BY KKMTC
16 Jun 22 6:21 pm

7 บทลงโทษสุดแสบสำหรับคนชอบ Rage Quit

124 Views

Rage Quit หรือการออกจากเกมระหว่างการแข่งขัน เป็นพฤติกรรมที่พบเห็นเป็นประจำตามเกม Multiplayer หรือ CO-OP แต่ถึงนั้น เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าว ส่งผลทำให้บาลานซ์ของเกมขาดความสมดุล พร้อมทั้งทำลายบรรยากาศ และประสบการณ์ระหว่างการเล่น ทีมพัฒนาเกมจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกเหนือจากใส่บทลงโทษ เพื่อหวังลดอัตราผู้ออกจากเกมกลางทาง

แน่นอน ผู้เล่นสาย Rage Quit ก็ยังมีให้เห็นออกมาเรื่อย ๆ ทีมพัฒนาเกมเริ่มใช้มาตรการแสบ ๆ เพื่อทำโทษผู้เล่น Rage Quit จนพวกเขาต้องหลาบจำไปอีกนาน

เตือนโดยไม่บอกว่าจะโดนลงโทษนานเท่าไหร่ – Splatoon 2

Splatoon 2

Splatoon 2 คือเกมแนว Shooting ที่มีเนื้อหาเป็นมิตรสำหรับคนทุกวัย แต่หากคุณออกจากเกมกลางทาง ไม่ว่าจะเป็น Rage Quit หรือถูก Auto-Disconnect เพราะสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ดีก็ตาม ผู้เล่นจะได้รับการเตือนจากเกม โดยมีข้อความโทนเอาจริง ซึ่งขัดกับบรรยากาศในเกมที่สดใส มีชีวิตชีวา

หากคุณออกจากการแข่งขันกลางทาง ผู้เล่นจะได้รับข้อความเตือนว่า ตัวเกมตรวจพบว่าคุณอาจกำลังทำ “กิจกรรมที่น่าสงสัย” ถ้าหากออกจากเกมอีกครั้ง ผู้เล่นอาจโดนแบนจากการเล่นโหมด Online ชั่วคราว ขอให้มั่นใจว่าสัญญาณอินเทอร์เน็ตของอุปกรณ์ไม่มีอาการเสียหายแต่อย่างใด แล้วโปรดลองเล่นอีกครั้ง

แม้ไม่ได้มีการบอกชัดเจนว่า หากออกจากเกมกลางทางอีกครั้ง ผู้เล่นจะถูกแบนไม่ให้เล่นโหมด Online กี่นาที แต่รู้แค่ว่าถ้าออกจากเกมในระหว่างการเล่นรอบต่อไป ผู้เล่นต้องโดนลงโทษอย่างแน่นอน

คนทำผิด ต้องโดนสวมหมวกเด็กไม่ดี – GTA Online

Gta Online

GTA Online เป็นเกม Multiplayer ของ Grand Theft Auto V ที่ผู้เล่นต้องร่วมมือทำภารกิจกับเพื่อน ๆ เพื่อปิดจ็อบ แล้วรับเงินรางวัลค่าจ้างตามส่วนแบ่ง

แน่นอน เนื่องจากการทำงานแบบทีมเวิร์ก คือกุญแจสำคัญในการผ่านภารกิจต่าง ๆ ฉะนั้นพฤติกรรม Rage Quit กับ Troll จึงเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว Rockstar Games จึงตั้งกฎบทลงโทษว่าถ้าหากกระทำความผิดเหมือนที่กล่าวไว้ด้านบนติดต่อกันหลายครั้ง ทีมงานจะทำการแจกหมวก “dunce hat” แล้วบังคับให้สวมใส่ตลอดเวลาจนกว่าจะหมดเวลาพ้นโทษ เพื่อแสดงว่าคุณนั้นเป็นผู้เล่นที่เพิ่งก่อพฤติกรรมที่ไม่น่ารักเอาซะเลย

ออกจากเกมบ่อยนัก ก็ไปอยู่คิวท้าย ๆ ละกัน – League of Legends

League Of Legends

 

MOBA เป็นเกมอีกหนึ่งแนวที่เผชิญหน้ากับปัญหาผู้เล่น AFK (Away from Keyboard) กับ Rage Quit เป็นประจำ บางทีมพัฒนาจึงใช้ระบบ LeaverBuster ทำหน้าที่ตรวจจับคนออกจากเกมกลางทาง พร้อมมอบบทลงโทษด้วยการบังคับให้ผู้เล่นติดอยู่ในสถานะ “low priority queue”

low priority queue ของแต่ละเกมจะมีบทลงโทษไม่เหมือนกัน แต่สำหรับเคสของ League of Legends หากผู้เล่นออกจากเกมกลางทางหลายครั้ง ตัวเกมจะลงโทษด้วยการบังคับให้ดีเลย์การหาคิว Online Matchmaking ราว 5 นาที หรือหมายความว่าผู้เล่นจะหาเจอห้องเกมนานขึ้น และหากยังฝ่าฝืนต่อไป ระยะเวลาการดีเลย์จะยิ่งนานมากขึ้นตามจำนวนที่ออกจากเกม โดยวิธีเดียวที่หลุดพ้นจาก low priority queue ได้ คือต้องเล่นเกมจนจบรอบตามจำนวนครั้งที่กำหนดไว้

ร่างแตกก่อนออกจากเกม – Mortal Kombat 11

Mortal Kombat 11

 

Quitality เป็นท่า (ไม่เชิง) ปลิดชีพของเกม Mortal Kombat ที่หากผู้เล่นออกจากเกมกลางทาง ร่างของนักสู้จะแตกสลายราวกับโดนเพลงหมัดอุดรเทวะของเคนชิโร่ หรือไม่ก็โดนเสียบจนตาย แล้วฝ่ายตรงข้ามกลายเป็นผู้ชนะไปโดยปริยาย

แม้ไม่ใช่บทลงโทษที่โหดมากนัก หากเปรียบเทียบกับเกม Multiplayer อื่น ๆ แต่แน่นอน การที่ผู้เล่นเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เพราะ Quitality นั้นมันไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจสักเท่าไหร่นัก ซ้ำร้าย มันยังส่งผลกระทบต่อสถิติอัตราการแพ้ชนะอีกด้วย

ให้รางวัลคนอยู่เกมจนจบ แต่คน Rage Quit จบไม่สวย – Overwatch

Overwatch 2 (2)

Overwatch อาจเป็นเพียงไม่กี่เกม ที่มอบรางวัลให้แก่คนเล่นเกมจนจบ Match เช่น รับค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้น หรือ ได้รับ Point ช่วยให้เปิดกล่อง Loot Box เร็วขึ้น ซึ่งถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผล เพราะมีส่วนช่วยทำให้เกมเมอร์ไม่อยากสูญเสียประโยชน์จากการ Rage Quit

แต่ Blizzard ก็ไม่ได้ปล่อยให้นักออกจากเกมได้ลอยนวลแต่อย่างใด ถ้าหากเกมตรวจพบว่าผู้เล่นออกจากเกมระหว่าง Match มากเกินไป เกมจะลงโทษด้วยการปรับรับค่าประสบการณ์จากการแข่งลดลง 75% โดยหากต้องหลุดพ้นโทษดังกล่าว ผู้เล่นต้องเล่นเกมจนจบ Match กว่าสถิติอัตราการออกจากเกมกลางทางจะน้อยลงจนอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม

นอกจากนี้ ผู้เล่นอาจโดนลงโทษด้วยการแบนไม่ให้เล่นโหมด Competitive เป็นเวลาชั่วคราว รวมถึงแบนการเข้า Rank ตลอดทั้งซีซัน

โดนแบนไม่พอ แถมถูกประจานด้วย – Street Fighter V

Street Fighter V

 

เกมเมอร์หลายคนน่าจะทราบอยู่แล้วว่าเกมแนวต่อสู้ มักต้องเจอปัญหาผู้เล่น Rage Quit เป็นประจำ เนื่องจากตัวเกมวัดกันด้วยฝีมือ และเป็นการดวลต่อสู้แบบ 1v1 จึงไม่แปลกใจที่คนบางคนจะตัดสินใจเทเกมทิ้ง เพราะไม่สามารถสู้กับคู่แข่งได้

เพื่อแก้ปัญหาผู้เล่นชอบ Rage Quit อย่างมีประสิทธิภาพ ทาง Capcom จึงออกมาตรการขั้นเด็ดขาด ด้วยการลงโทษเกมเมอร์ที่ชอบออกจากเกมกลางทาง เป็นการแบนห้ามเล่นโหมด Online ซึ่งมีระยะเวลาลงโทษสูงสุดที่ 24 ชั่วโมง, ปรับ 1,000 Point พร้อมกับมอบสัญลักษณ์พิเศษตรงป้ายชื่อ ที่บ่งบอกว่าผู้เล่นได้กระทำความผิดจากการออกจาก Match อย่างไม่เหมาะสมหลายครั้ง

นับถอยหลังเวลาปลดแบนเฉพาะเมื่ออยู่ในเกมเท่านั้น – Super Smash Bros. ใน Wii U

Wii U

สมมุติว่าหากผู้เล่นโดนแบนห้ามเล่นโหมดออนไลน์เป็นเวลา 30 นาที แน่นอนว่าสิ่งที่หลายคนทำก็คือปิดเกม จากนั้นหันไปทำกิจกรรมอย่างอื่นเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง แล้วกลับมาเล่นโหมดออนไลน์อีกครั้ง

แต่ไม่ใช่สำหรับกรณีของ Super Smash Bros. ในระบบ Wii U เพราะถ้าผู้เล่นถูกแบนการเข้าถึงโหมดออนไลน์ด้วยข้อหา Rage Quit หรือ Disconnect แบบตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ เกมเมอร์จะต้องรอเวลาปลดแบน “ในเกมจริง ๆ” หรือหมายความว่าหากปิดเกม หรือปิดคอนโซล เวลาลงโทษก็จะหยุดนับถอยหลังจนกว่าจะเข้าเกมอีกครั้งหนึ่ง ฉะนั้นสมมุติว่าถ้าโดนแบน 1 เดือน เท่ากับว่าต้องเปิดเกมทิ้งไว้ 1 เดือน เพื่อปลดแบนนั่นเอง

SHARE

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top