การปลดล็อกฉากจบหลายเกม สามารถทำได้จากการปฏิบัติเงื่อนไขลับต่าง ๆ ที่เกมเมอร์ต้องไขปริศนาหรือใช้เซนส์ด้วยตัวเอง แต่เกมบางเกมอาจต้องใช้ความพยายามอย่าง “รากเลือด” ในการปลดล็อกฉากจบ จนเกมเมอร์หลายคนต้องท้อ แล้วจะมีฉากจบอะไรบ้าง ก็สามารถรับชมได้เลย
Metal Gear Solid V: The Phantom Pain – Nuclear Disarmament
Metal Gear Solid เป็นซีรีส์เกมดังของ Hideo Kojima ที่มักใส่เนื้อหาเกี่ยวกับการเมือง และการต่อต้านสงครามอยู่เสมอ จึงไม่แปลกนักที่เกม Metal Gear Solid V จะใส่ฉากจบลับ Nuclear Disarmament ที่มีเงื่อนไขว่าต้องปลดขีปนาวุธนิวเคลียร์ออกจากฐาน FOB ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม การปลดล็อกฉากจบ Nuclear Disarmament จัดว่ามีระดับความยากที่ “เป็นไปไม่ได้” เพราะผู้เล่นต้องขอความร่วมมือเรียกร้องให้เกมเมอร์ทุกคน ต้องทำลายและรณรงค์ห้ามผลิตขีปนาวุธนิวเคลียร์ของตัวเองในฐาน FOB จนกว่าขีปนาวุธนิวเคลียร์จะไม่หลงเหลืออยู่ในโลกของผู้เล่น ซึ่งผู้เล่นน่าจะทราบดีอยู่แล้วว่าการเจรจาเรียกร้องให้เกมเมอร์ทำลายอาวุธของตนเองนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก ๆ ไหนจะความดื้อดึงของฝ่ายผู้เล่น หรือเส้นทางการติดต่อสื่อสารที่มีจำกัด ทำให้ฉากจบดังกล่าวเป็นไปได้ยากมากที่จะปลดล็อก
ถึงอย่างนั้น เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา เกมเมอร์ชาว PlayStation 3 ทุกคน สามารถปลดฉากจบลับ Nuclear Disarmament ได้สำเร็จด้วยการติดต่อผ่านช่องทาง Reddit โดยฉากจบมีลักษณะเป็นการพิธีไว้อาลัยขีปนาวุธ กล่าวสุนทรพจน์ รวมถึงเครดิตขึ้นรายชื่อขอบคุณเกมเมอร์ทุกคนที่ให้ความร่วมมือในการปลดล็อกฉากจบนี้ ด้วยการทำลายขีปนาวุธของตัวเอง
The House Of The Dead – Bad End
ปกติแล้ว เกมจะขึ้นฉากจบ Bad End เมื่อเราเล่นเกมได้ผลลัพธ์ออกมาแย่ หรือเล่นไม่ดีพอ แต่สำหรับเคสของเกมตู้อาร์เคดโด่งดังอย่าง The House Of The Dead เกมดังกล่าวมีเงื่อนไขการปลดฉากจบ Bad End ที่นอกจากต้องเล่นแย่แล้ว คุณต้องมีฝีมือการเล่นดี และพึ่งดวงอีกด้วย
ในการปลดล็อกฉากจบ Bad End ของเกมตระกูล The House Of The Dead คือต้องทำแต้ม Hi-Score ให้ต่ำกว่า 62,000 แต้ม และตัวเลขหนึ่งหน่วยต้องมีเลข “0” 1 ตัว ซึ่งทำให้การปลดล็อกฉากจบดังกล่าว ผู้เล่นต้องฝืนเล่นแย่ด้วยยิงสัดส่วนร่างกายที่ไม่สำคัญ ไม่ช่วยผู้รอดชีวิต ไม่เก็บแต้มโบนัส รวมถึงต้องพึ่งโชคให้คะแนนต้องติดเลข 0 อีกด้วย โดยฉากจบ Bad End ทุกภาคจะเป็นการโชว์ตัวละครหลักกลายเป็นซอมบี้ ซึ่งฉากจบที่ว่านั่นไม่ใช่ตอนจบที่แท้จริง
Max Payne 2 – Mona ยังมีชีวิต
Max Payne เป็นตำรวจชายวัยกลางคนที่ผ่านการสูญเสียมากมาย ไม่ว่าจะเสียทั้งภรรยากับลูกสาวในภาคแรก ซึ่งเป็นเหตุทำให้เขาออกทำภารกิจฆ่าตัวตายด้วยการสังหารแก๊งทั้งหมด และใน Max Payne 2 เขาก็สูญเสีย Mona Sax มือสังหารหญิงที่ต่างคนต่างหลงรักซึ่งกันในตอนจบ ซึ่งแน่นอนว่าเกมเมอร์สามารถเปลี่ยนตอนจบของเกม Max Payne 2 ได้ ด้วยการปราบเกมในระดับความยาก Dead on Arrival
วิธีการปลดฉากจบลับนี้ ผู้เล่นต้องปราบเกมในระดับความยาก Dead on Arrival ซึ่งเป็นระดับยากสุดของ Max Payne 2 ซึ่งมีฟีเจอร์พิเศษสามารถบันทึกเซฟได้จำนวนจำกัดครั้งเท่านั้น ทำให้การเล่นเกม Max Payne 2 นอกจากต้องมีฝีมือ รู้ตำแหน่งของศัตรู และระมัดระวังหลังตลอดเวลาแล้ว ยังต้องวางแผนการเซฟเกมให้ดีอีกด้วย หากเล่นเกมจนจบ ผู้เล่นจะสามารถปลดฉากจบลับที่ Mona Sax ยังมีลมหายใจในตอนจบ
Metroid – ฉากจบ Samus สวมชุดว่ายน้ำ
การเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของ Samus ในเกม Metroid เป็นหนึ่งในฉากจบที่เกมเมอร์หลายคนต่างต้องจดจำ เนื่องจากเป็นการเผยว่าตัวละครที่เราเล่นนั้นเป็นผู้หญิงมาโดยตลอด แต่คุณอาจจะไม่รู้มาก่อนว่าฉากการเปิดเผยตัวตนของ Samus นั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงโดยขึ้นกับว่าฝีมือการเล่นเกมของคุณเก่งแค่ไหน
การปลดล็อกฉากจบเปิดเผยตัวตนของ Samus พร้อมสวมชุดบิกินีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เกมเมอร์จะต้องเล่นเกมแบบ Speedrun ให้เล่นจบก่อนเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งการเล่นเกมแบบ Speedrun ผู้เล่นต้องเข้าใจวิธีการผ่านด่านต่าง ๆ ให้จบเกมอย่างรวดเร็ว รวมถึงต้องตายให้น้อยที่สุด แน่นอนว่าการปลดล็อกฉากนี้ เกมเมอร์ต้องใช้เวลาเล่นเกมเป็นเวลานานมากจนเป็นเซียนรู้ทุกตำแหน่ง และบั๊กที่ทำให้สามารถใช้เวลาปราบเกมต่ำกว่า 1 ชั่วโมง
Chrono Trigger – ฉากจบ Dream Project
Chrono Trigger เป็นเกม JRPG ระดับตำนานของค่าย Square Soft (ปัจจุบันคือ Square Enix) ที่มีชื่อเสียงในด้านฉากจบหลากหลายถึง 13 แบบ ซึ่งฉากจบทั้งหมด มีเงื่อนไขในการปลดที่มีความท้าทายยาก-ง่ายแตกต่างกันไป
แต่ทว่าในเกมมีฉากจบลับอย่างหนึ่งเรียกว่า “Dream Project” ซึ่งเป็น Emding ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลัก โดยฉากจบมีเนื้อหาเกี่ยวกับตัวเอกได้พบเหล่านักพัฒนาเกม Chrono Trigger เช่น Akira Toriyama, Nobuo Uematsu, Yuji Horii, Kazuhiko Aoki และ Hironobu Sakaguchi ในเกม แล้วยื่นตำแหน่งให้ผู้เล่นเป็นหนึ่งในสมาชิก Dream Team เพราะสามารถปราบเกมได้อย่างรวดเร็ว
วิธีการรับฉากจบนี้ ผู้เล่นต้องปราบบอสไฟต์ Lavos ให้ได้หลังจากพบเจอมันครั้งแรก ส่วนสาเหตุที่การปราบบอส Lavos ครั้งแรกเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เพราะตัวเกมได้ตั้งจุดประสงค์ไว้แล้วว่า Lavos ต้องเป็นบอสไฟต์ช่วงสุดท้ายของเนื้อเรื่อง ฉะนั้นการสู้รบ Lavos ครั้งแรกจึงเปรียบเสมือนเป็นการบังคับว่าทีมผู้เล่นต้องเป็นฝ่ายแพ้
Final Fantasy X-2 – ฉากจบ 100%
ฉากจบ 100% หรือเรียกกันว่า Perfect Ending เป็นฉากจบที่แท้จริงของ Final Fantasy X-2 ที่สามารถปลดล็อกได้จากการทำ Completion Rate 100%
แน่นอนว่าวิธีการทำ Completion Rate ให้ครบ 100% คือการปฏิบัติเควสต์ เนื้อเรื่องเสริม หรือทำความคืบหน้าครบตามเงื่อนไขต่าง ๆ แต่เนื่องจากคอนเทนต์และปริศนาของ Final Fantasy X-2 มีจำนวนที่เยอะมาก ทำให้การปลดล็อกฉากจบ 100% แทบเป็นไปไม่ได้ หากไม่มีไกด์สอน เกมเมอร์บางคนจึงมีการเขียนไกด์ให้ผู้เล่นคนอื่นสามารถปลดฉากจบ 100% โดยบอกตั้งแต่ขั้นตอนการคุย NPC ตามลำดับ, การผ่านเควสต์จนจบสมบูรณ์แบบ และอื่น ๆ อีกมากมายตั้งแต่ต้นจนจบเกม
ฉากจบ 100% ของ Final Fantasy X-2 จะเป็นการขยายฉากจบดั้งเดิมที่นำเสนอความสัมพันธ์ระหว่าง Yuna และ Tidus ยาวขึ้น ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นฉากจบที่แฟน ๆ Final Fantasy ต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน
Valkyrie Profile – Ending A
ถ้าหากคิดว่าการปลดฉากจบลับของเกม Final Fantasy X-2 เป็นสุดยอดของความรากเลือดแล้วละก็… เกม Valkyrie Profile ก็คงเป็นรุ่นพี่ของ FF X-2 ที่มีขั้นตอนการปลดล็อกฉากลับ รากเลือดยิ่งกว่าเกม FF ซะอีก
เกมเมอร์สาย RPG หลายคนต่างยกย่องว่าการปลดล็อกฉากจบ Ending A ในเกม Valkyrie Profile มีลักษณะที่รากเลือด และแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะปลดล็อกฉากจบดังกล่าวด้วยความบังเอิญ ซึ่งวิธีการปลดล็อกฉากจบ คือ ค่าสถานะ Valkyries Seal Value ต้องมี 37 หรือน้อยกว่าใน Chapter 7, ทำเควสต์ the Tower of Lezard Valeth เสร็จใน Chapter 4, Lucian และ Mystina ต้องเข้าร่วมปาร์ตี้ใน Chapter 5 และ ส่ง Lucian ไป Valhalla ใน Chapter 5 หรือ 6
คล้ายกับกรณีของ Final Fantasy X-2 มีเกมเมอร์เขียนไกด์เกม Valkyrie Profile ช่วยผู้เล่นคนอื่นสามารถปลดฉากจบ A โดยบอกตั้งแต่ขั้นตอนการคุย NPC ตามลำดับ, การผ่านเควสต์จนจบสมบูรณ์แบบ และอื่น ๆ อีกมากมายตั้งแต่ต้นจนจบเกม