BY ซ้ง
6 Dec 19 8:32 pm

8 เดือนแห่งโอกาสที่ GamingDose ของโอ๊ต Content Creator

81 Views

‘ใจหาย’ คืออาการที่เกิดขึ้นกับผมเสมอเวลาเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ใช่ว่าทุกครั้งที่เปลี่ยนแปลงจะต้องใจหาย มันมีปัจจัยของมันอยู่

หากจะให้สรุปง่าย ๆ ผมว่าคนเราใจหายเพราะเราต้องออกจาก comfort zone หรือไม่ก็ยามสูญเสียบางอย่างที่เคยชินหรือสำคัญไป

แนะนำตัวสักหน่อย ผมชื่อโอ๊ต (ทรงกลด ลิมปิพัฒน์) ประจำตำแหน่ง Content Creator ใน GamingDose หลัก ๆ ผมจะเขียนบทความเป็นโพสต์ลงบนเพจเฟซบุ๊ค และพากย์เสียงบ้างประปราย

สำหรับผม การเปลี่ยนงานครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว แต่อาการใจหายก็ยังเกิดขึ้นเหมือนเดิม และก่อนจะเปลี่ยนงานอีกครั้ง ผมอยากเล่าให้ฟังว่าชีวิตที่ GamingDose ภายในระยะเวลาประมาณ 8 เดือนที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง

และนี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ผม ‘ใจหาย’

แรกเริ่ม

ผมรู้จัก GamingDose เพราะคลิปใน YouTube ใช่ คลิปของพี่เน็กซ์ XTER-VENDETTA นั่นแหละ แล้วจากนั้นจึงค่อย ๆ ติดตาม GamingDose เรื่อยมา

เมื่อสบโอกาสเหมาะตอนต้นปีที่ผ่านมา ผมเลยลองยื่นใบสมัครตำแหน่ง Content Creator ดู เพราะผมชอบงานคอนเทนต์ และผมชอบเกม เหมือนโชคเข้าข้างเพราะผมได้ร่วมงานที่นี่ ผมจึงมองว่านี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเปลี่ยนงานครั้งแรก

ตอนแรก ๆ ที่ทำงานก็ยังไม่ค่อยเข้าที่ ที่นี่ทำงานกันอย่างเป็นปัจเจกพอสมควร ทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในแต่ละวัน นักเขียนปั่นงาน โยนงานต่อให้กราฟิก ทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็ว คุณภาพงานไม่ต้องคราฟต์มาก แต่ข้อมูลต้องถูกต้อง น่าเชื่อถือ และรวดเร็ว การประสานงานจึงเป็นไปอย่างรวดเร็วและอาศัยการสื่อสารน้อย

หลังจากเริ่มปรับตัวได้ เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ผมก็พบว่าการสร้างสรรค์งานที่นี่ค่อนข้างอิสระ ถ้าคอนเทนต์เกี่ยวกับเกม ไม่ได้ไปเบียดเบียนหรือทำให้ใครลำบาก สร้างสรรค์ ให้ความรู้ คอนเทนต์เหล่านั้นก็ควรค่าต่อการนำเสนอออกไป ถัว ๆ กันกับข่าวประจำวันที่เข้าถึงและเสพย่อยได้ง่ายกว่า

สักพัก

ปัญหาของผมไม่ใช่การทำงาน แต่เป็นการแบ่งเวลาและรักษาสุขภาพ

หลังจากเริ่มงานมาได้ประมาณ 1 เดือน โครงการปริญญาโทที่ผมสมัครไปก็ประกาศผลรับสมัครพอดี ผมได้เข้าเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ภาคค่ำ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายครั้งใหญ่

ผมต้องออกจากออฟฟิศก่อนเวลาเลิกงาน 1 ชั่วโมงเมื่อมีคาบเรียน และถ่อไปเรียนจนถึง 21.30 น. ก่อนจะกลับบ้าน หรืออาจมีงานกลุ่มต้องสะสางต่อ

กิจวัตรของผมวนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่รู้จบ โชคดีที่คนในทีมค่อนข้างเข้าใจและไม่ได้มีปัญหาอะไร (หรืออาจจะมีแต่ไม่ได้บอก ฮ่า!) และยังเชื่อใจให้ผมดำรงกิจวัตรบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้ต่อไป

คนในทีมทั้งหมดจากตอนนั้นจนถึงตอนนี้ประกอบด้วย

  1. พี่นะ – เป็นมือกราฟิกที่เก่ง ทำงานไวมาก ผมชอบคุยกับเขาเพราะเรามักกินข้าวพร้อมกัน ไปเซเว่นด้วยกัน ว่าง ๆ แกก็ชอบชวนเหล่สาว เป็นน้ำเย็นหล่อเลี้ยงชีวิตอันวุ่นวาย ถึงตอนนี้พี่แกจะออกไปแล้วก็เถอะ… สู้ ๆ ละกันนะพี่
  2. บ๋อม – ผมมาทันตอนบ๋อมยังอยู่ บ๋อมเป็นนักเขียนที่มีไอเดียสำหรับบทความสร้างสรรค์เยอะ ชื่นชอบการถกปัญหาประเด็นต่าง ๆ ที่ดูเข้าใจยาก แต่ก็สนุกเวลาได้คุยกัน
  3. มาร์ค – เป็นน้องที่คุยเก่ง (เก่งจริง) และต่อมุกเก่งมาก สรรหาอะไรใหม่ ๆ มาเพิ่มพูนความรู้และการงานได้ตลอด ผมนับถือน้องมันในฐานะคนขยันคนหนึ่งเลย ความสามารถด้านการเขียนก็ฝากผีฝากไข้ได้เลยทั้งที่อายุน้อยที่สุดในทีม
  4. เค – เป็นนักเขียนนั่งหลบอยู่ในมุม เงียบ ๆ ดูสุภาพ ถ้าเคยเอ่ยปากพูดคำหยาบด่าใคร คน ๆ นั้นจะเหมือนตกนรกไป 1 วัน และเคยังเป็นเจ้าพ่อเครื่องเสียง หูฟังของผมก็ซื้อต่อมาจากเคนี่แหละ ที่สำคัญ เคชอบกินข้าวกลางวันช้าจนผิดเวลาไปมาก กินข้าวให้ตรงเวลาหน่อยก็ดี
  5. ไอซ์ – เป็นเพื่อนนักเขียนที่เข้ามาใหม่สุด ถึงจะเจอกันได้ไม่นาน แต่ไอซ์เป็นคนที่มีพลังสูง ผมชอบเวลาไอซ์พูดถึงเกม ไอดอล หรือดนตรี มันสัมผัสได้ถึงความหลงใหลในสิ่งเหล่านั้นจริง ๆ และไอซ์เป็นคนที่มีขนมอยู่บนโต๊ะเสมอ ผมก็จะแอบไปหยิบมากิน อร่อย
  6. พี่เน็กซ์ – เป็นพี่มือตัดต่อวิดีโอและนักพากย์เสียงทองที่นั่งตรงข้ามกับผม ผมชอบเวลาพี่เน็กซ์เล่าถึงเกมที่ชอบให้ฟัง มันเป็นธรรมชาติมาก เหมือนเล่าเรื่องให้เพื่อนฟังในวงเหล้า ผมว่าพี่เน็กซ์เหมาะกับการเล่าเรื่องโดยการพูดจริง ๆ นั่นแหละ
  7. พี่เนส – เป็นมือตัดต่อวิดีโออีกคนที่ผมใช้บริการบ่อยสุด ทำได้หลายอย่าง และยังเป็นเหมือนพ่อบ้านแห่ง GamingDose เลย มีช่วงนึงที่เขาทำข้าวมาขายเพื่อน ๆ ในออฟฟิศ เสียดายที่ตอนนั้นผมไม่ได้ลอง
  8. พี่กัน – เป็นพี่ที่คอยให้คำปรึกษาเรื่องการทำงานกับผม พี่กันเป็นชาวอักษรศาสตร์เหมือนกัน แต่กลับทำได้ทุกอย่าง ทั้งงานเขียน โซเชียลมีเดีย ตัดต่อภาพนิ่ง ตัดต่อวิดีโอ ทำได้ทุกอย่างจนน่าเหลือเชื่อ และยังค่อนข้างใจเย็น รับมือภาระหน้าที่หลาย ๆ อย่างได้ราบรื่นมาก
  9. พี่โน้ต – เป็นเหมือนพี่ใหญ่ประจำออฟฟิศ และเป็นเหมือนสารานุกรมเกม ใครมีข้อสงสัยอะไรมักจะหันมาหาพี่โน้ตก่อนประจำ เรียกได้ว่าเป็นหัวหน้าที่ใจดีคนหนึ่ง หนักแน่น รอบรู้ และรอบคอบเรื่องคอนเทนต์มากคนหนึ่ง ช่วยเหลือเหลือเรื่องงานได้อย่างครบถ้วน
  10. พี่ยีน – เป็นเหมือนอีกขั้วของพี่โน้ต พี่โน้ตจะดูงานภายในองค์กร ส่วนพี่ยีนจะมองภาพรวมและการติดต่อหาโอกาสใหม่ ๆ ผมยกย่องพี่ยีนมากในฐานะคนอายุน้อยที่สู้ชีวิตสุด ๆ ทั้งยังขยันและมีเซนส์ในการทำงานที่ดี ผมเคยได้ยินว่าพี่ยีนเคยใจร้อนกว่านี้ แต่จนถึงทุกวันนี้ บอกตามตรงว่าพี่ยีนค่อนข้างใจเย็นกับเนื้องาน ตัดสินใจบนหลักเหตุผลและความเป็นจริง

และนั่นคือภาพรวมการทำงานกับทุกคนในออฟฟิศ แน่นอนว่าผมไม่เสียใจเลยที่ได้ร่วมงานกับทุกคนที่นี่

ปลายทาง

ว่ากันว่า คนเราต้องใช้เวลาประมาณครึ่งเดือนกว่าจะรู้สึกลงตัวหรือเคยชินกับสถานที่และสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ

ผมรู้สึกว่าคำพูดนี้ถูกต้องเสมอ อ้างอิงจากประสบการณ์ชีวิตนะ และขณะที่ผมกำลังเริ่มลงตัวกับ GamingDose ผมก็มีโอกาสใหม่เข้ามาพอดี

ที่ลาออกครั้งนี้ ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยกับ GamingDose แต่พอดีว่ารุ่นพี่ป.โทได้หยิบมอบโอกาสมาให้ ซึ่งค่อนข้างเกี่ยวข้องกับสิ่งที่กำลังเรียนอยู่พอดี และผมก็ค่อนข้างมีเหตุจำเป็นให้ต้องมองเส้นทางในอนาคตเยอะขึ้น เมื่อพิจารณาจากสภาพการณ์ทั้งหมดแล้ว นี่จึงเป้นอีกหนทางเพื่อขยับขยายตัวเองสักหน่อย

ผมยังมีเรื่องเล่าอีกเยอะจาก GamingDose เมื่อมองย้อนไป ตอนที่พากย์วิดีโอใหม่ ๆ ตอนนั้นยังเกร็งอยู่เลยว่าจะโดนเปรียบเทียบกับพี่เน็กซ์ไหม (ซึ่งก็โดน และยังโดนอยู่ ฮ่า ๆๆ) แต่ทุกคนในออฟฟิศ รวมถึงพี่เน็กซ์ ก็ให้กำลังใจและคำแนะนำที่ดี เสียงตอบรับเลยไม่สำคัญเท่าคุณภาพงานและความใส่ใจของเรา

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราว 8 เดือนของผมที่ GamingDose เมื่อถ่ายทอดเป็นตัวอักษร มันอาจดูยาว แต่เทียบกับหลายสิ่งที่ได้เรียนรู้และพบเจอ มันไม่สั้นไม่ยาวนักหรอก

เพราะผมเชื่อว่า ประสบการณ์กับความทรงจำเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดได้ไม่มีวันหมด

และไอ้เรื่องราวไม่สั้นไม่ยาวพวกนี้นี่แหละ ที่ทำให้ผม ‘ใจหาย’ ชะมัด

ขอบคุณ GamingDose สำหรับ 8 เดือนที่ผ่านมาจริง ๆ เป็นประสบการณ์ที่สนุกและล้ำค่ามากเลย ผมเชื่อว่า GamingDose ยังมีหนทางเติบโตในฐานะสื่อได้อีกมาก และจะขอเฝ้าติดตามและเป็นกำลังใจให้ต่อไปแน่นอน 🙂

SHARE

oat oat

Back to top