สวัสดีปีใหม่นะครับ ผมเจมส์ จากทีม Urnique Studio ผู้พัฒนาเกม Timelie โดยผมเป็น Creative Director ของเกม แต่วันนี้ไม่ได้มาขายเกมตัวเอง เพราะได้รับภารกิจจากทาง Gaming Dose ให้เรียงเกมที่ชอบที่สุด 90 เกมจากทศวรรษนี้มาตั้งแต่ปี 2010-2019 แถมยังให้เขียนอธิบายด้วย ก็เลยขออนุญาตเขียนสัก 5 เกมนะครับ
โดยทุก ๆ เกมที่อยู่ในลิสต์จะเป็นเกมที่ผมได้เล่นจบเองจริงๆ หรือให้เวลากับมันมากพอวัดอะไรได้ครับ โดยปกติผมจะเล่นเกมบน PS3 กับ PS4 เป็นหลัก มีเล่นบน PC บ้างบางเกม
ซึ่งโดยส่วนตัวผมเป็นคนที่ไม่ค่อยเล่นเกม Multiplayer เท่าไร เพราะเป็นคนมีเวลาว่างไม่เท่าคนอื่นเท่าไร เลยชอบเล่นเกม Single Player ด้วยสปีดของตัวเองครับ ไม่กดดันดี (หัวเราะ) แต่ถ้าเกมไหนยาว ๆ โดยเฉพาะพวกเกม RPG ที่หลักร้อยชม.เลย นี่จะแทบหาเวลาแตะไม่ได้เลยครับ โดยลิสต์ทั้งหมดนี้อาจจะไม่ได้เรียงตามคุณภาพของเกมจริง ๆ แต่จะเป็นตามความชื่นชอบหรือความประทับใจที่มีต่อเกมนะครับ
ลิสต์ทั้งหมด 90 เกม
90. Killzone 3
89. God of War: Ascension
88. Days Gone
87. Saint Row 4
86. Velocity 2X
85. Rise of the Tomb Raider
84. Call of Duty: Modern Warfare 3
83. Wolfenstein II: The New Colossus
82. Assassin’s Creed: Revelations
81. Batman: Arkham Origin
80. Beyond: Two Souls
79. Limbo
78. The Fall
77. Furi
76. Metal Gear Solid V: Ground Zeroes
75. Spec Ops The Line
74. Crysis 2
73. Hitman
72. Guacamelee! Super Turbo Championship Edition
71. Dust: An Elysian Tail
70. Resident Evil 7: Biohazard
69. Final Fantasy XV
68. Gone Home
67. Call of Duty: Black Ops II
66. Call of Duty: Black Ops
65. Assassin’s Creed Origins
64. Assassin’s Creed Unity
63. Watch Dogs 2
62. Shadow of War
61. Shadow of Mordor
60. Portal
59. The Witness
58. Firewatch
57. God of War III
56. inFamous Second Son
55. Resistance 3
54. Saint row The Third
53. Far Cry 4
52. Assassin’s Creed: Syndicate
51. No Man’s Sky
50. Transistor
49. NieR: Automata
48. Detroit: Become Human
47. Devil May Cry 5
46. Sleeping Dogs
45. Brothers – A Tale of Two Sons
44. Bloodborne
43. Metal Gear Solid: Peace Walker
42. inFamous 2
41. Heavy Rain
40. Tomb Raider: Definitive Edition
39. To the Moon
38. DOOM
37. Shadow of the Colossus Remake
36. Hotline Miami
35. Vanquish
34. Nioh
33. Assassin’s Creed IV: Black Flag
32. Don’t Starve Together
31. Wolfenstein: The New Order
30. Uncharted 3: Drake’s Deception
29. Metal Gear Rising: Revengeance
28. Dishonored
27. Uncharted: The Lost Legacy
26. Life is Strange
25. Assassin’s Creed Odyssey
24. Marvel’s Spider-Man
23. Far Cry 3
22. Death Stranding
21. Horizon Zero Dawn
20. Batman: Arkham Knight
19. Metal Gear Solid V: The Phantom Pain
18. Bioshock Infinite
17. INSIDE
16. Uncharted 4: A Thief’s End
15. Monster Hunter World
14. Skyrim
13. Minecraft
12. Grand Theft Auto V
11. Red Dead Redemption
10. Undertale
9. Yakuza 0
8. Assassin’s Creed Brotherhood
7. Batman: Arkham City
6. God of War
5. Red Dead Redemption 2
ชื่นชอบเกมนี้ที่ความสมจริงของเกมที่ไม่ใช่แค่กราฟิก แต่คือทั้งระบบของมัน ทั้งเกมเพลย์ลูป ทั้งการดีไซน์ต่างๆ ความช้า ๆ เนิบ ๆ มัน ผมว่ามันทำให้เกมน่าดึงดูดมากเลย เล่นแล้วเหมือนได้เป็นคาวบอยในยุคนั้นจริง ๆ และความลึกของระบบที่ผมคิดมันว่าละเอียดที่สุดในโลก ในฐานะคนพัฒนาเกมก็จะรู้สึกว่าหลาย ๆ อย่างเกมนี้มันถูกสร้างได้มหัศจรรย์มาก เล่นแล้วเห็นน้ำตาของผู้พัฒนาเลยทีเดียว และผมขอยกให้ Arthur Morgan เป็นหนึ่งในตัวละครที่ดีที่สุดของทศวรรษนี้เลยครับ
4. Journey
เกมนี้คือหนึ่งในเกมที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมมาก ๆ ชีวิตนี้อยากจะสามารถสร้างเกมที่สวยงามได้แบบนี้
เป็นเกมใบ้ว่าด้วยเรื่องการผจญภัย 1 ชม. ของเรากับผู้เล่นแปลกหน้า ที่เราไม่รู้จัก ไม่รู้ชื่อ ไม่มีวิธีแชท ส่งเสียงใด ๆ ทำได้เพียงกดส่งเสียงป๊อง ๆ แต่เรากับเขาจะผจญภัยโบยบินเพื่อปีนไปสู่ยอดเขาด้วยกัน ซึ่งเมื่อจบเกม เกมจะบอกชื่อของผู้เล่นที่เล่นมากับเราชื่อว่าอะไร ตัวเกมแม้จะมี lore มีโลกอะไรอยู่ แต่เนื้อเรื่องที่แท้จริงของมันคือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากการผจญภัยของเรากับเพื่อนแปลกหน้า หรือ ‘Journey’
ซึ่งผมว่ามันคือสิ่งที่งดงามมาก ๆ จะเล่นกับกี่คนมันก็รู้สึกไม่เหมือนกัน ด้วย mechanic ไม่กี่อย่างของเกมทำให้มันดึงความเป็นคนออกมาถ่ายทอดผ่านจอยได้ดีมาก เป็นเกมสั้น ๆ ที่ผมจบรอบแรกแล้วร้องไห้คาจอย เป็นอารมณ์ร่วมที่มหัศจรรย์มาก ๆ
3. Persona 5
ผมหลงรักเกมนี้มาก มันคือ JRPG ที่ผมว่าสนุกสุด ๆ ระบบที่ผมคิดว่ามันออกแบบมาได้กลมกล่อมดีมาก มันเยอะมากแต่เกมก็ค่อย ๆ ใส่ให้เราซึมซับไปกับมันได้ดี แต่ไอความเยอะของระบบมันกลับทำให้โลกของเกมมันมีชีวิตชีวามาก แถมเพลงก็ดีมาก ติดหู ทุกวันนี้ก็ยังเปิดฟัง และแอบใช้เป็นริงโทนส่วนตัวอยู่
แต่สิ่งที่ผมหลงรักที่สุดของเกมนี้คงเป็นธีมหรือเนื้อเรื่องที่มันให้ความรู้สึกเรากำลังเป็นพระเอกอนิเมะได้ดีมาก ด้วยทั้งระบบการเล่น ตัวละคร และเนื้อเรื่องที่เกมให้มา มันดึงผมเข้าไปในเกมและทำให้ผมรู้สึกโคตรเท่เวลาที่เราจะทำการใหญ่อะไรในแต่ละครั้ง มันชวนประทับใจจนต้องพูดว้าวบ่อย ๆ จริง ๆ
2. The Last Guardian
ผมเคยเลี้ยงสุนัขมาสิบกว่าปี และมันเสียไปก่อนเกมนี้จะมาไม่กี่ปี การเล่นเกมนี้มันจึงหวนคืนความรู้สึกเก่า ๆ ของผมกับเพื่อนเก่าที่เราไม่ได้เจอกันมานานนับปี สิ่งที่เด็กพระเอกกับ Trico ร่วมผจญภัยไปด้วยกัน จากไม่สนิทกันจนค่อย ๆ เสริมความสัมพันธ์กันจนเป็นมิตรแท้ นั้นมันกินใจผมมาก ๆ มันทำให้ผมคิดถึงตอนเลี้ยงสุนัขมาก ๆ
และผมรู้สึกว่าเกมมีการดีไซน์ที่อัจฉริยะมากในหลาย ๆ จุด ที่ในฐานะคนออกแบบเกมเหมือนกันก็ต้องชื่นชมในไอเดีย อีกส่วนหนึ่งที่ชอบเกมนี้นั้นคิดว่ามันให้ฟีลผจญภัย เหมือนเกมผจญภัยเก่า ๆ จากยุค PS2 ซึ่งในยุคนี้ที่เต็มไปด้วยเกมฟอร์มยักษ์แสงสีพื้นถล่มระเบิดตูมตาม มันทำให้เกมนี้ดูโดดเด่นและน่าดึงดูดมาก ผมรักโลกกับบรรยากาศของเกมนี้มากจริง ๆ ครับ
1. The Last of Us
ผมคิดว่าเกมนี้มันคือส่วนผสมสิ่งที่ดีที่สุดหลายๆ อย่าง ทั้งระบบการเล่น กราฟิก ดนตรี การแสดง ตัวละคร บท และเนื้อเรื่อง
ที่เอามาผสมกันอย่างลงตัว และถูกสร้างมาอย่างปราณีตและใส่ใจเก็บรายละเอียดอย่างดีที่สุด แม้เกมจะมีเนื้อหาที่เข้มข้น กดดัน แต่ Pacing(จังหวะ) ของเกมนี้ผมคิดว่าเข้าขั้นสมบูรณ์แบบ
เป็นเกมที่ถูกออกแบบมาให้หาจังหวะเบื่อได้ยาก มันสมูทมาก ผู้สร้างวางแผนมันมาอย่างดี รู้ว่าตอนไหนต้องใส่อะไรมา รู้ว่าตอนไหนควรเร่งเครื่อง ตอนไหนควรผ่อน แล้วจะเร่งด้วยอะไร เนื้อเรื่อง หรือกราฟิก หรือระบบการเล่น หรือผสมๆกัน ทุกอย่างมันบรรจงออกแบบวางมาอย่างชาญฉลาด ทำให้เกมมันเล่นจังหวะหนัก-เบาได้ดีมาก
เกมนี้จึงเป็นโรลเลอร์โคสเตอร์ชั้นดีที่ผู้ออกแบบจูงอารมณ์คนเล่นตั้งแต่ต้นยันจบเกมอย่างไร้ความปราณี ซึ่งผมว่า Pacing เป็นหนึ่งในสิ่งหนึ่งที่ออกแบบได้ยากที่สุด และเกมนี้ทำมันได้อย่างงดงามจริงๆ
ป.ล. ผมไม่เล่นเกม Horror ครับ ผมกลัว