BY KKMTC
23 Jun 23 6:27 pm

6 เกมยิง Multiplayer ที่เล่นสนุกได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ทีมเวิร์คหรือมีเพื่อน

85 Views

แม้การเล่นเกมยิง Multiplayer กับเพื่อนคนสนิทหลายคนพร้อมกันจะทำให้เกมสนุกสนานขึ้น แต่เกมเน้น Multiplayer บางเกม ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ทีมเวิร์คหรือมีเพื่อนก็เล่นสนุก และเอาชนะการแข่งขันได้โดยไม่ต้องสนทนาวางแผน

นี่คือ 6 เกมยิง Multiplayer ที่ไม่จำเป็นต้องมีทีมเวิร์คหรือเพื่อน ก็เล่นสนุกสนานได้ แล้วจะมีเกมอะไรบ้าง ก็เข้าไปอ่านกันได้เลย

Fortnite

Fortnite (2)

จากที่ Fortnite เป็นเกมที่หลายคนต่างดูถูกดูแคลนว่าเป็นเกม “สำหรับเด็ก” ปัจจุบัน Fortnite กลายเป็นสุดยอดเกม Battle Royale ที่ได้รับความนิยมมาตลอดหลายปี

นอกจาก Fortnite มีความพิเศษได้ด้านการนำเสนอป๊อปคัลเจอร์ที่ไปแบบสุดทาง และมีระบบก่อสร้างที่ใช้สำหรับบังกระสุนแล้ว เกมดังกล่าวถือว่าเข้าถึงง่ายสำหรับใครหลายคน ด้วยระบบเกมการเล่นที่ไม่ซับซ้อน มีโหมดเกมหลากหลาย ในงานภาพการ์ตูนที่สดใส และที่สำคัญที่สุด เกมนี้มีโหมด Solo ที่ทุกคนต้องเอาตัวรอดในสนามรบเพียงลำพัง

Team Fortress 2

Team Fortress 2

ถึงแม้ Team Fortress 2 เป็นเกม Multiplayer แบบ Team-Based และ Class-Based ที่มีบรรยากาศความเป็นเกม Competitive อยู่บ้าง แต่ด้วยกฎกติกาการเล่นเกมที่เรียบง่าย และรองรับผู้เล่นได้หลายคนต่อหนึ่งเซิร์ฟเวอร์ ทำให้ Team Fortress 2 เป็นเกมเล่นหลายคนที่มีสเกลค่อนข้างใหญ่ และเต็มไปด้วยบรรยากาศความวุ่นวาย ซึ่งวุ่นวายมากจนผู้เล่นเกือบทุกคนให้ความสำคัญกับการทำ Kill เป็นอันดับแรก ส่วนการทำ Objective และทีมเวิร์คเป็นเรื่องรอง

และที่สำคัญที่สุด เกมเมอร์จะไม่ถูกลงโทษจากการออกเกมระหว่างการเล่น และไม่มีระบบ Battle Pass อีกด้วย ซึ่งหมายความว่า Team Fortress 2 เป็นเกมที่คุณสามารถเข้ามาเล่นอย่างสนุกสนานตอนไหนก็ได้ ถ้าหากเล่นจนเบื่อแล้วก็กดออกจากเกมได้ โดยไม่สร้างความขุ่นเคืองให้เพื่อนร่วมทีม

Apex Legends

ถึงแม้ Apex Legends เป็นเกม FPS Battle Royale ที่ต้องสื่อสารกับเพื่อน เพื่อวางแผนและดำเนินการต่าง ๆ แต่เนื่องจากตัวเกมได้ออกแบบระบบการสื่อสารที่ดีมาก Apex Legends จึงเป็นเกม Multiplayer ที่สามารถเล่นได้โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งไมโครโฟน

Apex Legends มีระบบการสื่อสารอย่างหนึ่งที่เรียกว่า “Ping” ซึ่งเป็นการชี้ในแผนที่ ให้เพื่อนในทีมทุกคนสามารถรู้เป้าหมาย แล้วด้วย Gunplay ที่สนุกสนาน ทุกตัวละครมีความสามารถเฉพาะตัว และเกมเพลย์เน้นแอ็กชันบุกทะลวง ใช้ Skill-Based ซึ่งไม่เหมือนเกม Battle Royale อื่น ๆ ที่เน้นการเอาตัวรอด ทำให้ Apex Legends เป็นเกม Multiplayer ที่ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนก็เล่นสนุกได้

Call of Duty (Multiplayer)

Call of Duty

โหมด Multiplayer ของเกมตระกูล Call of Duty จะแตกต่างจาก Warzone ซึ่งเป็นภาค Battle Royale ค่อนข้างอย่างเห็นได้ชัด เพราะ Multiplayer เปรียบเสมือนเป็นการเล่นเกมหลายคนแบบคลาสสิก ที่เน้นจบเร็ว, มี Gunplay กับ Movement ที่ Fast-Paced และมีโหมดเกมหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Team Deathmatch, Free for All (Deathmatch), Domination และอื่น ๆ อีกหลายโหมดที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้

คล้ายกับ Team Fortress 2 โหมดเกมทั่วไปใน Call of Duty Multiplayer ที่นอกเหนือจากการไต่แรงก์ และโหมดที่ปิดการ Respawn ผู้เล่นจะสามารถเข้าเล่นเกมนี้ตอนไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาทีมเวิร์คมากนักเพื่อเอาชนะ และผู้เล่นสามารถออกจากเกมตอนไหนก็ได้โดยไม่ต้องโดนลงโทษ

Battlefield

Battlefield 2042

Battlefield เป็นเกม FPS สเกลใหญ่ที่มีจุดเด่นในด้านการออกแบบสนามรบขนาดยักษ์ รองรับผู้เล่นได้หลายคน และมียานพาหนะรบให้ขับหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเฮลิคอปเตอร์ รถถัง รถหุ้มเกราะเบา ไปจนถึงรถต่อต้านเครื่องบินรบ ด้วยองค์ประกอบดังกล่าว ทำให้สนามรบของเกม Battlefield จึงเปรียบเสมือนเป็นสนามเด็กเล่นที่ต่างคนต่างเล่น เพื่อกำจัดฝ่ายตรงข้าม แล้วคว้าชัยชนะมาให้ได้

XDefiant

XDefiant

แม้ตัวเกมยังไม่เปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการ แต่กระแสตอบรับในช่วงทดลอง Beta จากผู้เล่นถือว่าดีเกินคาด เพราะเกมการเล่นที่ Fast-Paced, มีกฎการเล่นเข้าใจง่าย และไม่ต้องพึ่งพาทีมเวิร์คมากนัก ทำให้ XDefiant ได้รับความสนใจจากผู้เล่นหลายคน และแสดงความคิดเห็นว่าเกมดังกล่าว คือ “Call of Duty อย่างที่ควรจะเป็นในตอนนี้”

แม้ XDefiant ไม่ใช่ “Call of Duty Killer” (นักฆ่า Call of Duty) แต่ก็มีศักยภาพมากพอที่อาจจะเป็น “Call of Duty Alternative” (ทางเลือกอื่นที่นอกจาก Call of Duty) ได้ ซึ่งตัวเกมมีแผนลงในระบบ PC, PlayStation 4, PlayStation 5, Xbox One, Xbox Series โดยยังไม่มีกำหนดเปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการ

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top