“เกมนี้ห่วย” “เกมนี้มีคะแนนรีวิวไม่ดี” อาจจะเป็นคำที่เหล่านักพัฒนาเกมไม่อยากได้ยินมากที่สุด แต่บางทีมงานได้ตั้งใจวางจำหน่ายเกมที่มีคุณภาพไม่ดี หรือใช้ระบบเกมเพลย์ที่คิดว่าไม่น่าเวิร์คมาเป็นฟีเจอร์ จนผลลัพธ์ออกมาเป็นเกมที่ไม่ธรรมดาและแปลกใหม่ แล้วมีเกมอะไรบ้างที่เอาข้อเสียมาเป็นจุดขาย ก็เข้าไปอ่านกันได้เลย
Desert Bus
Desert Bus เป็นมินิเกมแนวขับรถแบบสมจริงในเกม Penn & Teller’s Smoke and Mirrors ซึ่งเกมนี้ “มีชื่อเสีย” ในด้านระบบเกมเพลย์ที่น่าเบื่อ ไม่มีความน่าตื่นเต้น เพราะสิ่งที่ผู้เล่นต้องทำในเกมนี้มีเพียงอย่างเดียว คือต้องขับรถบนถนนเส้นตรงไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีจุดหมายปลายทาง ไม่มีการจราจร ไม่มีภารกิจให้จอดรับผู้โดยสาร หรือหมายความว่าเป็นเกมที่ผู้เล่นต้องขับรถอย่างเดียวอย่างแท้จริง
ไอเดียของเกม Desert Bus มาจาก Penn & Teller คู่หูตลกชื่อดังระดับโลก เผยว่าสาเหตุที่เกมนี้ได้ถือกำเนิดขึ้น เพราะต้องการสร้างเกมที่สมจริง และเกมที่มี “เนื้อหาไม่รุนแรงที่สุดเท่าที่ทำได้” เพื่อตอบสนองต่อ Janet Reno นักการเมืองสหรัฐฯ ที่ชอบกล่าวหาว่าวิดีโอเกมเป็นสื่อที่สนับสนุนความรุนแรง ผลลัพธ์ออกมาจึงได้ถือกำเนิด Desert Bus เกมขับรถที่สมจริงมากจนไม่มีอะไรเลย
Postal
Postal ชื่อนี้เกมเมอร์หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะนี่คือหนึ่งในเกมที่สร้างกระแสถกเถียงต่อสังคมอย่างล้นหลาม ด้วยเนื้อหาที่เต็มไปด้วยความรุนแรง การเสียดสี การเล่นมุกตลกแบบไปสุดทางที่ต่ำตมกว่านี้ไม่อีกแล้ว
อ้างอิงจาก Vince Desi ผู้ให้กำเนิดทีมพัฒนาเกม Running with Scissors เผยว่าเป้าหมายในการสร้างเกม Postal มี 2 ข้อด้วยกัน โดยข้อแรกคืออยากจะสร้างเกมต้นตำรับของตัวเอง และข้อสอง อยากสร้างเกมที่ทำให้เกิดกระแสเดือดดาลต่อสังคม พวกเขาจึงมีความตั้งใจสร้างเกมนี้ให้ดู “แย่” ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ซึ่งคำว่า “แย่” ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงเกมที่เต็มไปด้วยบั๊ก หรือปัญหาประสิทธิภาพ แต่หมายถึงในแง่ของการนำเสนอที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเซอร์ไพรส์ ตกใจ หรือแย่กับคอนเทนต์ภายในเกมนี้
ถึงแม้เกมนี้มีคะแนนรีวิวออกไปในทางผสมจากสื่อซะส่วนมาก แต่ด้วยตัวเกมได้มอบความอิสระต่อผู้เล่นอย่างสูงสุด ทำให้เกมนี้ได้รับความนิยมจากผู้เล่นในกลุ่มคนรักเกม Cult ทำให้นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทีมพัฒนาได้โปรโมตเกมนี้โดยใช้สโลแกนว่า “Worst Game Evermade” มาโดยตลอดจนถึงทุกวันนี้
Don’t Buy This
Don’t Buy This เป็นเกมสำหรับคอมพิวเตอร์ ZX Spectrum ที่ออกวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี 1985 และแน่นอน ชื่อเกมก็บ่งบอกแล้วว่าเกมนี้ต้องมีเบื้องหลังบางอย่างที่ไม่ธรรมดา
ชื่อเกมนี้ไม่ได้ตั้งขึ้นมาแบบเล่น ๆ อ้างอิงจากเว็บไซต์ World of Spectrum เผยว่าช่วงก่อนเกมวางขาย ตัวแทนจำหน่าย Firebird ได้ขอให้นักพัฒนาได้สร้างเกมจำนวน 5 เกมด้วยกัน แต่ผลลัพธ์ออกมาเกมทั้งหมดที่พวกเขาขอให้สร้างนั้นกลับ “ไม่มีความเป็นต้นฉบับ” และ “คุณภาพแย่”
แต่แทนที่ตัวแทนจำหน่ายจะตีเกมกลับให้ไปแก้ไขเกมให้ดีขึ้น แต่ Firebird กลับนำเกมทั้งหมด 5 เกมมาอัดรวมกันในแผ่นเกมเดียว แล้วออกวางจำหน่ายโดยใช้ชื่อเกม “Don’t Buy This: Five of the Worst Games Ever” พร้อมอธิบายว่าผู้เล่นสามารถเอาเกมนี้ไปทำเป็นแผ่นเกมเถื่อนได้เลย
ถึงแม้เกมนี้มีคะแนนรีวิวแย่ชมกับชื่อเกม แต่เกมดังกล่าวกลับทำยอดขายได้ประสบความสำเร็จซะอย่างนั้น
Surgeon Simulator
หลังจาก Goat Simulator ได้สร้างกระแสเกมแนว (ไม่) สมจริงสุดฮา ทำให้ทีมพัฒนาเกมต่าง ๆ ก็เริ่มหันมาสร้างเกม Simulation สุดแปลกตามเทรนด์ ซึ่ง Surgeon Simulation ก็เป็นหนึ่งในเกมที่เอาแรงบันดาลใจมาจาก Goat Simulator ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อปี 2012
เดิมที Surgeon Simulator เป็นเกมที่สร้างขึ้นเพื่อเข้าร่วมรายการ Global Game Jam หรืองานประกวดการสร้างเกมภายใน 48 ชั่วโมง ส่วนการควบคุมของเกมนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกม Jurassic Park: Trespasser ที่ทุกนิ้วมือของผู้ผ่าตัดในเกมจะควบคุมผ่านปุ่มคีย์บอร์ด ซี่งทำให้การผ่าตัดในเกมเป็นไปได้อย่างยากลำบาก เพราะระบบการควบคุมนิ้วมือที่ไม่สมเหตุสมผล
ทีมพัฒนาเกมยอมรับว่าตอนแรกไม่มีความมั่นใจว่าเกมนี้จะทำออกมา “ตลกจริง ๆ” หรือไม่ แม้ในระหว่างการพัฒนาเกม ทีมงานจะรู้สึกขำขันกับระบบควบคุมนิ้วมือก็ตาม ถึงอย่างนั้น เนื่องจากผู้ชมในงานประกวดหลายคนกลับชื่นชอบการนำเสนอของเกมนี้ ทีมงานจึงเดินหน้าพัฒนาเป็นเกมเวอร์ชันเต็มในที่สุด
Octodad
คล้ายกับ Surgeon Simulator เกม Octodad สร้างโดยเอาแรงบันดาลใจมาจาก Jurassic Park: Trespasser ซึ่งทีมงานอธิบายว่าระบบการควบคุมของเกม Trespasser นั้น มีความตั้งใจจะเป็นฟีเจอร์เจ๋ง ๆ แต่ผลลัพธ์กลับตาลปัตร กลายเป็นฟีเจอร์ที่ทำให้เกมพังเต็มไปด้วยบั๊กมากมาย
ถึงอย่างนั้น แทนที่ทีมงานจะเอาการควบคุมของเกม Trespasser มาขัดเกลาใหม่ให้ดีกว่าเดิม แต่ทีมงานยืนหยัดเอาระบบการควบคุมของเกม Trespasser ที่ชวนหงุดหงิดมาใช้ต่อโดยไม่มีแก้ไขใด ๆ เพราะมันทำให้การเล่นเกมตลกขำขันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แม้ระบบการควบคุมของ Octodad จะแปลกประหลาด แต่เกมดังกล่าวมีกระแสตอบรับดีในด้านเกมเพลย์แปลกใหม่ และการนำเสนอเนื้อหาคอเมดี้แบบ Slapstick สร้างเสียงหัวเราะให้ผู้เล่นได้หลายคน นอกจากนี้ แม้การควบคุมของเกมนี้จะประหลาด แต่เนื่องจากทีมงานออกแบบเกมให้เน้นจบด่านอย่างรวดเร็ว จึงมีส่วนช่วยให้เกมเมอร์ส่วนมาก ไม่รู้สึกหัวร้อนจากการเล่นเกมนี้แต่อย่างใด
Hong Kong 97
Hong Kong 97 เป็นเกมแนว Shoot’em Up ของ Super Famicom ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘เกมห่วยที่สุดตลอดกาล’ เนื่องจากคุณภาพเกมสอบตกทั้งด้านเกมเพลย์ ภาพกราฟิก และการนำเสนอเนื้อเรื่อง
ตัวเกมพัฒนาโดย Kowloon Kurosawa (นามแฝง) นักเขียนและนักข่าวชาวญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าเกมดังกล่าวได้พัฒนาขึ้น โดยมีเป้าหมายต้องการสร้างเกมที่เลวร้ายที่สุดเป็นไปได้ เพื่อล้อเลียนอุตสาหกรรมเกม รวมถึงเกมดังกล่าวใช้เวลาสร้างเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น
เนื่องจากเกม Hong Kong 97 ได้มีการโฆษณาเฉพาะในนิตยสารใต้ดิน และซื้อได้จากการติดต่ออีเมลเท่านั้น ทำให้เกม Hong Kong 97 จำหน่ายได้เพียงแค่ 30 ชุด และไม่เป็นที่รู้จักสำหรับเกมเมอร์หลายคน จนกระทั่งปลายยุค 2000 จนถึงต้นยุค 2010 เกมดังกล่าวก็เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง หลังจาก YouTuber ชื่อดัง Angry Video Game Nerd ได้มีการรีวิวเกมนี้
ถึงแม้ Hong Kong 97 เป็น ‘เกมห่วยที่สุดตลอดกาล’ แต่เนื่องจากคุณภาพที่แย่แบบไปสุดทาง ทำให้มันกลายเป็นเกมที่มีผู้ติดตาม Cult Following จำนวนหนึ่งไปโดยปริยาย
