ไม่ว่าจะผ่านไปนานกี่ปีกี่ทศวรรษ ประเทศญี่ปุ่นก็ยังคงเป็นแชมป์แห่งเกมอาร์เคด ที่มีตู้เกมให้เลือกเล่นมากมายตามสถานที่เกมเซนเตอร์หลายแห่ง ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้ทีมพัฒนาบางทีม สามารถคิดค้นไอเดียที่บ้าบิ่น แล้วถูกพัฒนากลายเป็นตู้เกมสุดพิสดาร ที่มองเห็นครั้งแรกก็ต้องรู้เลยว่าต้องเป็นตู้เกมจากแดนปลาดิบอย่างไม่ต้องสงสัย
Densha De Go!!
Densha De Go!! เป็นแฟรนไชส์เกมจำลองการขับรถไฟโดยสาร ที่ได้รับการพัฒนาภาคต่อมาแล้วหลายภาค จนมันกลายเป็นหนึ่งในซีรีส์เกมโด่งดังที่หลายคนอาจจะไม่ทราบมาก่อน เพราะเกมดังกล่าวมีให้เล่นเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น
เกมดังกล่าวนอกจากมีระบบเกมเพลย์ที่สมจริงแล้ว Densha De Go!! ก็มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านการออกแบบตู้เกม ที่ข้างในจะเป็นห้องขับรถไฟที่ขนาดกว้างใหญ่เทียบเท่ากับของจริง รวมถึงมีคอนโทรลเลอร์การบังคับรถที่ดูซับซ้อนกว่าเกมตู้ไตเติลอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด ทำให้ประสบการณ์การเล่น Densha De Go!! ได้มอบบรรยากาศความ Immersive ที่เหมือนผู้เล่นกำลังขับรถไฟโดยสารคล้ายในชีวิตจริง
Typing of the Dead
เกมเมอร์หลายคนทราบกันดีว่า Typing of the Dead เป็นเกมภาค Spin-Off ของ The House of the Dead ที่เปลี่ยนจากการยิงปืนด้วย Light Gun กลายเป็นยิงปืนด้วยการพิมพ์ดีดแทน
Typing of the Dead หลายภาคมีการวางจำหน่ายในระบบ PC แต่เกมเมอร์อาจจะไม่รู้มาก่อนว่าเกมดังกล่าวนั้น มีรูปแบบตู้เกมอาร์เคดด้วย โดยตู้เกม Typing of the Dead จะมีลักษณะขนาดเล็กคล้ายกับตู้เกม Fighting คลาสสิก แต่เปลี่ยนจากแผงควบคุมจอยสติก กลายเป็นคีย์บอร์ดสำหรับใช้พิมพ์ดีดแทน และแน่นอน ตู้เกมนี้จะส่งเสียงดังมากกว่าเกมตู้อื่น ๆ เพราะเสียงพิมพ์ดีดที่ดุเดือด ดังสนั่นไปทั่วเกมเซนเตอร์
F-1
F-1 เป็นเกมแข่งรถสไตล์อาร์เคดจาก Namco (ปัจจุบัน คือ Bandai Namco Games) ที่ผู้เล่นต้องขับรถ Formula 1 แข่งขันคว้าชัยชนะอันดับ 1 และรักษาเวลาด้วยการเข้าถึงป้าย Checkpoint ให้ได้เร็วที่สุด
แม้ Concept เกมการเล่นของ F-1 จะไม่แตกต่างจากเกมแข่งรถเกมอื่นมากนัก แต่สิ่งหนึ่งที่ F-1 มีความล้ำหน้ากว่าเกมตู้ในปี 1976 คือตู้เกมใช้ภาพกราฟิกสามมิติ มีหน้าจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ รวมถึงเกมดังกล่าวช่วยมอบประสบการณ์ความ Immersive ให้ผู้เล่นด้วยระบบสั่นตรงส่วนของที่นั่ง ทำให้ F-1 เป็นเกมตู้ที่ล้ำหน้ามาก่อนกาลในช่วงปี 1970 ซึ่งเป็นยุคทองของตู้เกมที่ได้รับความนิยมจากหลายคนอย่างมาก
The Tablecloth Hour
หนึ่งในทริคมายากลยอดนิยมที่ผู้เล่นเกมต้องเคยเห็นผ่านตามาก่อน ก็คงไม่มีทางหนีพ้น การดึงผ้าปูโต๊ะ โดยสิ่งของทั้งหมดเช่น จาน แก้ว ที่อยู่บนโต๊ะไม่มีการหล่นตกแตกกระจายลงกับพื้น
และแน่นอน ผู้เล่นสามารถจำลองการทำทริคมายากลดังกล่าวได้ผ่านการเล่นเกมตู้ The Tablecloth Hour ที่ผู้เล่นต้องดึงผ้าปูโต๊ะสีแดงให้ได้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้สิ่งของที่อยู่บนโต๊ะหล่นแตกกระจายทั่วพื้น
Cho Chabudai Gaeshi
ทุกคนในวัยทำงานและวัยนักเรียน ล้วนต้องแบกรับความรับผิดชอบต่อการงาน การเรียน และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความตึงเครียด กับปัญหาชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่แน่นอน ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถทนรับความเครียดได้ตลอดทุกครั้ง ถ้าหากคุณรู้สึกหงุดหงิด อยากเขวี้ยงปาข้าวของเพื่อระบายอารมณ์ ตู้เกม Cho Chabudai Gaeshi สามารถตอบโจทย์ให้คุณ ด้วยระบบเกมเพลย์ที่ให้ผู้เล่นต้องคว่ำโต๊ะให้แรงที่สุด ด้วยอุปกรณ์ต่อพ่วงเป็นโต๊ะพลาสติก
ด้วยไอเดียตู้เกมที่ล้ำเลิศ มอบประสบการณ์การเล่นที่แปลกใหม่ และสามารถช่วยคลายเครียดให้กับหลายคนได้จริง ทำให้สื่อเกมหลายแห่งยกย่องให้ Cho Chabudai Gaeshi เป็นหนึ่งในตู้เกมที่แนะนำอยากให้เล่น หากมีโอกาสได้ไปประเทศญี่ปุ่นสักครั้งห นึ่ง
Boong-Ga Boong-Ga
จะบอกว่าเป็นเกมลูกครึ่งเกาหลี-ญี่ปุ่นก็ว่าได้ Boong-Ga Boong-Ga เป็นตู้เกมสุดเสื่อมที่พัฒนาโดยทีมงาน TaffSystem ในปี 2000 โดยเกมดังกล่าว มีกฎการเล่นง่าย ๆ เพียงแค่ผู้เล่นต้องกลั่นแกล้ง NPC ที่กำลังหันหลังด้วยการ “kancho” เพื่อทำคะแนนให้ได้สูงที่สุด
แม้ Boong-Ga Boong-Ga เป็นเกมตู้จากแดนเกาหลีใต้ แต่ทีมพัฒนายืนยันว่าเกมดังกล่าว ถูกออกแบบเพื่อตีตลาดในประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ และถึงอย่างนั้น แม้มีการทำสัญญาครั้งแรกว่าจะจำหน่ายให้ญี่ปุ่นจำนวน 200 เครื่อง แต่เมื่อถึงเวลาจำหน่ายจริง ปรากฏว่ามีการนำเข้าในประเทศเพียงแค่ 5 เครื่องเท่านั้น
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้ Boong-Ga Boong-Ga กลายเป็นเกมตู้หายาก ที่คาดว่าไม่มีทางหาเจอได้ตามร้านเกมเซนเตอร์อีกต่อไป
