ทำเอาหลายคนติดกันไปงอมแงมเลยทีเดียว สำหรับเกม RPG ตัวใหม่อย่าง Honkai: Star Rail ที่เปิดให้บริการมาได้สองสัปดาห์แล้ว นอกจากตัวเกมที่สนุก ชวนติดพัน ฟาร์มกันทุกวี่ทุกวันแล้ว สิ่งที่น่าสนใจก็คือความลับหรือ Easter Egg ต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ภายในเกม ผ่านประโยคและบทสนทนาต่าง ๆ ที่ถ้าเกิดว่าใครเห็นข้อความก็น่าจะพอเดากันได้ว่า นี่มันเป็นประโยคจากหนังและซีรีส์ดัง ๆ กันทั้งนั้น รวมไปถึงมีอ้างอิงจากเกมอื่น ๆ ด้วย วันนี้เราเลยจะมาดูกันว่า Easter Egg ใดบ้าง ที่อยู่ในเกมนี้
1. The Shining
The Shining หรือโรงแรมผีนรก ผลงานภาพยนตร์สยองขวัญชื่อดังของ Stanley Kubrick ที่ออกฉายมาตั้งแต่ปี 1980 ถูกนำมาเป็น Reference ภายในเกมนี้ด้วย โดยมีการพูดถึงในทางเดินโรงแรมที่ Overworld Goethe Hotel ที่ Belobog ที่ผู้เล่นสามารถกดตอบโต้กับประตูห้องแต่ละห้องได้ และสามารถได้ยินเสียงที่อยู่ในประตูด้วย มีการพูดถงึลูกบอลที่กระทบกันตลอดเวลา ไปจนถึงครอบครัว Torrance และตัว Danny Torrance ด้วย และมีแขกพูดถึงฝันร้ายเกี่ยวกับชายถือขวาน ซึ่งทุกอย่างก็เชื่อมโยงกับ The Shining ทั้งหมด โดย Easter Egg นี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อผู้เล่นกดคุยกับประตูทุกบานภายในโรงแรม และจะเกิดฉากคัทซีนแสดงให้เห็นหญิงฝาแฝดที่ปลายสุดทางเดิน และมองมาที่ตัวละครของเรา และเด็กแฝดจะขอให้เราอยู่เล่นกับพวกเธอตลอดไป
2. Fight Club
อีกหนึ่งภาพยนตร์ดังอย่าง Fight Club ก็ถูกหยิบมาอ้างอิงในเกมนี้ด้วย สำหรับ Fight Club คือหนังระดับตำนานของ David Fincher ที่ออกฉายไปในปี 1999 โดยภารกิจที่เอ่ยถึงชื่อนี้จะมาตั้งแต่ช่วงแรกที่เราลงไปยังเมือง Belobog และเป็นส่วนของภารกิจเนื้อเรื่องหลักด้วย โดยเมื่อคุยกับ Hook เธอจะเอ่ยถึง Underworld’s Fight Club โดยผู้เล่นจะมีตัวเลือกบทสนทนา 2 ทาง โดยหนึ่งในนั้นคือ “I thought the first rule was…” (ฉันคิดว่ากฎข้อแรกคือ..) ซึ่งเป็นการพูดถึงหนังชื่อดังนี้โดยตรง เพราะหนังเรื่องนี้มีประโยคเด็ดคือ กฎข้อแรกคือห้ามพูดถึง Fight Club ชัดเจนว่า Honkai: Star Rail ก็อ้างอิงหนังเรื่องนี้โดยตรงเลย
3. Breaking Bad & Spider-Man
Breaking Bad ซีรีส์ชื่อดังและเป็นอีกตำนานของวงการซีรีส์เลย ซึ่ง Honkai: Star Rail เอง ก็มีการพูดถึงซีรีส์เรื่องนี้ด้วย โดยช่วงเนื้อเรื่องก่อนจบเหตุการณ์ทั้งหมดใน Belobog ก่อนออกจากห้องพักในโรงแรม จะมีให้เราเลือกตอบแบบสอบถามความพึงพอใจ โดยรวมคำถามเกี่ยวกับที่พัก มุมมองความคิด และอื่น ๆ อีกมากมาย และเมื่อใกล้จบแบบฟอร์ม เราสามารถเลือกทิ้งชื่อเอาไว้ได้ 3 ชื่อ คือ BoyJav, Your Friendly Neighbor Nameless และข้อสุดท้ายคือ Heisenberg โดยเป็นการอ้างอิงถึงซีรีส์ Breaking Bad และนอกจากนั้น ข้อสองก็ไม่ใช่ตัวละครอื่นไกล แค้เพื่อนบ้านที่แสนดีก็คือ Spider-Man จาก Marvel นั่นเอง
4. The Matrix
การอ้างอิงถึง The Matrix นั้น อยู่ในภารกิจรองของ Herta Space Station กับภารกิจ To: The Faint Star เรื่องราวความรักที่ไม่ได้รับการตอบรับ และเมื่อผู้เล่นค้นพบความจริง เราสามารถเลือกได้ว่า จะบอกความจริงหรือโกหกตัวละครตัวนั้น โดยเราต้องไปหาตัวละคร Bernard ซึ่งเขาจะถามเราว่า จะเลือกบอกความจริงสีแดง หรือคำโกหกสีน้ำเงิน ซึ่งก็เป็นการอ้างอิงถึงยาเม็ดสีแดงและสีน้ำเงินจากหนัง The Matrix นั่นเอง
5. Rick Astley เจ้าของเพลงฮิต Never Gonna Give You Up
ศิลปินดัง Rick Astley ที่เป็นเจ้าของเพลงดังอย่าง Never Gonna Give You Up เอง ก็ถูกพูดถึงในเกมนี้ด้วย แต่การอ้างอิงนี้อยู่ในไฟล์เอกสารในเกม โดยข้อควาในเอกสารระบุว่า
“The Aeon will never give you up, never let you down, or abandon you. They will never make you cry, say goodbye, or tell a lie and hurt you
ชัดเจนว่าเป็นข้อความที่ดัดแปลงเนื้อเพลงดังของ Rick Astley นั่นเอง
6. Bloodborne
bloodborne references in honkai star rail 😦🔥 pic.twitter.com/zUZb573AZ7
— sun. (@kunixija) April 27, 2023
Easter Egg สำหรับแฟน ๆ เกมโซลอย่าง Bloodborne เอง ก็ถูก Reference ถึงในเกมนี้ด้วยเช่นกัน โดยภารกิจนี้อยู่ในเมือง Rivet Town เมื่อเข้าสู่เมืองนี้ เราจะได้ยินเสียงเบา ๆ และเมื่อเข้าใกล้หน้าต่างของบ้านตรงทางเข้าเมือง เราจะสามารถคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ยุ่งอยู่กับน้องสาวของเธอ โดยหลังจากออกเดินทาง เราจะได้เจอกับ Warp Trotter ที่เป็นสัตว์รูปร่างคล้ายหมู และเมื่อเอาชนะได้ เราจะได้ไอเทม Dirty Ribbon Tied to a Bell หากนำริบบิ้นนี้กลับไปให้หญิงสาวที่หน้าต่าง เธอจะทิ้งกล่องดนตรีที่เสียหายไว้ให้ และเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกสาวของ Father Gascoigne ในเกม Bloodborne ตั้งแต่การที่พบเด็กสาวถูกสัตว์คล้ายหมูกิน ทิ้งริบบิ้นไว้ ไปจนถึงกล่องดนตรีเลยทีเดียว
