หลังจากที่เราได้รวบรวมนามสกุลไฟล์ภาพมาแล้วก่อนหน้านี้ ทำให้หลายคนอยากรู้ข้อแตกต่างของไฟล์วิดีโอแต่ละแบบด้วย ซึ่งไฟล์วิดีโอก็มีความสำคัญไม่แพ้ไฟล์ภาพเลย เพราะในทุกวันนี้สื่อที่เรามักจะดูบ่อยที่สุดคือวิดีโอ ไฟล์วิดีโอที่เราเคยเห็นก็มีหลากหลาย บางไฟล์ก็มีคุณภาพที่ดีมาก บางไฟล์ก็มีขนาดเล็ก ใช้งานสะดวก แต่ว่า ในแต่ละไฟล์ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน แต่ว่าจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย
1. AVI
ไฟล์ .avi ย่อมาจาก Audio Video Interleave พัฒนาโดย Microsoft เป็นรูปแบบการบีบอัดไฟล์ข้อมูลที่น้อย เมื่อเทียบกับ Format อื่นๆ จึงทำให้ได้ไฟล์ที่มีคุณภาพที่ดีทั้งภาพและเสียง แต่มีขนาดไฟล์ที่ใหญ่ กว่า .MPEG และ .MOV สามารถนำไปใช้งานได้หลายสถานการณ์ เหมาะกับงานตัดต่อที่ต้องการคุณภาพสูง
ข้อดี : เหมาะกับงานตัดต่อ รองรับการใช้งานกับเครื่องเล่น MP3 , MP4 และ Windows Media Player
ข้อเสีย : ไม่เหมาะกับการใช้งานบนเครื่องที่มีพื้นที่เก็บจำกัด หรือตัวเครื่องไม่แรงพอ
2. MP4
MP4 ถูกพัฒนามาจาก MPEG ย่อมาจาก Moving Picture Experts Group เป็นรูปแบบไฟล์ที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน มีการบีบอัดมาก ทำให้ได้ไฟล์ขนาดเล็ก แต่ยังให้คุณภาพที่ดี ที่เราคุ้นเคยก็น่าจะมี MP4 หรือ MPEG 4 ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากเพราะให้คุณภาพของการแสดงผลได้ดีแต่เป็นไฟล์ที่มีขนาดไฟล์เล็ก
ข้อดี : ไฟล์เล็ก คุณภาพดี หลายโปรแกรมรองรับ เหมาะกับการใช้งานบนอินเทอร์เน็ต
ข้อเสีย : ด้วยการบีบอัดไฟล์ ทำให้รายละเอียดบางอย่างหายไป
3. MOV
ย่อมาจาก Metal Oxide Varistor พัฒนาโดย Apple รองรับการดูผ่านโปรแกรม Quicktime แต่ถึงแม้ว่าจะถูกพัฒนาโดย Apple ก็สามารถเปิดใน Windows ได้ ส่วนใหญ่จะใช้งานบนเว็บไซต์ และสื่อ Multimedia
ข้อดี : เก็บเสียงวิดีโอ ไทม์โคด และแทร็กข้อความ ซึ่งสามารถใช้ในการจัดเก็บ และซิงโครไนซ์สื่อประเภทต่างๆ ได้
ข้อเสีย : ด้วยความเฉพาะตัวของรายละเอียดไฟล์ โปรแกรมที่เปิดได้ จะต้องสามารถรับรู้รหัสเฉพาะที่ใช้ในไฟล์ได้เท่านั้น
4. XviD
เกิดจากกลุ่มนักพัฒนาอิสระ ที่พัฒนารูปแบบการบีบอัดบนพื้นฐานของ mp4 เหมือนกับ DivX แต่ XviD เป็น Open Source คือ ได้เผยแพร่ให้มีการพัฒนาจากนักพัฒนาทั่วโลก เนื่องจากว่ามาตรฐานการบีบอีกของ XviD ใช้เป็นแบบ ASP (MPEG-4 Advanced Simple Profile) ไฟล์ XviD จึงสามารถเล่นบนโปรแกรมหรือเครื่องเล่น DVD ที่สามารถเล่นไฟล์ MP4 หรือ DivX ได้เช่นกัน
ข้อดี : ไฟล์มีคุณภาพเหมือน DivX เปิดได้ในหลายโปรแกรม
ข้อเสีย : ถ้าจะเปิดไฟล์ Xvid บนเครื่องคอมพิวเตอร์ เราจะต้องติดตั้ง Xvid Decoder ก่อน
5. MKV
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับไฟล์วิดีโอที่มี Subtitle มาให้เลยในวิดีโอ ไฟล์ประเภท MKV มีรูปแบบคล้ายๆ กับ MP4 หรือ AVI ที่สามารถบรรจุภาพ และเสียง พร้อม subtitle ให้อยู่ในไฟล์เดียวได้ ซึ่งคุณภาพของภาพและเสียงไม่แตกต่างกันเลย แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ MKV เป็นไฟล์แบบ Open Source ที่นักพัฒนาทั่วไปสามารถช่วยพัฒนาต่อยอดให้ไฟล์นี้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
ข้อดี : เป็นไฟล์ที่เก็บรายละเอียดได้เยอะ ทั้งเสียง , ภาพ และ Subtitle
ข้อเสีย : มีขนาดที่ใหญ่กว่า MP4 และจำเป็นต้องพัฒนาเพื่อเพิ่มความเร็วในการเล่นและใช้งาน
6. FLV
FLV หรือ Flash Video Format PLayer เป็นสกุลไฟล์ที่ได้รับความนิยม และเป็นที่รู้จักอย่างมาก ก่อนหน้านี้จะสามารถเล่นได้โดยผ่าน Flash Player แต่ตอนนี้ รองรับตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ H.264 และรูปแบบการบีบอัดเสียง HE-AAC แม้ว่าเนื่องจากข้อจำกัดบางประการเกี่ยวกับรูปแบบ H.24 Adobe แนะนำให้ใช้รูปแบบ F4V ที่มีรูปแบบการบีบอัด H.264
ข้อดี : ใช้งานได้หลากหลาย
ข้อเสีย : ข้อจำกัดมีเยอะ จน Adobe ต้องพัฒนาไฟล์ .flv ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เทียบเท่ากับ .mp4
7. WebM
เป็นรูปแบบสื่อมัลติมีเดียที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับวิดีโอ HTML5 หรือเรียกง่ายๆว่า ใช้งานบนเว็บไซต์ เช่น Youtube เพื่อรองรับความละเอียดที่สูงกว่า .mp4
ข้อดี : ไฟล์รองรับความละเอียดได้มากกว่า .mp4
ข้อเสีย : ไฟล์มีขนาดใหญ่
8. H.264
ถ้าใครอยู่ในสายตัดต่อ ก็น่าจะคุ้นเคย เพราะเป็นสกุลไฟล์ที่หลายคนมักจะเลือกเพื่อ Export ออกมาเป็นวิดีโอ มีจุดเด่นที่สามารถรองรับวิดีโอความละเอียดสูงได้มากถึง 8K และทำให้วิดีโอที่ได้มามีรายละเอียดที่ชัดเจน ส่วนใหญ่จะเจอในโปรแกรมตัดต่อ หรือกล้องหน้ารถและกล้องวงจรปิด
ข้อดี : ไฟล์ที่ได้ มีความละเอียดสูง รายละเอียดคมชัด
ข้อเสีย : ไฟล์ใหญ่ ต้องใช้โปรแกรมเฉพาะในการเปิด
และนี่ก็คือนามสกุลไฟล์วิดีโอทั้งหมด ที่เรารวบรวมมาให้ หลายคนก็อาจจะเคยเห็นหน้าตาของบางไฟล์ แต่ไม่รู้ชื่อเรียก บางคนก็อาจจะไม่รู้จักนามสกุลไฟล์บางตัวในนี้ ไหนจะเรื่องข้อดีข้อเสีย ที่น่าจะช่วยให้หลายคนตัดสินใจเลือกใช้งานกันได้มากขึ้น