ความสนุกของเกมแข่งรถบางเกม ไม่ได้มาจากการแข่งขันท้าประลองความเร็วแล้วคว้าชัยชนะจากการเข้าเส้นชัย แต่ความสนุกของ 6 เกมแข่งรถเหล่านี้ มาจากระบบการดริฟต์ที่สนุกสนานและท้าทาย จนบางครั้งลืมไปเลยว่าคุณกำลังแข่งขันคว้าที่ 1 เพราะเลี้ยวรถจนเพลิน แล้วมีเกมอะไรบ้างที่มีระบบดริฟต์แหกโค้งโดนใจขาซิ่ง ก็สามารถรับชมได้เลย
Race Driver GRID – เล่นสนุก ไม่ยาก แต่ก็ท้าทาย
GRID ทุกภาค เป็นเกมแข่งรถที่เน้นความเมามันมากกว่าความสมจริงอยู่แล้ว แต่ส่วนตัวขอยกให้ Race Driver GRID (หรือ GRID ภาคแรก) ให้เป็นเกมที่ดริฟต์ได้สนุกสนานเร้าใจที่สุด เพราะเกมภาคดังกล่าว มีความสมจริงน้อยหากเทียบกับ GRID 2 และภาค Reboot ที่เปลี่ยนระบบการเลี้ยวรถให้ดูสมจริงมากขึ้นจากภาคแรก
นอกจากนี้ Race Driver GRID มีโหมด Freestyle ที่เกมเมอร์สามารถขับรถโค้งดริฟต์ทั่วสนามแข่งท่าเรือโยโกฮามะ โดยโหมดดังกล่าว ผู้เล่นสามารถท้าทายตัวเองด้วยการตั้งค่าเวลาแข่งขันราว 10 นาที แล้วทำคะแนนดริฟต์ให้มากที่สุด หรือเล่นเพื่อฝึกฝนทักษะการดริฟต์ก็ได้
เนื่องจาก Race Driver GRID เป็นแนว Arcade Racing เพราะฉะนั้นการดริฟต์ในเกมนี้จึงสามารถทำได้ง่าย แต่เกมเมอร์ยังต้องใช้เวลาเล่นฝึกฝนเพื่อให้เก่งยิ่งขึ้น ก็ต้องบอกเลยว่า GRID เป็นเกมที่ค่อนข้างเข้าถึงขาซิ่งง่ายแต่ก็ท้าทายในเวลาเดียวกัน
Burnout – เน้นสนุก ดริฟต์ง่าย ชนแหลก
แม้ Burnout เป็นตระกูลเกมแข่งรถของค่าย Criterion Games ที่หลายคนรู้จัก เพราะฟิสิกส์พังทลายโมเดลรถยนต์สมจริง และระบบเกมเพลย์สุดเดือด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าสาเหตุที่ระบบเกมการเล่นของ Burnout เร้าใจซะขนาดนี้ เป็นเพราะการโค้งดริฟต์ (ในเกมเรียกว่า Powerslide) ที่ไม่สมจริงสุด ๆ
ในเกม Burnout ทุกภาค เพียงแค่กดแตะเบรก รถของคุณก็สามารถดริฟต์ได้แล้ว นอกจากนี้ การดริฟต์ในเกมเป็นจะช่วยเพิ่มหลอด Boost ให้รถของคุณใช้ Nitro เร่งความเร็วได้ เพราะฉะนั้นนอกจาก Takedown คู่ต่อสู้ การขับรถเสี่ยงอันตรายต่าง ๆ เช่น ขับรถย้อนศร เบียดรถสัญจรไปมา จะเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เกมสนุกสนานท้าทายแล้ว การดริฟต์ของเกมนี้เอง ก็ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เกมการเล่นเร้าใจยิ่งขึ้น
Need For Speed – ได้ดริฟต์ในเกมไม่พอ แถมได้สร้างรถในฝันด้วย
ไม่มีเกมเมอร์คนไหนไม่รู้จัก Need For Speed แฟรนไชส์เกมแข่งรถของค่าย EA ที่ดำเนินสร้างมาแล้วหลายภาค และยังมีฐานแฟนเยอะจนถึงทุกวันนี้
อย่างที่เกมเมอร์ทราบกันดีอยู่แล้วว่า Need For Speed เป็นเกม Arcade Racing เน้นความสนุกสนานเมามันมากกว่าความสมจริง ซึ่งระบบการแหกโค้งดริฟต์ของเกมนี้จะมีความยากท้าทายที่พอดี ไม่ยากหรือง่ายจนเกินไป รวมถึงภาพกราฟิกของเกมนี้ก็ไม่ขี้เหร่ เหมาะสำหรับการถ่ายรูป Screenshot อีกด้วย
นอกจากนี้ เกมตระกูล NFS มีระบบปรับจูนรถยนต์ที่เข้าใจง่าย แถมสามารถตกแต่งรูปลักษณ์รถยนต์ได้หลากหลาย ตั้งแต่เปลี่ยนกระจังหน้า สปอยเลอร์ ลวดลาย หรือแม้กระทั่งแต่งความร้อนแรงของไฟท่อไอเสีย (เฉพาะภาค Heat) ซึ่งต้องบอกเลยว่านี่อาจเป็นเกมเดียว ณ ตอนนี้ ที่คุณสามารถแต่งรถดริฟต์ของตัวเองได้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและไม่มีทางซ้ำกับใครแน่นอน
Assetto Corsa – เน้นความสมจริง ม็อดเยอะ
หากกำลังมองหาเกมแข่งรถที่มีระบบสมจริงเกือบหมดทุกอย่าง ตั้งแต่การปรับแต่งจูนรถ การทำงานของระบบขับเคลื่อนล้อ หรือแม้กระทั่งการโค้งดริฟต์ เกม Assetto Corsa ก็ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณมาก ๆ
Assetto Corsa เป็นเกมแข่งรถที่ไม่ได้มีเพียงระบบการเลี้ยวรถ การดริฟต์และองค์ประกอบอื่น ๆ ที่สมจริงเพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นเกมที่มีสังคมเกมเมอร์ชาว PC เหนียวแน่นมาก ๆ อีกเกมหนึ่ง เหล่านักพัฒนามักสร้างม็อดสุดเจ๋ง เช่น สนามแข่งรถ หรือรถยนต์ต่าง ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์ขาซิ่งสายดริฟต์โดยเฉพาะ แล้วพร้อมปล่อยให้สามารถดาวน์โหลดไปใช้งานได้ฟรี
เนื่องจาก Assetto Corsa เป็นเกมแข่งรถแบบสมจริง เราจึงแนะนำให้เล่นด้วยจอยพวงมาลัย เพื่อได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด
RFactor – ม็อดเยอะ และสังคมเกมดี โดนใจขาดริฟต์แน่นอน
RFactor เป็นหนึ่งในเกมแข่งรถแนว Simulator ได้รับความนิยมจนถึงทุกวันนี้ เพราะสังคมม็อดที่เหนียวแน่น และมีระบบเกมต่าง ๆ ที่สมจริงซึ่งหาเล่นค่อนข้างยากบนแพลตฟอร์ม PC
เกมเมอร์สามารถคาดหวังได้เลยว่าเกมนี้จะมีคอนเทนต์ม็อดต่าง ๆ ต้องโดนใจขาดริฟต์ ไม่ว่าจะเป็นม็อดสนามแข่งรถสุดคลาสสิกหรือท้าทาย ม็อดรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ที่ผ่านการปรับจูนให้ผู้เล่นพร้อมขับรถแหกโค้งได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องตั้งค่าเยอะให้วุ่นวาย
คล้ายกับ Assetto Corsa เนื่องจาก RFactor เป็นเกมแข่งรถแบบสมจริง เราจึงแนะนำให้ใช้จอยพวงมาลัยแทนคอนโทรลเลอร์ เพื่อรับประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด
Initial D Arcade Stage – Deja Vu !
Initial D คือมังงะและอนิเมะชื่อดังที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการแข่งขันรถยนต์ Touge (แข่งขัน 1 ต่อ 1) แบบผิดกฎหมาย ซึ่งเรื่องดังกล่าวสร้างกระแสวัฒนธรรม Car Culture ประเภทรถ JDM, เพลงแนว Eurobeat และเทคนิคการดริฟต์ให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก
เนื่องจาก Initial D กลายเป็นแฟรนไชส์โด่งดังไปแล้วทั้งในประเทศญี่ปุ่นกับต่างประเทศ ส่งผลทำให้ทีมพัฒนาเกม SEGA สนใจซื้อลิขสิทธิ์เรื่องดังกล่าว เพื่อนำไปพัฒนาเป็นเกม Initial D ในรูปแบบเกมตู้ แล้วใช้ชื่อเกมว่า Initial D Arcade Stage โดยปัจจุบัน เกมดังกล่าวมีจำนวนภาคทั้งหมด 9 ภาค (หากรวมภาคพอร์ตลงเครื่องคอนโซลด้วยเป็น 12 ภาค)
Initial D Arcade Stage เป็นเกม Racing Arcade ที่เกมเมอร์ต้องคว้าชัยชนะด้วยการปราบคู่แข่งโดยใช้ทักษะดริฟต์ ความมีสมาธิระหว่างแข่งขัน และปรับจูนรถยนต์ ซึ่งสนามแข่งส่วนใหญ่ของเกมนี้เป็นหุบเขาที่เต็มไปด้วยเส้นทางคดเคี้ยว และมีการบดบังวิสัยทัศน์หากแข่งขันในช่วงเวลากลางคืน เพราะฉะนั้นการจดจำสนามแข่ง ก็ถือเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ทำให้คุณสามารถเอาชนะเกมนี้
