BY Zreast
14 Jul 24 2:00 pm

เล่นแล้วมาเล่า : “Astro Bot” จดหมายรักจาก PlayStation อลังการกว่าครั้งไหน ๆ

1,150 Views

เชื่อว่าชาว PlayStation ทุกคน จะต้องรู้จักเจ้าหุ่นจิ๋ว “Astro” หรือไม่ก็เคยเห็นผ่าน ๆ ตาแน่นอน โดยเฉพาะกับเกม Astro’s Playroom ที่ติดมาพร้อมเครื่อง PlayStation 5 และถ้าจะบอกว่านี่คือมาสค็อตประจำแพลตฟอร์ม PlayStation ในยุคใหม่แล้ว ก็คงไม่ผิดนัก

และในปี 2024 ก็ถึงเวลาแล้วที่เกมนี้จะถูกสานต่อ กับภาคใหม่อย่าง “Astro Bot” ซึ่งยกระดับสู่เกมผจญภัยแบบเต็มตัว เตรียมวางขายให้ชาว PlayStation 5 ได้สัมผัสกัน

โดยภาคนี้ ทีมงาน GamingDose ก็มีโอกาสได้ไปลอง Demo กันมาก่อนแล้ว มันจะสนุกเพลินใจขนาดไหน และมีอะไรที่ดีขึ้นกว่าภาคที่แล้วบ้าง ก็ตามมาไล่เรียงไปพร้อมกันกับเราได้เลย

จากเกมขำ ๆ สู่การผจญภัยแบบเต็มสเกล

ถ้าใครยังจำได้, เกมภาคแรกอย่าง Astro’s Playroom นั้นนำเสนอประสบการณ์แบบกระชับ เพื่อโชว์ฟีเจอร์ของจอย DualSense (จอย PlayStation 5) เป็นหลัก ในฐานะของเกมเปิด Generation ใหม่ และเป็นเกมแรกที่ทุกคนจะได้เห็นในหน้าเมนูหลักของเครื่อง

และถึงเราจะบอกว่ามันเป็นเกมที่เล่นแบบขำ ๆ เพลิน ๆ แต่เอาเข้าจริงแล้วมันก็มอบความสนุกได้เต็มที่ไม่แพ้เกมเสียเงินซื้อเลย ที่สำคัญก็คือนี่เป็นเหมือนจดหมายรักจาก PlayStation ในรูปแบบที่คุณสามารถจับต้องได้ด้วย เพราะมันมี Easter Egg จากบรรดาเกมบนเครื่อง PlayStation แฝงอยู่ในนี้มากมาย (เช่น God of War, Horizon Series, Ghost of Tsushima) นำเสนอผ่านธีม “โลกภายในเครื่องเกม” ได้อย่างลงตัว

ซึ่งเมื่อเห็นว่าทุกคนชื่นชอบกันมาก ก็ทำให้ Team Asobi ผู้พัฒนา, ได้เดินหน้าต่อแบบเต็มกำลัง รังสรรค์ออกมาเป็นจดหมายรักฉบับใหม่อย่าง “Astro Bot” ที่คราวนี้เราจะได้ออกมาผจญภัยในโลกภายนอกแล้ว ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะต้องออกตามหาเพื่อน ๆ Astro ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ตามด่านต่าง ๆ ภายในเกม

การนำเสนอ

สำหรับภาคนี้ จะใช้วิธีเลือกด่านเล่นผ่าน Hub ที่มีลักษณะเหมือนกาแล็กซี และแต่ละด่านก็จะเป็นเหมือนดวงดาวที่เราสามารถเข้าไปสำรวจเพื่อตามหาเพื่อน ๆ Astro ได้ ซึ่งเป็นการออกแบบที่ทั้งเท่ และได้กลิ่นอายของเกมยุคเก่าที่เราจะเลือกเล่นด่านไหนก่อนก็ได้ตามแต่สะดวกใจ

และสิ่งที่ Team Asobi ยังคงทำได้ดีเสมอมา รวมถึงในภาคนี้ด้วย ก็คือการนำเสนอบรรยากาศและสีสันที่สดใส ดูเป็นมิตรและเข้าถึงได้กับผู้เล่นทุกกลุ่ม เช่นเดียวกันกับดนตรีที่มอบอารมณ์สนุกสนานอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะยามแก้พัซเซิล หรือจังหวะที่วาดลวดลายบู๊แบบน่าเอ็นดูตามสไตล์ของเจ้า Astro

ส่วนเรื่องของ Easter Egg, ตรงนี้เราไม่ขอสปอยล์ แต่บอกได้เลยว่ามันจัดเต็มกว่าภาคแรกจริง ๆ และก็เป็นไปตามที่ทีมงานเคยบอกไว้ว่าเกมนี้จะมีตัวละครรับเชิญกว่า 150 คน ซึ่งเอาเท่าที่เราเห็น ก็ต้องบอกว่าน่าจะทำให้แฟน ๆ หรือคนที่ติดตามเล่นเกมของ PlayStation มาตลอดต้องยิ้มมุมปากกันแน่นอน ไม่มากก็น้อย

ประสบการณ์ระหว่างเล่น

Astro Bot เป็นเกมผจญภัย Single Player ที่ผู้เล่นจะได้บังคับเจ้า Astro เดินหน้าลุยไปตามดวงดาว (ด่าน) ต่าง ๆ โดยแต่ละดาวก็จะมีธีมที่แตกต่างกัน เช่นป่าไม้, เขตก่อสร้าง, ภูเขาไฟ ซึ่งจุดที่น่าสนใจก็คือการทยอยแนะนำความสามารถใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ อย่างใจเย็น ทำให้เราเรียนรู้ระบบเกมได้ไม่ยาก และสัมผัสได้เลยว่าทีมงานใส่ใจกับการออกแบบมากจริง ๆ เพื่อให้เกมนี้เข้าถึงผู้เล่นได้ทุกกลุ่ม ทุกวัย

โดยในส่วนของการแก้ไขปริศนา, ภาคนี้ก็เรียกได้ว่าปล่อยของ ปล่อยไอเดียกันออกมาเยอะขึ้นผ่านพัซเซิลใหม่ ๆ เช่นการใช้รูปทรงสามเหลี่ยม / สี่เหลี่ยม / O / X เข้ามาเป็นลูกเล่นภายในด่าน และท้าทายสมองเราแบบกำลังพอดี ให้เราได้พลิกแพลงและหาทางไปต่อ

ขณะเดียวกัน ลูกเล่นพวกนี้ก็สามารถชูฟีเจอร์ของจอย DualSense ได้ไม่มีบกพร่องเหมือนเคย ทั้งเรื่องของระบบสั่น Haptic Feedback, น้ำหนักการกดปุ่มของ L2/R2 (Adaptive Trigger), เสียงบนจอย และอีกมากมาย ทุกอย่างทำได้เต็มที่แบบที่เรารู้สึกว่ามันน่าจะแตะสุดเพดานของตัวจอยแล้ว ทำให้ Astro Bot กลายเป็นเกมแม่แบบเกมใหม่ได้เลย สำหรับใครที่อยากทดสอบว่าจอย DualSense นั้นมีขีดความสามารถประมาณไหน และทำอะไรได้บ้าง

ส่วนในพาร์ทแอ็กชัน, เห็นว่าภายนอกเป็นธีมสดใสแบบนี้ แต่สัมผัสในแต่ละการโจมตีก็ถือว่าหนักแน่นสะใจเอาเรื่อง ที่สำคัญคือมันเป็นเกมที่คุณพลาดทีเดียวก็ตายทันที ! ไปเริ่มใหม่ที่จุด Checkpoint ดังนั้นมันไม่ใช่เกมง่ายที่เราจะเอาหน้าไถไปได้เรื่อย ๆ จนจบ แต่ต้องอาศัยไหวพริบและการเรียนรู้จากความผิดพลาดอยู่ประมาณหนึ่ง

เตรียมพบกัน 6 ก.ย. นี้

ถ้าวัดจากเท่าที่เห็นใน Demo, ต้องบอกว่า Astro Bot คือเกมที่ต่อยอดไอเดียได้ดีมากจริง ๆ และดูจะสมเหตุสมผลกับการเปลี่ยนจากเกมฟรีมาสู่เกมที่วางขายในราคาระดับ AAA ที่ 1,990 บาท

แต่ท้ายสุดแล้ว ก็คงต้องรอดูกันอีกทีในตัวเกมฉบับเต็ม ว่าปริมาณคอนเทนต์และคุณภาพเนื้อหานั้นจะทำออกมาได้ขนาดไหน สำหรับเกมนี้ที่ Team Asobi บอกไว้ว่าเป็นผลงานสเกลใหญ่ที่สุดแล้วของพวกเขา

Astro Bot จะวางจำหน่ายในวันที่ 6 กันยายนนี้บนเครื่อง PlayStation 5 พร้อมรองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ, ใครที่สนใจก็เตรียมจับจองเป็นเจ้าของ หรือกดพรีออเดอร์ได้เลยที่หน้าร้าน PlayStation โดยตรง :
https://www.playstation.com/th-th/games/astro-bot

SHARE

Satthathan Chanchartree

ฟ่าง - Content Writer

Back to top