ระบบ Auto Save และ Checkpoint ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดความยากและความตึงเครียดของเกม แต่ทว่าถ้าหากระบบดังกล่าวถูกออกแบบอย่างไม่เหมาะสมหรือไม่ดีพอ บางทีอาจจะทำให้บางช่วงของเกมยากขึ้น ไม่ช่วยให้เกมเล่นง่าย จนถึงขั้นยากแบบไม่แฟร์เลยก็ได้เหมือนรายชื่อ 8 เกมนี้
Loose End – Call of Duty: Modern Warfare 2
แม้ Call of Duty: Modern Warfare 2 เป็นเกมที่มีกระแสรีวิวยอดเยี่ยมในด้านเนื้อเรื่องแอ็คชันสุดยอดมหากาพย์ และระบบ Multiplayer ที่ชวนเสพติดได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ตัวเกมดังกล่าวก็ยังมีข้อเสียในด้านการวางจุด Checkpoint ค่อนข้างแย่ในบาง Chapter ซึ่งทำให้การเล่นเกมความยากในระดับ Veteran เป็นฝันร้ายสำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์
แต่ถ้าหากกล่าวถึงด่านที่มีจุด Checkpoint ไม่แฟร์ที่สุด คงไม่มีทางหนีพ้นฉาก Loose End ที่ผู้เล่นต้องฝ่าศัตรูเป็นจำนวนมาก เพื่อไปถึงจุดจอดเฮลิคอปเตอร์โดยนายพล Shepherd ซึ่งถ้าหากเกมเมอร์ตายในจุดนั้น ผู้เล่นมักจะโดนรุมโจมตีทันทีหลังจากเกิดในจุด Checlpoint และเนื่องจาก Map ดังกล่าวเป็นพื้นที่กว้าง ไม่ค่อยมีกำแพงสำหรับหลบกระสุน ทำให้ผู้เล่นต้องติด Deathloop (วนลูปตายบ่อย) จากการเล่นความยาก Veteran ในมิชชัน Loose End อยู่เสมอ
Dead Rising
Dead Rising เป็นเกมแนว Sandbox ตะลุยซอมบี้ที่เนื้อเรื่องดำเนินด้วยระบบ Task ที่ผู้เล่นต้องทำ Objective หลักตามเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งแน่นอนว่าเนื่องจากตัวเกมมีระบบเวลาจำกัด ทำให้ระบบ Save หรือ Checkpoint จึงมีความสำคัญสำหรับเกมนี้เป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม Dead Rising กลับไม่มีระบบ Checkpoint หรือ Auto-Save และผู้เล่นจะสามารถเซฟได้ในห้องน้ำเท่านั้น ทำให้ถ้าหากผู้เล่นตาย ความคืบหน้าของเกมจะถูกย้อนกลับไปยังไฟล์เซฟล่าสุด
ซ้ำร้าย ถ้าหากเลือกเซฟผิดเวลาหรือผิดสถานการณ์ เช่น เผลอเซฟทับไฟล์เก่า ทั้งที่ในเกมมีระยะเวลาเหลือสั้นเกินไปจนไม่สามารถทำ Objective หลักได้ทัน ส่งผลลัพธ์ทำให้ผู้เล่นพบฉาก Bad End ซึ่งถ้าหากไม่มีการสำรองเซฟไว้ ก็หมายความว่าผู้เล่นจะต้องเริ่มเล่นเกมใหม่ทั้งหมด
Trial of Archimedes – God of War: Ascension
แม้ God of War: Ascension จะเป็นเกมแอ็คชันที่มีความท้าทายระดับพอดี ไม่ยากหรือง่ายจนเกินไป แต่บางช่วงของเกม ก็มีการวัดทักษะความอึดของผู้เล่นอย่างฉาก Trial of Archimedes ที่แฟนเกมหลายคนยกย่องว่าเป็นการต่อสู้ที่ยากที่สุดของเกมนี้
Trial of Archimedes คือช่วงที่ Kratos ต้องเอาตัวรอดจาก Wave ศัตรูเป็นจำนวนมากภายในเวลา 10 นาที โดยช่วงเวลาดังกล่าวจะไม่มีจุด Checkpoint หรือ Auto-Save ซึ่งถ้าหากเกมเมอร์ตาย จะต้องเริ่มต้นเล่นใหม่นับตั้งแต่เลขหนึ่ง
แม้เกมเมอร์สายเกมแอ็คชันจะยกย่องว่า Trial of Archimedes เป็นช่วงที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ท้าทาย และลุ้นระทึก อย่างไรก็ตาม เกมเมอร์บางคนก็แสดงความเห็นว่าฉากดังกล่าวยากเกินไป
Prologue – NieR: Automata
NieR: Automata เป็นเกมที่หลายคนยกย่องว่าเป็นเกมระดับ “Masterpiece” ด้วยการเล่าเนื้อเรื่องที่ล้ำลึก ระบบเกมเพลย์สามารถผสมผสานระหว่างแอ็คชัน Hack and Slack กับ Arcade Shooting ได้ลงตัว และเพลงประกอบแนวออร์เคสตราที่น่าจดจำ
แต่อย่างไรตาม ผู้เล่นหลายคนก็ออกมายอมรับว่ามีบางช่วงของเกม ยากเกินไปจนรู้สึกไม่ปรานีต่อเกมเมอร์เช่นกัน โดยเฉพาะช่วงเริ่มต้น (Prologue) ที่เปิดตัวมาเป็นเกมแนว Arcade Shooting และกลายเป็นเกมแอ็คชันแบบหลบกระสุน Bullet Hell ซึ่งเกมเมอร์ต้องใช้เวลาเล่นนานพอสมควร เพื่อทำความเข้าใจกับระบบเกมเบื้องต้น แต่เนื่องจากความยากของเกมที่เปิดตัวมาก็ท้าทายทันที รวมถึงจุด Checkpoint เองก็มีน้อยเกินไปสำหรับด่าน Prologue ทำให้หลายคนต้องติด Deathloop ในด่านดังกล่าวจนบางคนยอมแพ้ แล้วยอมปรับความยากให้เล่นง่ายขึ้นเลยทีเดียว
Ninja Gaiden (NES)
ถ้าหากนึกถึงเกมคลาสสิกเกมหนึ่งที่ทั้งยาก และไม่แฟร์สุด ๆ คำตอบแรกจากปากเกมเมอร์สาย Retro ก็คือ Ninja Gaiden เกมแอ็คชัน-แพลตฟอร์มเมอร์ที่กล่าวขานว่าเป็นเกม NES ที่ยากที่สุดจนถึงตอนนี้
สาเหตุหนึ่งที่ Ninja Gaiden เป็นเกมปราบเซียนแนวแพลตฟอร์มเมอร์ ก็เพราะระบบ Checkpoint สุดโหด ที่หากผู้เล่นตายจนเข้าฉาก Game Over แล้วกด Continue เล่นต่อ ความคืบหน้าทั้งหมดจะโดนย้อนกลับสู่ด่านแรกของ Stage นั้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากเกมเมอร์ Game Over ในด่าน Stage 6-3 ผู้เล่นจะต้องเริ่มเล่นใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ Stage 6-1 ซึ่งด่าน 6 เป็นด่านที่ไม่แฟร์ที่สุดของเกม Ninja Gaiden จึงทำให้เกมดังกล่าวกลายเป็นตำนานเกมยากตลอดกาลไปโดยปริยาย
Super Paper Mario
หนึ่งในเกมคลาสสิกของ Nintendo ที่มีชื่อเสียงด้านความยากในการปราบเกม เพราะเกมนี้ไม่มีระบบ Checkpoint ซึ่งแตกต่างจากเกม Mario เกมอื่นที่มีจุด Checkpoint ระหว่างตะลุยด่านอยู่เสมอ
แม้ความยากอาจไม่โหดหินเท่ากับ Ninja Gaiden แต่เนื่องจากตัวเกมไม่มีระบบ Checkpoint ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับเกมแนวแพลตฟอร์มเมอร์ เพลเยอร์บางคนจึงกล่าวว่า Super Paper Mario เป็นเกม Mario เวอร์ชันปราบเซียนเลยก็ว่าได้
Perfect Dark Zero
Perfect Dark Zero ถือเป็นกรณียกตัวอย่างได้ดีว่าถ้าหากไม่มีการออกแบบ Checkpoint หรือ Auto-Save อย่างเหมาะสม มันจะกลายเป็นฟีเจอร์ที่ทำให้เกมยากขึ้นแทนที่ทำให้การเล่นง่ายลง
ระบบ Checkpoint ของ Perfect Dark Zero ไม่เหมือนกับเกมอื่น ๆ เพราะเกมนี้มีจุด Checkpoint เพียงสองจุดเท่านั้น คือจุดเริ่มต้นมิชชัน และจุดก่อนที่จะปะทะบอสใหญ่ หรือหมายความว่าถ้าหากเกมเมอร์ตายหรือมิชชันเฟลช่วงท้ายเกมโดยยังไปไม่ถึงจุด Checkpoint ที่สอง เท่ากับว่าผู้เล่นต้องเล่นมิชชันใหม่ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น
ทุกมิชชันในเกม Perfect Dark Zero จะใช้เวลาเล่นในการผ่านด่านราว 20-30 นาที ซึ่งนับว่ามีระยะการเล่นที่นานมาก จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่นักที่เกมเมอร์บางคนจะต้องรู้สึกหัวร้อนจากการเล่นเกมนี้
Holoholo Bird – Baiten Kaitos Origins
Holoholo Bird เป็นบอสใหญ่สุดท้าทายของเกม JRPG อย่าง Baiten Kaitos Origins ที่ทำให้เกมเมอร์หลายคนต้องติดชะงักไม่สามารถดำเนินเนื้อเรื่องต่อ เพราะความยากของบอสที่แข็งแกร่งจนเกินไป
ซึ่งแน่นอนว่าวิธีการปราบ Holoholo Bird ที่ดีที่สุด คือหลังจากตัวเกมถูกย้อนกลับสู่เซฟไฟล์ล่าสุดแล้ว ผู้เล่นจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการปะทะบอสดังกล่าว เช่น อัปเลเวล อัปสกิลที่จำเป็น และเตรียมไอเทมจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือ Holoholo Bird เป็นบอสตัวแรกที่ผู้เล่นต้องต่อสู้ทันที หลังจากใส่แผ่นเกม Disc 2 ซึ่งทำให้ผู้เล่นไม่สามารถย้อนกลับไปเล่นไฟล์เซฟเก่าได้ เนื่องจากก่อนที่เกมจะสั่งให้เปลี่ยนแผ่นสอง ตัวเกมมีการแนะนำให้ผู้เล่นเซฟเกม โดยเกมเมอร์ไม่มีทางรู้ว่าจะต้องปะทะบอสใหญ่ทันที
คล้ายกับกรณีของ Dead Rising หากผู้เล่นไม่มีไฟล์เซฟเกมสำรอง หรือเผลอเซฟทับไฟล์ล่าสุด และไม่มีทางสามารถปราบบอส Holoholo Bird ได้ ผู้เล่นจะต้องเริ่มเล่นเกมใหม่ทั้งหมด