เกมเมอร์หลายคนคงคิดว่าเกมภาค Spin-Off หรือภาคเสริมที่แตกย่อยมาจากภาคหลัก อย่างไรก็ไม่มีทางที่สู้คุณภาพเทียบเท่ากับเกมภาคหลักที่มีเนื้อหาแน่นและมีความออริจินัลมากกว่า ซึ่งมันก็ใช่… แต่ไม่ใช่สำหรับเกมเหล่านี้ที่แม้จะเป็นเกมภาคเสริม แต่กลับสร้างความโด่งดังและมีคุณภาพเทียบเท่ากับเกมภาคหลักหรือที่ดีกว่าจนทีมผู้พัฒนาต้องสานต่อเกมภาค Spin-Off ต่อไป พร้อมกับปรับปรุงตัวเกมภาคหลักให้ดียิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้โดนลืมเลือนไปตามกาลเวลา

นี่คือ 8 เกมภาค Spin-Off ที่โด่งดังหรือดีกว่าเกมภาคหลัก โดยเกมเหล่านี้ ได้สร้างขึ้นเพื่อการทดสอบ (Experimental) เพราะความอยากรู้อยากลองของทีมงาน แต่กลายเป็นว่าตัวเกมทดลองกลับโด่งดังและประสบความสำเร็จพลุแตกพอ ๆ กับเกมภาคหลักซะงั้น

Dead Rising 2: Off The Record

DLC ของเกม Dead Rising 2 แบบ Alternate Timeline ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สมมุติขึ้นโดยมีแนวคิดว่า “ถ้าหาก” คุณได้รับบทพระเอกเป็น Frank West จากภาคแรกในอยู่ในภาคสอง หรือให้ Chuck Greene เป็นบอสตัวร้าย Psychopath จะเกิดอะไรขึ้น? Dead Rising 2: Off The Record ตัว Standalone DLC นี้ จะตอบโจทย์ให้แก่สาวกแฟนเกม Dead Rising ได้สมใจอยาก

แม้ว่าระบบการเล่นจะยังคงคล้ายกับภาคหลัก แต่ในส่วนที่เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากก็คือการดัดแปลงเนื้อเรื่องและสลับบทบาทตัวละครภายในเกมเกือบทั้งหมด จากกลุ่มคนฝ่ายดีกลายเป็นร้าย หรือฝ่ายร้ายกลายเป็นคนดี รวมไปถึงเพิ่มเนื้อหาแผนที่ใหม่ ซึ่งผู้เล่นจะได้ประสบการณ์การเล่นเกม Dead Rising 2 ที่แปลกใหม่และสร้างความเซอร์ไพรส์ให้แก่แฟน ๆ ตลอดเวลา

ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่อง Dead Rising 2: Off The Record จะไม่เป็นเนื้อเรื่องจริง (non canonical) หรือเป็น DLC ที่ดีที่สุด แต่ก็จัดว่าเป็นตัวเนื้อหาเสริมที่มีเอกลักษณ์น่าจดจำเป็นอย่างมากในวงการเกม

ซีรี่ส์ Shin Megami Tensei: Persona

ดั้งเดิมแล้วซีรี่ส์ Megami Tensei ของค่าย ATLAS ไม่เป็นที่ต้อนรับสำหรับผู้เล่นทั่วไปเอาซะเลย นั้นก็เป็นหน้าที่ของเกม Spin-Off อย่าง Shin Megami Tensei: Persona ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Shin Megami Tensei IF…

ในขณะที่เกม Shin Megami Tensei ภาคหลักจะมีเนื้อเรื่องที่ดาร์ก เกมเพลย์สุดหิน มีจักรวาลที่กว้างใหญ่ และมีเซตติ้งช่วงโลกหลังหายนะ แต่ตัวเกม Persona จะเป็นมิตรแก่ผู้เล่นทั่วไปมากขึ้น ด้วยเนื้อเรื่องและการนำเสนอในช่วงชีวิตวัยเรียนแบบสไตล์อนิเมะจ๋า ที่เน้นเรื่องราวความสัมพันธ์กับมิตรภาพระหว่างตัวละครในขณะที่เนื้อเรื่องมีความซีเรียสพอดี และรวมไปถึงภาพกราฟิก, User Interface สุด Stylish ที่จี๊ดจ๊าดโดนใจวัยรุ่นสุด ๆ จึงไม่แปลกใจเลยที่ Persona จะฮิตกว่าซีรี่ส์ภาคหลัก

สาเหตุที่ Shin Megami Tensei: Persona ได้โด่งดังไปทั่วโลก เพราะว่าตัวเกมภาคแรก (Revelations: Persona) ได้ออกจำหน่ายในฝั่งตะวันตกในปี 1996 และประสบความสำเร็จในยอดขาย รวมไปถึงเริ่มขยายชื่อเป็นที่รู้จักทั่วโลกหลังจากเกม Persona 3 และ Persona 4 ได้วางออกจำหน่ายฝั่งยุโรปในเวลาต่อมา

Forza Horizon

จากเกมแนว Racing Simulation เน้นความสมจริง ซึ่งทีมงานอยากลองเสี่ยงและกล้าที่จะสร้างเกมแข่งรถให้รู้สึกว่าเป็นนวัตกรรมจริง ๆ และ Forza Horizon ก็กำเนิดขึ้นในฐานะเกมแข่งอาร์เคดเปิดโลกกว้างที่ดีที่สุดแห่งยุค ที่จับมือกันระหว่าง Turn 10 Studio และ Playground Games

ต้องขอบคุณระบบฟิสิกส์การขับเคลื่อนของเกม Forza Horizon เป็น Arcade Simulation ที่สามารถเข้าถึงได้กับนักเล่นเกมแข่งรถทุกประเภท แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเกมนี้ คือสภาพแวดล้อมภายในเกมที่อ้างอิงมาจากสถานที่โลกจริงราวกับสแกนมา พร้อมกับมีภาพกราฟิกที่สวยงามล้ำหน้าเป็นอย่างมาก จึงทำให้ Forza Horizon เป็นเกมขับรถที่มีสีสันและมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก ซึ่งเพียงแค่การขับรถภายในเกมด้วยภาพกราฟิกระดับ Ultra แล้วลื่นไหลระดับ 60 FPS เพียงเท่านี้ก็คุ้มค่าแล้ว

ไม่มีภาคไหนที่ Forza Horizon มีกระแสด้านลบ หรือแม้กระทั่ง Forza Horizon 4 ซึ่งเป็นภาคล่าสุดยังคงรักษามาตรฐานและประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยทางทีมงาน GamingDose ได้มีรีวิวเกี่ยวกับเกมนี้แล้ว ผู้อ่านสามารถอ่านบทความรีวิวเกม Forza Horizon 4 ฉบับเต็มได้ ที่นี่

Dissidia: Final Fantasy

ฮีโร่ของเกม Final Fantasy มาต่อสู้ด้วยกันเอง เป็นความฝันอันสูงส่งที่สุดของเหล่าแฟน ๆ Final Fantasy เดนตายที่ทีมงานสร้างขึ้นเพราะสาวกเรียกร้องโดยเฉพาะ

Final Fantasy มีเกมภาค Spin-Off ที่เยอะมาก อย่างเช่น Chocobo Racing, FF Tactics, Final Fantasy X-2 และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่สำหรับผู้เขียนแล้วไม่มีเกมไหนน่าจดจำไปกว่า Dissidia: Final Fantasy เป็นเกมต่อสู้ในรูปแบบ Arena ที่รวบรวมตัวเอกจากเกมตระกูล Final Fantasy ทั้งหมดมาไฟท์ติ้งด้วยกันเอง ก็ต้องยอมรับเป็นไอเดียที่น่าสนใจเพราะว่าเกมเมอร์หลายคนอยากจะเห็นฉากแอ๊คชั่นของเหล่าตัวละครเอกสุดโปรดในรูปแบบการเคลื่อนไหว Full Movement ให้ชื่นตาชื่นใจ นอกจากออกคำสั่งสไตล์ RPG อย่างเดียว

โชคดีที่ทีมผู้พัฒนาเกมได้มีประสบการณ์เกี่ยวเกมต่อสู้อย่าง Team Ninja ที่มีผลงานคือ Dead or Alive ได้พัฒนาเกมนี้ จึงทำให้เกม Dissidia: Final Fantasy มีลักษณะเกมเพลย์ที่สนุกกว่าคาดไว้มาก

The Typing of the Dead

นี่อาจจะเป็นเกม Spin-Off ที่แหวกแนวที่สุดเท่าที่ผู้เขียนเคยเจอมา ใครจะไปคิดว่าเกมซอมบี้อาร์เคต Rail-Shooting จู่ ๆ กลายมาเป็นเกมเพื่อการศึกษานองเลือด ที่หากพิมพ์ผิดคือ “ตาย”

มันก็คือเกม The House of The Dead เหมือนดั้งเดิมหมดทุกอย่าง แต่เปลี่ยนแปลงคือผู้เล่นต้องใช้คีย์บอร์ดของคุณโดยการพิมพ์คำให้ครบถ้วนเป็นอาวุธแทน ซึ่งก็ไม่มีอะไรกล่าวเพิ่มเติมมากกว่านี้ เพราะว่าทั้งเกม ผู้เล่นจะต้องตะลุยฝ่าด่านซอมบี้โดยการพิมพ์คำให้ถูกต้องตลอดทั้งเกม ถ้าหากช้าเกินไปผู้เล่นจะสูญเสีย Life เรื่อย ๆ จน Game Over ไปตามระเบียบ

ซึ่งผู้อ่านอาจจะคิดว่าเป็นเกมที่ดัดแปลงโดยชาวม็อด แต่ความจริงแล้วเป็นเกมพัฒนาโดย WOW Entertainment ซึ่งเป็นบริษัทภายในบ้านของ SEGA หรือก็คือเป็นเกมของ SEGA แท้ ๆ นั้นเอง

ถึงแม้ว่าเกมนี้จะสอบตกในฐานะเกม ‘เพื่อการศึกษา’ แต่เพราะเป็นเกมที่เต็มไปความบันเทิง ตลกขำขัน และมีความท้าทายเกินคาด จึงเป็นเกมไว้ใช้พิสูจน์เป็นบททดสอบคัดเลือกอาชีพนักเขียนเพื่อรับเลือกเข้าไปทำงานภายในบริษัท GamingDose และแน่นอนว่าที่พูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องหลอกลวงทั้งเพ

World of Warcraft

เนื้อหา Warcraft นั้นช่างกว้างใหญ่ไพศาลจึงไม่แปลกเลยที่สามารถต่อยอดให้เป็นเกมออนไลน์ MMORPG ยอดนิยมทุกยุคทุกสมัย

หนึ่งในเกมออนไลน์ขวัญใจมหาชน World of Warcraft เป็นเกม MMORPG ที่ได้สร้างแรงกระแทกแก่วงการเกมที่เป็นนิยามมาตรฐานให้แก่เกม MMO ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาภายใน, แผนที่และประวัติพื้นหลังของจักรวาลภายใน Warcraft กับระบบการเล่นที่ชวนเสพติด จึงทำให้เป็นเกมออนไลน์ที่เปิดบริการมาตั้งแต่ 2004 ที่ยังเปิดอยู่จนถึงทุกวันนี้ และยกตำแหน่งให้เป็นเกม MMORPG ยอดนิยมตลอดกาล

Fallout: New Vegas

แฟนเกมให้ความเห็นตรงกันว่า Fallout: New Vegas เป็นเกม Fallout ที่ดีที่สุด แต่ที่น่าตกใจเพราะว่าภาค New Vegas เป็นเพียงแค่ภาค Spin-Off ที่ภาคหลักควรจะทำได้ดีกว่าภาคเสริมแท้ ๆ

Fallout: New Vegas เป็นเกมที่ยกปรับปรุงตัวเกมและอัดใส่เนื้อหาทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ไม่ว่าจะเป็นบทสคริปท์ที่แน่น บรรยากาศภายในเกมที่แห้งแล้ง เกมเพลย์อิสระแก่ผู้เล่นตั้งแต่ต้นจนจบ เนื้อเรื่องก็ดาร์กสุด ๆ ซึ่งแน่นอนว่าที่กล่าวมาทั้งหมดทำให้เกม Fallout 4 และ Fallout 3 โดนกินฝุ่นไปเลยเต็ม ๆ จนเกมเมอร์เรียกร้องให้ทีมงานผู้สร้างภาค New Vegas ให้กลับมาสร้างเกม Fallout ภาคใหม่อีกครั้ง

ซึ่งก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ว่าทำไม Fallout: New Vegas ถึง ‘เข้าใจ’ เกม Fallout มากกว่าทีมงาน Bethesda เพราะว่าทีมผู้พัฒนาภาค Spin-Off นั้นก็คือทีมงาน Obsidian Entertainment มีอดีตสมาชิกเกือบทั้งหมดมาจาก Black Isle Studio โดยมีผลงานคือ Fallout ฉบับดั้งเดิมในภาคหนึ่งและสองนั้นเอง

ซีรี่ส์ Dead Or Alive: Xtreme

ผู้เขียนไม่ได้ติดตามเกมต่อสู้เท่าไหร่นัก แต่ต้องยอมรับว่าสนใจในประวัติความเป็นมาของตัวละครหญิงในเกมต่อสู้ไม่ใช่น้อย (โดยเฉพาะเกม DoA) ดูเหมือนว่า Koei Tecmo จะสามารถอ่านใจเกมเมอร์ได้ จึงตัดสินใจทำเกมภาค Xtreme โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อสอดส่องชีวิตประจำวันของเหล่าตัวละครหญิง DoA ในช่วงวันหยุดฤดูร้อน

Dead Or Alive: Xtreme เป็นแนว Dating Simulator เต็มรูปแบบที่ให้ผู้เล่นสามารถเลือกตัวละครที่ชื่นชอบแล้วเลือกทำกิจกรรมชายหาดต่าง ๆ ไม่ว่าจะกีฬาวอลเลย์บอล ไต่หน้าผา หรือแม้กระทั่งเลือกที่จะพักผ่อนตามอัศญาศัย ซึ่งเป็นฟีเจอร์หลักของเกมที่ให้ผู้เล่นเป็น ‘ผู้ชม’ ที่ดีสามารถสอดส่องตัวละครที่ชื่นชอบอย่างใกล้ชิด (ต้องขอบคุณ Soft Body ที่ทำให้โมเดลตัวละครมีความเนียนใสราวกับสามารถจับต้องได้) จะเลือกดูเฉย ๆ หรือถ่ายรูปเพียงเท่านี้ผู้เล่นก็รู้สึกฟินแล้ว

ถ้าคุณเป็นสาวกเกม DoA, ติดตามเกม DoA เป็นประจำ หรือแม้กระทั่งผู้เล่นทั่วไปที่ชื่นชอบเกมญี่ปุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็สามารถเอนจอยกับเกมนี้ได้ไม่ยาก แต่ต้องมั่นใจว่าในขณะที่เล่นเกม Dead or Alive: Xtreme จะต้องไม่มีครอบครัวหรือคนรอบข้างแอบดูอยู่ด้านหลังนะครับ (หรือล็อกประตูด้วยก็ดี)