มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่ทีมพัฒนาเกมจะสามารถออกแบบสมรภูมิรบสำหรับเกม FPS Multiplayer ที่จะต้องมีองค์ประกอบครบถ้วนสมบูรณ์แบบอย่างเช่น ความสมดุล ความสนุกสนาน และมีบรรยากาศติดตาที่ยากเกินที่จะลืมเลือน แต่นี่คือ รายชื่อ 7 แผนที่สมรภูมิรบในเกม Multiplayer FPS ที่มีความน่าจดจำและสามารถคว้าใจผู้เล่นสาย FPS มานานจนเกือบนับทศวรรษ
2Fort – Team Fortress Classic, 2
ลักษณะของแผนก็ตรงตามชื่อ 2Fort เป๊ะ เพราะมันคือป้อมปราการขนาดเล็กที่หันหน้าเข้าหาซึ่งกันและกันทั้งสองฝั่ง ซึ่งเพียงใช้เวลาไม่ถึง 10 วินาที ทั้งฝ่าย RED กับฝ่าย BLUE ก็พร้อมที่จะประจัญบานโดยทันที แต่ผู้เล่นสามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้จากการหนีรอดผ่านท่อระบายน้ำใต้ดินที่เชื่อมกับทั้งสองฝั่งแล้วลอบโจมตีฝ่ายศัตรูจากด้านหลัง หรือแอบขโมย Intelligence ได้อย่างแนบเนียนเช่นกัน
2Fort ได้รับความนิยมตั้งแต่สมัย Team Fortress Classic จนถึงภาค 2 เพราะเป็นแผนที่ที่เข้าใจง่ายและเหมาะสำหรับทุกคลาส โดยเฉพาะคลาส Sniper จะชื่นชอบ 2Fort เป็นพิเศษเพราะสามารถส่องสไนเปอร์จากฝั่งตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย แต่ก็เป็นที่โปรดปรานสำหรับ Soldier กับ Demoman ผู้ชื่นชอบการ Jump เพื่อสังหารผู้เล่นคนอื่นโดยไม่ทันตั้งตัวเช่นกัน นั่นก็หมายความว่า ไม่มีใครปลอดภัยในสนามรบแห่งนี้ นั่นเอง
Nuketown – Call of Duty: Black Ops I, II, III, IIII, Blackout
ต้องเรียกว่าเล็กแต่พริกขี้หนูจริง ๆ แผนที่ Nuketown ถือว่าเป็นแมปยอดนิยมมากที่สุดในซีรีส์ Call of Duty ทั้งมวล เพราะนอกจากจะออกแบบไม่ซับซ้อนเกินไป บรรยากาศของแผนที่ก็น่าดึงดูดสมกับเป็นสถานที่สำหรับทดลองอาวุธนิวเคลียร์ในช่วงยุค ’70 (ถ้าหากใครเคยรับชมภาพยนต์เรื่อง Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull มาก่อน ผู้เล่นจะเห็นภาพฉากดังกล่าวเป็นอย่างดี)
แม้ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องศึกษาแผนที่เรื่องมุมทางเดินหรือเข้าใจเทคนิคการพิชิต Nuketown อย่างละเอียด แต่เพราะบรรยากาศของแผนที่สามารถออกแบบได้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ Nuketown กลายเป็นสมรภูมิรบที่จะต้องมีประกอบในเกม Call of Duty: Black Ops ทุกภาคสำหรับโหมด Multiplayer
Rust – Call of Duty Modern Warfare 2
แผนที่ Rust ในเกม Call of Duty: Modern Warfare 2 เป็นแผนที่ที่เล็กที่สุดในเกมตระกูล CoD โดยเป็นทั้งสวรรค์กับนรกสำหรับผู้เล่นทุกคนเพราะเป็นแผนที่ขนาด เล็กประติ๋ว จริง ๆ
เนื่องจากขนาดแผ่นที่เล็กเกินไปจนทำให้ผู้เล่นทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงการปะทะได้ ผู้เล่นจึงต้องตัวใครตัวมันและอาศัยความไหวพริบเพื่อเอาชีวิตรอดให้ได้นานที่สุด แต่ในขณะที่เกมเมอร์ทุกคนกำลังวุ่นวายต่อสู้ซึ่งกันและกัน มักจะมีผู้เล่นคนหนึ่งชอบขึ้นไปแอบปีนด้านบนตึกแล้วทำการแคมป์ลอบยิงจากด้านบน และหากมีผู้เล่นคนไหนมี Killstreaks ประเภทขอกำลังเสริมจากฟากฟ้า (โดยเฉพาะ AC-130) ก็สามารถกวาดศัตรูได้ทั่วแผนที่โดยไม่มีใครสามารถตอบโต้ได้ทันเช่นกัน
นี่คือเหตุผลว่าทำไมเกมเมอร์หลายกลุ่มถึงชื่นชอบและเกลียดแผนที่ Rust ในเวลาเดียว มันสามารถเข้าสู่ฉากเปิดยิงแอคชั่นแบบ Non-Stop ก็จริง แต่เพราะแผนที่มีขนาดเล็กเกินไป ทำให้ผู้เล่นบางส่วนแทบไม่มีเวลาที่จะตอบโต้เอาคืนศัตรูนั่นเอง
Strike at Karkand – Battlefield 2, 3, 2142
แผนที่ Strike at Karkand มีชื่อเสียงด้านความซับซ้อนซ่อนเงื่อนของแผนที่เพราะสภาพแวดล้อมเป็นตึกราวบ้านช่องสมกับเป็นประเทศที่อ้างอิงมาจากแถบตะวันออกกลาง ทำให้ผู้เล่นหลายคนรู้สึกสับสนกับเส้นทาง, พยายามทำงานเป็นทีม, และใช้งัด Tactical ขั้นสูงที่สุดเพื่อยึดพื้นที่ Capture Point ทั้งหมด
เนื่องจากความนิยมที่ไม่สิ้นสุดของแผนที่ Strike at Karkand จากเกม Battlefield 2 ทำให้ทีมงาน DICE ตัดสินนำแผนที่นี้กลับมาอีกครั้งในเกม Battlefield 3 และ Battlefield 2142
de_dust2 – Counter-Strike Series
ถ้าหากผู้เล่นไม่รู้จัก de_dust2 ก็เท่ากับว่าคุณไม่ได้เป็นแฟนเกม FPS อย่างแท้จริง เพราะว่าแผนที่นี้ถือเป็นสมรภูมิรบยอดนิยมและมีคนกล่าวถึงมากที่สุดในเกม Counter-Stike ตั้งแต่ภาค 1.6, Condition Zero, Source จนถึงภาค Global Offensive
de_dust2 ถือว่าเป็นแผนที่มาตรฐานของเกมตระกูล Counter-Strike ไปแล้ว เพราะไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ทั้งผู้เล่นหน้าใหม่และมือโปรทุกคนจะต้องใช้เวลาศึกษาวิธีการเล่น, จุดวางระเบิด, จุดกับดัก, จุดป้องกัน Objective ที่มีประสิทธิภาพจากแมปนี้จนลืมแผนที่ยอดนิยมในอดีต อย่าง italy, inferno และ assualt กันเลยทีเดียว
Crossfire – Half-Life
แผนที่ Crossfire เปรียบเสมือนเครื่องปั่นน้ำผลไม้ เพราะแกนกลางของแผนที่ (ตามภาพ) เป็นจุดสังหารสำคัญโดยหากมีผู้เล่นคนไหนหลงเข้ามาอยู่ตรงกลาง ผู้เล่นทุกคนพร้อมที่จะรุมสกัมคุณจากด้านบนทั่วมุมทุก 360 องศา
และที่สำคัญ อย่าให้ผู้เล่นคนอื่นกดระเบิดนิวเคลียร์เป็นอันขาด เพราะหากได้ยินเสียงไซเรนดังขึ้น ผู้เล่นทุกคนจะหนีเข้าบังเกอร์เพื่อหลบระเบิดที่มีของล่อตาล่อใจเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นคลังอาวุธเกือบทุกชนิด, จุดเพิ่มเลือดเพิ่มเกราะ, และมีอาวุธปืนใหญ่ที่คอยขัดขวางผู้เล่นคนอื่นไม่ให้เข้าภายในบังเกอร์ ซึ่งทำให้ตัวเกมเพิ่มความสนุกสนานและวุ่นวายมากสุดถึงระดับแม็กซ์ที่เกมเมอร์ในยุคนี้อาจไม่มีทางได้สัมผัสมัน
Facing World – Unreal Tournament
เหมือนกับ 2fort แต่องค์ประกอบเรียบง่ายกว่าเดิม เพียงแค่มีทางเดินสองทางกับป้อมอีกสองป้อมก็เพียงพอแล้ว แต่ถึงมันจะมีขนาดเล็กและดูเหมือนแผนที่ธรรมดาทั่วไป แต่รู้หาไม่ว่าเกมเมอร์ยุค ’90 ทุกคนต่างยกย่องให้ Facing World เป็นแผนที่สมรภูมิ FPS ที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล เพราะมันสนุก, ท้าทาย, เล่นง่าย, ไม่หวือหวา แต่มีประสิทธิภาพได้ผล