัส , Malware ,Ransome ไปจนถึงการกลายเป็นเครื่องขุดเหรียญ Cryptocurrency ให้กับเจ้าของเว็บก็เป็นได้
3.อย่าให้ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับตัวตนของเรา
ในยุคสมัยนี้ความเป็นส่วนตัว (Privacy) ถือว่ามีความสำคัญมาก ทำให้บริษัทต่าง ๆ รวมถึงบรรดาเหล่าเจ้าของ Deep Web ต่างพยายามที่จะหาข้อมูลของคนใช้เว็บให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปขายรวมถึงนำไปปลอมแปลงเพื่อใช้ในการกระทำที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นเป็นไปได้ไม่ควรที่จะให้ข้อมูลกับใครทั้งนั้น
4.อย่าขยายเว็บเบราว์เซอร์
ปัจจุบันนวัตกรรมการขโมยข้อมูลได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะบรรดาเหล่า Deep Web ที่ให้เราเข้าผ่านเว็บเบราว์เซอร์เฉพาะ อาจจะมีการเก็บข้อมูลหน้าจอของเราผ่านขนาดของเว็บเบราว์เซอร์ได้ ยิ่งเราขยายเว็บเบราว์เซอร์มากเท่าไหร่จะยิ่งทำให้ขอบเขตในการเก็บข้อมูลของเว็บเหล่านี้มากขึ้น ดังนั้นทางที่ดีไม่ควรจะขยายขนาดของเว็บเบราว์เซอร์จะดีที่สุด
5.อัปเดตเบราว์เซอร์และระบบปฏิบัติการเป็นประจำ
การป้องกันที่ดีที่เริ่มที่ตัวเรา ทุกวันนี้เหล่าแฮกเกอร์ต่างพัฒนาซอฟต์แวร์ในการโจรกรรมข้อมูลทุก ๆ วัน ทำให้เราต้องอัปเกรดตัวเองให้พร้อมเสมอ โดยเฉพาะสองเกราะป้องกันที่สำคัญสำหรับคอมพิวเตอร์เราอย่าง ระบบปฏิบัติการและเว็บเบราว์เซอร์ที่หากเราอัปเดตบ่อย ๆ ย่อมที่จะป้องกันได้ง่าย หากคุณเป็นคนขี้เกียจก็ตั้งอัปเดตอัตโนมัติไว้ได้เลย
6.ปิดเว็บกล้องให้มิดชิด
เทคโนโลยีสแกนใบหน้าถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ มักจะติดกล้องมาให้เราเสมอ รวมถึงบางสายงานที่ต้องมีการประชุมแบบวิดีโอบ่อย ๆ ก็ต้องอาจจะใช้กล้องเสริม ซึ่งทำให้เป็นจุดอ่อนสำหรับเหล่าแฮกเกอร์ในการเก็บข้อมูลของเรา โดยเฉพาะยุคที่ธุรกรรมทางการเงินเริ่มที่จะใช้การสแกนหน้ามากขึ้น หากจะท่องเว็บเหล่านี้แนะนำปิดกล้องให้มิดชิดเพื่อความปลอดภัยของเรา
Deep Web ถือว่าเป็นแดนสนธยาที่หลาย ๆ คนอยากที่จะลองสัมผัสสักครั้งหนึ่ง ดังนั้นเราควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับการท่องเว็บเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
