แม้เกมที่มีเนื้อหาฆ่าฟันกันจะเป็นเกมแนวแอ็กชัน ที่ผู้เล่นต้องปะทะกับศัตรูเพื่อเนื้อเรื่องได้ดำเนินหรือมีความคืบหน้าต่อไป แต่ 7 เกมเหล่านี้ได้พยายามพิสูจน์ให้เห็นว่า “ทุกการทำกระทำย่อมมีผลลัพธ์ที่ตามมา” ด้วยการลงโทษและล้อเลียนผู้เล่น หากฆ่า NPC มากเกินไป แล้วจะมีเกมอะไรบ้าง มาสอดส่องกันเลย
Fallout 1-2
ท่ามกลางโลกล่มสลายหลังเหตุการณ์สงครามนิวเคลียร์ Great War ซึ่งเป็นเหตุให้มนุษยชาติและอารยธรรมสูญสลายในพริบตา ทำให้มนุษย์ที่เหลืออยู่บนโลก ต้องแก่งแย่งจนถึงฆ่าซึ่งกันและกัน เพื่อดิ้นรนเอาตัวชีวิตให้รอด
แต่อย่างไรก็ตาม ในเกมยังมีขีดเส้นกั้นระหว่าง NPC ธรรมดากับ NPC เด็กไร้เดียงสา ถ้าหากเกมเมอร์ตัดสินใจสังหารเด็กในเกม ผู้เล่นจะได้รับ Perk พิเศษชื่อว่า “Child Killer” (นักสังหารเด็ก) พร้อมกล่าวว่าผู้เล่นเป็นคนที่ “ชั่วช้า” สุดคำบรรยาย
นอกจากนี้ Child Killer ยังทำให้เกมยากขึ้น เพราะนอกจากค่าชื่อเสียงทั้งฝั่ง NPC คนดี และ NPC คนชั่ว จะถูกลบเยอะแล้ว เหล่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จะคอยไล่ล่าคุณแบบสุดขอบแผนที่อีกด้วย
Dishonored
เกมลอบเร้นมุมกล้อง First-Person ที่มาพร้อมกับการนำเสนอภาพอาร์ตสไตล์ Steampunk และมีเนื้อเรื่องล้างแค้นสุดระทึก แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้เล่นรับบทเป็นนักฆ่าที่ถูกใส่ร้ายป้ายสี ฉะนั้น “การสังหาร” จะต้องมียับยั้งหรือเลือกเป้าหมายกันบ้าง
Dishonored มีระบบอย่างหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า Chaos Level หรือระบบศีลธรรมของผู้เล่น ซึ่งสำหรับกรณีที่เกมเมอร์มีเลเวล Chaos สูงเพราะฆ่าศัตรูมากเกินไป ก็ทำให้ระบบเกมเพลย์เพิ่มความยากท้าทาย เช่นจำนวนศัตรูในพื้นที่เยอะมากกว่าปกติ หรือรวมไปถึงส่งผลต่อตอนจบและการดำเนินเนื้อเรื่องมีลักษณะดาร์กยิ่งขึ้น
Metal Gear Solid 2: The Son of Liberty
Hideo Kojima มักชื่นชอบการทำระบบเกมที่ไม่สนับสนุนให้ผู้เล่นสังหาร NPC ตั้งแต่การปะทะบอส Sorrow ใน MGS 3 ที่เหล่าวิญญาณซึ่งผู้เล่นได้สังหารทั้งหมดจะกลับตามหลอกหลอนฝ่ายผู้เล่น หรือใน MGS ภาคแรกที่มีการต่อว่า Snake เป็นคนที่ชื่นชอบการฆ่าคน
แต่สำหรับ Metal Gear Solid 2 ได้มีการนำเสนอที่สร้างสรรค์ไปอีกขั้นหนึ่ง ถ้าหากเกมเมอร์รับบทเป็น Raiden แล้วยิงปืนใส่นกที่น่าสงสารหลายตัว ผู้พัน Roy Campbell จะต่อว่า Raiden เป็นคนชอบที่กระทำความรุนแรงต่อสัตว์ที่ไม่มีทางสู้ รวมถึง Rosemary แฟนสาวของ Raiden จะด่าผู้เล่นว่าเป็น “มอนสเตอร์” และเธอจะรู้สึกงอน Raiden จนไม่ให้เซฟเกมจนกว่าจะพูดขอโทษกันเลยทีเดียว
Metal Gear Solid V: The Phantom Pain
ต่อเนื่องกับซีรีส์ MGS – ในเกมภาค V มีระบบศีลธรรมอย่างหนึ่งที่เรียกว่า Demon Points (ซึ่งไม่ได้ปรากฏตัวบนหน้าจอหรือเมนู) ถ้าหากเกมเมอร์เก็บสะสมแต้ม Demon Points เพิ่มด้วยการสังหารข้าศึก, สังหารสัตว์, ทำให้ NPC บาดเจ็บ หรือพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ จะทำให้ Venom Snake เริ่มมีเขางอกยาวขึ้น และมีเลือดท่วมตัว Snake โดยไม่สามารถล้างออกได้
แม้ Demon Points ไม่ได้ส่งผลต่อเนื้อเรื่องหรือเกมเพลย์ซะเท่าไหร่ แต่แน่นอนว่าการที่เขาของ Snake เริ่มงอกยาวมากขึ้น สามารถสื่อสารในเชิงสัญลักษณ์ต่อเกมเมอร์ว่าผู้เล่นได้กระทำความผิดจากการฆ่า NPC มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งผู้เล่นสามารถชดใช้บาปกรรมได้ด้วยการช่วยเหลือทหารเด็ก, ส่งทหารกลับฐาน, ทำ Achievement หรือปลดอาวุธนิวเคลียร์
Death Stranding
หากอ้างอิงจากเนื้อเรื่องของ Death Stranding ถ้าหากศพมนุษย์ถูกปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานเกินไป ศพจะกลายร่างเป็น B.T. เพราะฉะนั้นการฆ่ามนุษย์ในเกมนี้ จึงเป็นเรื่องต้องห้ามที่เกมเมอร์ไม่ควรทำอย่างยิ่ง (แต่ตัวเกมยังอนุญาตให้ทำได้ซะงั้น)
เพราะถ้าหากเกมเมอร์สังหาร NPC เยอะเกินไป เด็กทารก BB จะเกิดความเครียดจนไม่สามารถใช้งานได้ นอกจากนี้ ผู้เล่นจะต้องรับผิดชอบนำศพทั้งหมดนำไปเผาที่โรงเตา ซึ่งทำให้ผู้เล่นต้องเสียเวลากับการแบกศพน้ำหนักเยอะไปสถานที่ที่หนึ่งโดยไม่ได้ผลตอบแทนกลับมา และนอกจากนี้ หากผู้เล่นไม่เผาศพ ตัวเกมจะบังคับไม่ให้ผู้เล่นเข้า Safe House อีกด้วย
Undertale
Undertale เป็นเกมที่นักพัฒนา Toby Fox โปรโมตตั้งแต่แรกว่าจะเป็นเกม RPG ที่ให้ผู้เล่นหลีกเลี่ยงการสังหาร NPC ก็สามารถปราบเกมได้ ! แต่ผู้เล่นยังคงมีความสามารถในการไล่ล่าสังหารศัตรูเหมือนเกม RPG ทั่วไป
แต่ถ้าหากเกมเมอร์เลือกสังหารมอนสเตอร์ทุกตัวในแผ่นที่ ระหว่างการดำเนินเนื้อเรื่อง มินิบอสหรือตัวละครหลักจะเริ่มตั้งคำถามถึงความบ้าคลั่งและมีความหวาดกลัวต่อฝ่ายผู้เล่น รวมถึงการสนทนาจะเริ่มเห็นความแตกต่างจากการเล่นเกมเส้นทางปกติอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแน่นอนว่าการกระทำดังกล่าว ก็ส่งผลกระทบต่อตอนจบที่ทำให้เกมเมอร์หลายคนต้องพบฉาก Bad End ที่ทำให้หลายหัวใจวายไปแล้วหลายราย
Spec Ops: The Line
หนึ่งในเกม TPS ม้ามืดที่มีเนื้อหาดาร์ก มืดหม่น รุนแรง และนำเสนอความโหดร้ายของสงครามได้อย่างมีประสิทธิภาพจนกลายเป็นเกมที่ทำให้ผู้เล่นหลายคนต้องเกลียดสงคราม
Spec Ops: The Line จะไม่เหมือนกับเกมอื่นที่ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นเป็นทหารดีหรือทหารเลว แต่ตัวเกมจะคอยตั้งคำถามถึงการกระทำของผู้เล่นระหว่างดำเนินเนื้อเรื่องที่คุณได้ฆ่า NPC มามากมาย (แม้จะป้องกันตัวก็ตาม) โดยเฉพาะช่วงกลางเกมที่เริ่มมีการส่งข้อความถึงเกมเมอร์ อย่างเช่น “คุณยังเป็นคนดี” “ฆ่าเพราะเหตุผลส่วนตัวคือฆาตกร ฆ่าเพื่อรัฐบาลคือผู้กล้า ฆ่าเพื่อความสนุกเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้” “รู้สึกเหมือนเป็นฮีโร่มากขึ้นแล้วหรือยัง ?” และประโยคอื่น ๆ ที่ทำให้เกมเมอร์ได้กระตุกต่อมคิด
