แม้ปัญหาจุกจิกเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเกม ไม่ได้ทำให้ความสนุกจากการเล่นเกมที่คุณรักลดลงแต่อย่างใด แต่ปัญหาดังกล่าว มันอาจจะทำให้การเล่นสะดุด ขาดราบรื่นได้ แล้วนี่คือ 6 ปัญหา Quality of Life เล็ก ๆ ที่นักพัฒนาเกมไม่ควรมองข้าม เพราะมันสร้างความรำคาญต่อผู้เล่นได้ไม่มากก็น้อย แล้วจะมีอะไรบ้าง ก็สามารถเข้าไปอ่านได้เลย
ไม่สามารถข้ามฉากคัตซีนไปได้
แม้พวกเราชื่นชอบการเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ แต่ความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนชอบเล่นเกมนี้ เพราะระบบการต่อสู้ดี มีความท้าทาย บางคนชอบเกมนั้น เพราะมีเนื้อเรื่องน่าจดจำ และเหตุผลอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ทำให้เกมในทุกวันนี้ มีหลากหลายแนวให้เลือกเล่นมากมาย
แต่แน่นอน ไม่ใช่เกมเมอร์ทุกคนจะชื่นชอบการเสพเนื้อเรื่อง หรือการรับชมฉากคัตซีนเป็นเวลานาน ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทีมงานจึงมีการใส่ตัวเลือกให้ผู้เล่นกดปุ่ม Skip เพื่อข้ามฉากคัตซีนไปได้
แต่อย่างไรก็ตาม เราพบว่าเกมบางเกมในปัจจุบัน (โดยเฉพาะเกมที่ขายเนื้อเรื่องเป็นหลัก) ไม่มีตัวเลือกให้ผู้เล่นสามารถกดข้ามฉากคัตซีนได้ ซึ่งแน่นอนว่าการที่เกมไม่มีปุ่ม Skip ฉาก มันอาจจะสร้างความรำคาญใจให้เหล่าเกมเมอร์บางคนได้มากเลยทีเดียว
Auto Save ถี่หรือนานเกินไป
Auto Save เป็นฟีเจอร์ฟ้าประทาน ที่ช่วยให้เกมเมอร์ไม่ต้องเข้าหน้าเมนูหลายครั้ง เพื่อกด Save ด้วยตัวเอง หรือใช้เป็นไฟล์ Back Up ให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกมต่อได้โดยไม่สูญเสียความคืบหน้ามากนัก หากอุปกรณ์เกิดปัญหาจนทำให้เกม Crash ออกจากเกมเอง
แต่อย่างไรก็ตาม การที่ Auto Save ทำงานถี่จน Save ผิดที่ผิดเวลา เช่น บันทึกไฟล์ระหว่างตัวละครกำลังโดนโจมตีจนตาย หรือมีความถี่ช้า จนเหมือนระบบไม่ได้ทำงานนั้น มันกลับส่งผลเสีย ทำให้ประสบการณ์ในการเล่นเกมเกิดการหยุดสะดุดซะเอง
การฟาร์มไอเทมที่แสนน่าเบื่อ
การฟาร์มไอเทม อาจจะเป็นความสนุกสนานที่ได้จากการเล่นในช่วงแรก แต่พอเข้าสู่ช่วง End-Game หรือกลายเป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำทุกวันดั่งกับการทำงาน แน่นอนว่าการฟาร์มของที่เราเคยสนุกกับมัน อาจจะกลายเป็นสิ่งที่เราเกลียดไปเลยก็ได้
วิธีแก้ปัญหาเบิร์นเอาท์จากการเล่นวิดีโอเกม คือควรพักหันไปทำกิจกรรมอย่างอื่นแทน หรือเลิกเล่นเป็นเวลาชั่วคราว แต่นักพัฒนาเกม ก็สามารถปรับปรุง Quality-of-Life ของเกมได้ด้วยการปรับอัตราเรตดรอป หรือเพิ่มจำนวนการดรอปของไอเทม ซึ่งมีส่วนช่วยให้การเดินทางฟาร์มไอเทมกินเวลาลดลงตามมา
หน้า HUD รกหน้าจอเกินไป
หนึ่งในปัญหา Quality-of-Life ที่เจอบ่อยในเกมยุคนี้ คือหน้าตา HUD ที่รกหน้าจอจนเกินไป แม้ข้อเสียดังกล่าวไม่ได้ส่งผลต่อเกมการเล่นมากนัก แต่การโชว์ข้อมูลบนหน้าจอที่มากเกินความจำเป็น มันก็สร้างความสับสนให้เหล่าเกมเมอร์ได้เช่นกัน
บางเกมได้แก้ปัญหานี้ ด้วยการเพิ่มตัวเลือกให้ผู้เล่นสามารถตกแต่งหน้าจอ HUD ได้ตามใจชอบ เช่น อยากจะให้หลอดพลัง HP อยู่ที่ไหน, เปิด/ปิดตัวเลขดาเมจ และวางตำแหน่ง Mini-Map ไว้ที่ไหน และองค์ประกอบอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้หน้าจอ HUD ไม่รกอีกต่อไป
ใช้เวลากับการเลือกหรือดูเมนูนานเกินจำเป็น
เกมเมอร์อาจรู้สึกเบื่อหน่ายกับการใช้เวลาเลือกคำสั่ง หรือดูหน้าเมนูนานเกินไป เนื่องจากต้องคลิกหลายครั้ง หรือข้อมูลที่หน้าเมนูขาดความชัดเจน ซึ่งมันก็เป็นหน้าที่ของนักออกแบบ UI/UX ที่ต้องมอบประสบการณ์การใช้เมนูให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการรีดีไซน์ UI ใหม่ หรือเพิ่มฟีเจอร์กับคำสั่งต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้เล่นได้ใช้เวลากับหน้าต่างเมนูน้อยลง แล้วกลับมาเล่นเกมอย่างรวดเร็ว
ยกตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด คือเกม MMO บางเกม มีตัวเลือก “Auto Sell” ให้ผู้เล่นสามารถขายไอเทมที่ไม่จำเป็นเองอัตโนมัติ โดยไม่ต้องคลิกเลือกไอเทมทีละชิ้นให้เสียเวลา
ขาด i-frame ทำให้การต่อสู้สะดุดตลอดเวลา
นึกถึงสภาพว่าระหว่างเตรียมปล่อยท่าไม้ตายในเกม Singleplayer แนวแอ็กชัน Hack and Slash จู่ ๆ ก็มีศัตรูตัวหนึ่งเข้าจู่โจมเราแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วทำให้ท่าไม้ตายถูก Cancel ซึ่งมันเป็นโมเมนต์ที่สร้างความหัวร้อนให้เหล่าผู้เล่นได้มากเลยทีเดียว
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทีมงานจึงมีการใส่ i-frame (invincible frame) ให้ผู้เล่นเป็นอมตะในเสี้ยววินาที หรือระหว่างการปล่อยท่าไม้ตาย เพื่อให้เกมการเล่น กับการเคลื่อนไหวของตัวละครระหว่างการต่อสู้รื่นไหล ซึ่งการเพิ่ม i-frame ก็ถือเป็นการอัปเดต Quality-of-Life อย่างหนึ่งที่ทำให้การเล่นสะดวกสบาย โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความยากท้าทายมากนัก
