เมื่อฮาโลวีนเริ่มใกล้เข้ามาทุกที เกมเมอร์บางกลุ่มจึงเริ่มมองหาเกมสยองขวัญมาเล่นเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเทศกาลที่เต็มไปด้วยความ “Spooky” ซึ่งแน่นอนว่าคุณไม่จำเป็นต้องยอมจ่ายเงิน เพื่อซื้อเกม Horror มาเล่น เพราะเกมแนวดังกล่าวมีตัวเลือกให้เล่นฟรีมากมายผ่าน Steam
นี่คือ 8 เกมสยองขวัญเล่นฟรี สำหรับเพลเยอร์ที่อยากทดสอบความกล้า แล้วมีเกมอะไรบ้าง ก็สามารถเข้าไปอ่านในบทความได้เลย
Ultimate Custom Night
เกมภาคสปินออฟของ Five Nights at Freddy’s ที่ตอนแรกผู้ผลิตเกม Scott Cawthon ตั้งใจจะให้เป็นคอนเทนต์ DLC ของเกมหลัก แต่ภายหลัง เขาตัดสินใจเปลี่ยนเป็นเกม Standalone ให้เล่นฟรีแทน
Ultimate Custom Night เป็นเกมสยองขวัญ Point and Click ที่เพลเยอร์ต้องคอยจัดการเปิด-ปิดประตู เพื่อไม่ให้ “ตุ๊กตา” เข้าถึงห้องรักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นห้องที่คุณอาศัยตลอดทั้งคืน โดยถ้าหากทำภารกิจล้มเหลว ผู้เล่นจะต้องพบกับฉาก Jumpscare สุดหลอน แล้ว Game Over โดยทันที
เกมนี้จะมีโหมด Custom Games ที่ผู้เล่นสามารถตั้งค่าตุ๊กตาผีให้ปรากฏตัวระหว่างการเล่นมากกว่า 50 ตัว, ปรับระดับความยากได้ตั้งแต่เลเวล 0-20 เพื่อเพิ่มความลุ้นระทึกและความท้าทาย รวมถึงมีคอนเทนต์ Extra ให้ปลดล็อกอีกมากมาย สำหรับเพลเยอร์ที่ชื่นชอบเกมตระกูล FNAF
He Needs His Medicine
He Needs His Medicine เป็นเกมอินดี้เนื้อเรื่องที่ใช้เวลาเล่นไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็สามารถจบได้ โดยเกมดังกล่าวจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่ง (หรือตัวผู้เล่น) ได้เข้าไปในตึกอพาร์ทเมนท์ลึกลับแห่งหนึ่ง แล้วพบเจอกับสิ่งมีชีวิตประหลาดกับเรื่องราวสุดหลอนมากมาย โดยระหว่างการเดินทาง เพลเยอร์ต้องหาส่วนผสมต่าง ๆ เพื่อทำเป็นยาแล้วมอบให้กับ “He” ชายปริศนาคนหนึ่งที่ติดในห้องอพาร์ทเมนท์
เกมดังกล่าวมีฟีเจอร์เด่นในด้านการนำเสนอเนื้อหาสยองขวัญจิตวิทยาสุดหลอน, มีเนื้อหา Lore น่าสนใจ รวมถึงมีฉากจบทั้งหมด 6 แบบ ทำให้เกมนี้มี Replay Value (คุณค่าในการกลับมาเล่นอีกครั้ง) ที่ค่อนข้างสูงอีกเกมหนึ่งเลยทีเดียว
Cry Of Fear
Cry of Fear คือเกมสยองขวัญ First Person เล่นฟรีที่สร้างโดยใช้พื้นฐานจากเกม Half-Life ซึ่งเกมนี้มีทั้งโหมด Singleplayer เล่นคนเดียว และโหมด CO-OP Multiplayer 4 คน สำหรับเล่นกับเพื่อน ๆ พร้อมกัน 4 คน
แตกต่างจาก Left 4 Dead เกมนี้จะเน้นนำเสนอเนื้อหาสยองขวัญแบบจิตวิทยา และการเอาตัวรอดจากมอนสเตอร์ขยะแขยง ถ้าหากเกมเมอร์กำลังมองหาเกม CO-OP ที่เน้นความท้าทายและหลอน เกมนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
We Went Back
ในเกมนี้ คุณจะรับบทเป็นนักอวกาศคนหนึ่ง ได้ถูกทิ้งอย่างโดษเดี่ยวเดียวดายที่ยานอวกาศลำหนึ่ง โดยเพลเยอร์ต้องออกสำรวจทั่วยานอวกาศ เพื่อแก้ไขปริศนา Puzzle ต่าง ๆ และหาคำตอบว่าทำไมคุณถึงตื่นขึ้นในสถานที่ที่สุดหลอนแห่งนี้
We Went Back เป็นเกมสยองขวัญแบบ Time Loop ที่เน้นนำเสนอบรรยากาศสุด Spooky และการดำเนินเนื้อเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป ด้วยภาพกราฟิกที่สวยงาม รวมถึงตัวเกมสามารถนำเสนอเนื้อหา Lore ได้น่าสนใจ ทำให้เกมนี้ได้รับรางวัล “เกมยอดเยี่ยมแห่งปี 2020” จากงาน Global Industry Game Awards
Ginkgo
Ginkgo เป็นเกมผจญภัย-สยองขวัญ เน้นระบบการแก้ไขปริศนา Puzzle ซึ่งพัฒนาโดยกลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย University of Southern California โดยการนำเสนอเกมดังกล่าวได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวตำนาน Horror กับวัฒนธรรมของประเทศฝั่งเอเชียตะวันออก
เกมนี้มีจุดเด่นในด้านการออกแบบอาร์ตสไตล์เป็นลักษณะเซอร์เรียล (Surreal) หรือโลกอันแสนบิดเบี้ยว ไม่สมจริง โดยระหว่างการเล่น เพลเยอร์ต้องใช้อาวุธ “Magic Needle” สำหรับการแก้ไขปริศนา และล่อกำจัดมอนสเตอร์ กับ “Yokai” ที่น่าขยะแขยงน่ากลัว
Deceit
หากพูดถึงเกมสยองขวัญ Multiplayer CO-OP หลายคนอาจจะนึกถึง Phasmophobia เป็นเกมแรก แต่สำหรับคนที่ไม่ต้องการเสียตังค์เพื่อซื้อเกมสยองขวัญ Deceit ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่เพลเยอร์ควรลิ้มลอง
Deceit คือเกมสยองขวัญ FPS ประเภท Social Deduction ที่เพลเยอร์ฝ่ายหนึ่งต้องรับบทเป็นผู้บริสุทธิ์ “Innocent” เพื่อเอาตัวรอดจากเชื้อไวรัสมรณะ ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งรับบทเป็นคนทรยศ ต้องคอยหักหลังผู้เล่นฝั่งเดียวกันเอง แม้เกมดังกล่าวไม่ค่อยได้รับความนิยมจากชาวไทยเท่าไหร่นัก รวมถึงความนิยมของเกมก็ลดลงไปบ้างในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่เกมดังกล่าวก็ยังคงมีการอัปเดตคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง
Spooky’s Jump Scare Mansion
อย่าให้หน้าปกเกมมาหลอกสายตาคุณ ! Spooky’s Jump Scare Mansion เป็นเกมแนวสยองขวัญ First Person ที่เพลเยอร์ต้องผจญภัยในปราสาทลึกลับแห่งหนึ่งที่มีจำนวนห้องมากกว่า 1,000 ห้อง โดยตัวเกมจะมีเนื้อหาสุด Spooky ปนน่ารัก ๆ ในช่วงแรก แต่หากเพลเยอร์ยิ่งผจญภัยในปราสาทที่ถลำลึกมากเท่าไหร่ บรรยากาศความหลอนก็จะเปลี่ยนไป ที่อาจเปลี่ยนจากเกมสยองน่ารัก กลายเป็นสยองขวัญซีเรียสไปเลยก็ได้
ขณะที่ Spooky’s Jump Scare Mansion เป็นเกมเล่นฟรี แต่หากเพลเยอร์ต้องการอยากเข้าใจเนื้อเรื่องมากยิ่งขึ้น ก็สามารถซื้อเนื้อหาเสริม DLC – Karamari Hospital ได้ด้วยราคาเพียง 49 บาทเท่านั้น
Doki Doki Literature Club
คงไม่ต้องกล่าวอะไรมากนักเกี่ยวกับ Doki Doki Literature Club เกมแนว Visual Novel ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าแนวเกมดังกล่าวไม่ได้มีเฉพาะแต่เนื้อหาน่ารัก ๆ หรือรักโรแมนติกเพียงอย่างเดียว
ในเกมนี้ เพลเยอร์รับบทเป็นนักเรียนคนหนึ่ง ได้เข้าร่วมสมาชิกชมรมแต่งกลอนสุดหรรษา แต่ทว่าหลังจากเข้าร่วมกิจกรรม แล้วทำความรู้จักสมาชิกกลุ่มอย่าง Sayori, Monika และ Natsuki ก็ทำให้คุณได้เห็นด้านมืดของชมรมที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของเกมไปตลอดกาล
Doki Doki Literature Club มาพร้อมเนื้อหาดาร์กรุนแรง ความสยองขวัญจิตวิทยา และการทำลายกำแพงที่ 4 ที่ทำให้คนเล่นรู้สึกกดดัน ตึงเครียด และไม่สบายใจ (ในทางแง่ดี) ทั้งตลอดการเล่น ซึ่งนับเป็นประสบการณ์การเล่นเกมที่หาได้ค่อนข้างยากในปัจจุบัน
และแน่นอน ในช่วงการเปิดเล่น Doki Doki Literature Club เป็นครั้งแรก ตัวเกมมีการแจ้งเตือนล่วงหน้าว่า “เกมนี้ไม่เหมาะสำหรับเด็ก และตื่นตระหนกง่าย” ซึ่งตอนแรก เกมเมอร์อาจจะคิดว่าเป็นคำเตือนทั่วไป และหลังได้เล่นเนื้อเรื่องผ่านพ้นไปสักระยะหนึ่ง ก็ต้องบอกเลยว่าคำเตือนดังกล่าวไม่ใช่เรื่องล้อเล่นจริง ๆ